รม. 13:8 อย่าเป็นหนี้อะไรใครเลย นอกจากความรักซึ่งมีต่อกัน เพราะว่าผู้ที่รักคนอื่น ก็ได้ปฏิบัติตามธรรมบัญญัติครบถ้วนแล้ว
พระคริสต์ไถ่เราพ้นคำสาปแช่งจากธรรมบัญญัติ
กท. 3:13 พระคริสต์ทรงไถ่เราให้พ้นการสาปแช่งแห่งธรรมบัญญัติ โดยการทรงถูกสาปแช่งเพื่อเรา (เพราะพระคัมภีร์เขียนไว้ว่า “ทุกคนที่ถูกแขวนไว้บนต้นไม้ต้องถูกสาปแช่ง” )
กท. 3:14 เพื่อพรของอับราฮัมจะได้มาถึงบรรดาคนต่างชาติ ที่อยู่ในพระเยซูคริสต์ เพื่อเราจะได้รับพระวิญญาณตามพระสัญญาโดยความเชื่อ
ยอห์น 10:10 THSV ขโมยนั้นย่อมมาเพื่อจะลัก ฆ่า และทำลาย เรามาเพื่อพวกเขาจะได้ชีวิตและจะได้อย่างครบบริบูรณ์
คำสาปแช่งจากการละเมิดธรรมบัญญัติมี 3 ประการด้วยกัน คือ ความยากจน การเจ็บป่วย และ ความตายฝ่ายวิญญาณ
คำสาปแช่งจากการละเมิดธรรมบัญญัติ ด้านความยากจน
ฉธบ. 28:15 “แต่ถ้าท่านไม่เชื่อฟังพระสุรเสียงของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน และไม่ระวังที่จะทำตามพระบัญญัติทั้งสิ้นของพระองค์ และกฎเกณฑ์ของพระองค์ ซึ่งข้าพเจ้าบัญชาท่านในวันนี้ แล้วคำสาปแช่งทั้งหมดเหล่านี้จะลงมาเหนือท่านและตามทันท่าน
ฉธบ. 28:16 ท่านจะถูกสาปแช่งในเมือง ท่านจะถูกสาปแช่งในทุ่งนา
ฉธบ. 28:17 กระจาดของท่านและรางนวดแป้งของท่านจะถูกสาปแช่ง
ฉธบ. 28:38 ท่านจะหว่านเมล็ดพืชมากมายไว้ในนาและเก็บผลเข้ามาแต่น้อย เพราะตั๊กแตนปาทังก้าจะกัดกินเสีย
ฉธบ. 28:39 ท่านจะปลูกและแต่งต้นองุ่น แต่ท่านจะไม่ได้ดื่มเหล้าองุ่นหรือเก็บผลเข้ามา เพราะตัวหนอนจะกินมันเสีย
ฉธบ. 28:40 ท่านจะมีต้นมะกอกอยู่ทั่วอาณาเขตของท่าน แต่ท่านจะไม่ได้น้ำมันมาชโลมตัวท่าน เพราะว่าผลมะกอกของท่านจะร่วงหล่นเสีย
ถ้าท่านทั้งหลายเชื่อฟังและทำตาม ธรรมบัญญัติ พระพรของการเชื่อฟัง ด้านความมั่งคั่ง
ฉธบ. 28:1 “ถ้าท่านตั้งใจเชื่อฟังพระสุรเสียงของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน และระวังที่จะทำตามพระบัญญัติทั้งสิ้นของพระองค์ซึ่งข้าพเจ้าบัญชาท่านในวันนี้ พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะทรงตั้งท่านไว้ให้สูงกว่าบรรดาประชาชาติทั่วโลก
ฉธบ. 28:2 พระพรเหล่านี้ทั้งสิ้นจะลงมาเหนือท่านและตามทันท่าน ถ้าท่านฟังพระสุรเสียงของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน
ฉธบ. 28:3 ท่านจะรับพระพรในเมือง ท่านจะรับพระพรในทุ่งนา
ฉธบ. 28:4 พงศ์พันธุ์ของตัวท่านเอง ผลแห่งพื้นดินของท่านและพันธุ์แห่งสัตว์ของท่านจะรับพระพร คือลูกอ่อนของฝูงโคของท่าน ลูกอ่อนของฝูงแพะแกะของท่าน
ฉธบ. 28:5 กระจาดของท่านและรางนวดแป้งของท่านจะรับพระพร
ฉธบ. 28:6 ท่านจะรับพระพรเมื่อท่านเข้ามา และท่านจะรับพระพรเมื่อท่านออกไป
ฉธบ. 28:7 “พระยาห์เวห์จะทรงทำให้ศัตรูผู้ลุกขึ้นต่อสู้ท่านพ่ายแพ้แก่ท่าน เขาจะออกมาต่อสู้ท่านทางเดียว และหนีจากท่านเจ็ดทาง
ฉธบ. 28:8 พระยาห์เวห์จะทรงบัญชาพระพรให้แก่ฉางของท่าน และทุกสิ่งที่มือท่านทำ และพระองค์จะทรงอวยพรท่านในแผ่นดินซึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านประทานแก่ท่าน
ฉธบ. 28:9 พระยาห์เวห์จะทรงตั้งท่านให้เป็นชนชาติบริสุทธิ์แด่พระองค์ ดังที่พระองค์ทรงปฏิญาณแก่ท่านแล้ว ถ้าท่านรักษาพระบัญญัติของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน และดำเนินในพระมรรคาของพระองค์
ฉธบ. 28:10 และชนชาติทั้งหลายในโลกจะเห็นว่าเขาเรียกท่านตามพระนามพระยาห์เวห์ และเขาทั้งหลายจะเกรงกลัวท่าน
ฉธบ. 28:11 พระยาห์เวห์จะทรงทำให้ท่านอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพงศ์พันธุ์ของตัวท่านเอง พันธุ์ของฝูงสัตว์ของท่านและผลแห่งพื้นดินของท่าน ในแผ่นดินซึ่งพระยาห์เวห์ทรงปฏิญาณแก่บรรพบุรุษของท่านว่าจะประทานแก่ท่าน
ฉธบ. 28:12 พระยาห์เวห์จะทรงเปิดคลังฟ้าสวรรค์อันดีของพระองค์ประทานฝนแก่แผ่นดินของท่านตามฤดูกาล และทรงอวยพรแก่งานแห่งมือของท่าน และท่านจะให้หลายประชาชาติขอยืม แต่ท่านจะไม่ขอยืม
ฉธบ. 28:13 ถ้าท่านเชื่อฟังพระบัญญัติของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ซึ่งข้าพเจ้าบัญชาท่านในวันนี้ และระวังที่จะทำตาม พระยาห์เวห์จะทรงทำให้ท่านเป็นหัวไม่ใช่เป็นหาง ทำให้สูงขึ้นเท่านั้นไม่ใช่ให้ต่ำลง
**************
ลนต. 26:3 “ถ้าเจ้าทั้งหลายดำเนินตามกฎเกณฑ์ของเรา รักษาบัญญัติของเรา และทำตาม
ลนต. 26:4 เราจะประทานฝนตามฤดูแก่เจ้า แผ่นดินจะเกิดพืชผล ต้นไม้ในทุ่งจะบังเกิดผล
ลนต. 26:5 เวลานวดข้าวจะยาวนานถึงฤดูเก็บผลองุ่น ฤดูเก็บผลองุ่นจะยาวนานไปถึงฤดูหว่าน พวกเจ้าจะรับประทานอาหารอย่างอิ่มหนำ และอยู่ในแผ่นดินของเจ้าอย่างปลอดภัย
ลนต. 26:6 เราจะให้เกิดสันติภาพในแผ่นดิน เจ้าทั้งหลายจะนอนลง และไม่มีใครทำให้เจ้ากลัว เราจะขจัดสัตว์ร้ายจากแผ่นดิน และดาบจะไม่ผ่านแผ่นดินของพวกเจ้าเลย
ลนต. 26:7 พวกเจ้าจะขับไล่ศัตรูของเจ้าทั้งหลาย เขาทั้งหลายจะล้มลงต่อหน้าพวกเจ้าด้วยดาบ
ลนต. 26:8 พวกเจ้าห้าคนจะขับไล่ศัตรูร้อยคน พวกเจ้าร้อยคนจะขับไล่ศัตรูหมื่นคน ศัตรูของพวกเจ้าจะล้มลงด้วยดาบต่อหน้าเจ้าทั้งหลาย
ลนต. 26:9 และเราจะคิดถึงพวกเจ้า จะทำให้พวกเจ้ามีพงศ์พันธุ์มากยิ่งขึ้น และรักษาพันธสัญญาซึ่งมีไว้กับเจ้าทั้งหลาย
ลนต. 26:10 พวกเจ้าจะได้รับประทานของที่สะสมไว้นาน และจะต้องเอาของเก่าออกไปเพื่อจะมีที่สำหรับเก็บของใหม่
ลนต. 26:11 เราจะตั้งที่ประทับของเราในหมู่พวกเจ้า เราจะไม่เกลียดชังเจ้า
ลนต. 26:12 เราจะดำเนินในหมู่พวกเจ้า จะเป็นพระเจ้าของเจ้า และเจ้าจะเป็นประชากรของเรา
ลนต. 26:13 เราคือยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า ผู้นำเจ้าออกจากแผ่นดินอียิปต์ เพื่อเจ้าจะมิได้เป็นทาสของเขา เราได้หักไม้ที่เป็นแอกของเจ้าออกเสียเพื่อให้เจ้าเดินตัวตรงได้
ลนต. 26:1 ห้ามเจ้าทั้งหลายทำรูปเคารพสำหรับตัว หรือตั้งรูปแกะสลัก หรือเสาศักดิ์สิทธิ์ และห้ามตั้งรูปศิลาแกะสลักไว้ในแผ่นดินของเจ้าเพื่อจะกราบไหว้ เพราะเราคือยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า
ลนต. 26:2 จงรักษาสะบาโตทั้งหลายของเรา และเคารพต่อสถานนมัสการของเรา เราคือยาห์เวห์
***************
พระประสงค์ หรือน้ำพระทัยของพระเจ้าสำหรับ 3 ด้านดังกล่าว คือ ความมั่งคั่ง การไม่เจ็บป่วย และ การไม่ตายฝ่ายวิญญาณ
3ยน. 1:2 ท่านที่รัก ข้าพเจ้าอธิษฐานขอให้ท่านมีสุขภาพแข็งแรง และมีความสุข ความเจริญทุกอย่าง ดังที่จิตวิญญาณของท่านกำลังเจริญอยู่นั้น
มัทธิว 6:33 THSV11 แต่พวกท่านจงแสวงหาแผ่นดินของพระเจ้า และความชอบธรรมของพระองค์ก่อน แล้วพระองค์จะทรงเพิ่มเติมสิ่งทั้งปวงนี้ให้
ฟป. 4:19 และพระเจ้าของข้าพเจ้าจะประทานทุกสิ่งที่จำเป็นแก่พวกท่านจากทรัพย์อันรุ่งโรจน์ของพระองค์ในพระเยซูคริสต์
แต่ทั้งนี้ พระเยซูคริสต์ ยังคงกำชับเราดังนี้
ลก. 6:38 จงให้เขา แล้วพวกท่านจะได้รับด้วยแบบยัดสั่นแน่นพูนล้นเต็มหน้าตักของท่าน เพราะว่าเมื่อท่านตวงให้เขาเท่าไร ท่านก็จะได้รับการตวงกลับคืนไปเท่านั้นเช่นกัน” (ถ้าสามารถถวายได้ 500$ แต่ไม่สามารถถวายได้ 1,000$ ให้ถวาย1,000$ ถ้าสามารถถวายได้ 1,000$ แต่ไม่สามารถถวายได้ 2,000$ ให้ถวาย2,000$ โดยนำเงินที่ไม่สามารถถวายได้นั้นมาวางที่ ข้อพระคัมภีร์ ลก. 6:38 แล้วประกาศว่า พระเยซูคริสต์เจ้าข้า ลูกทำตามถ้อยคำของพระองค์แล้ว เมื่อท่านทำด้วยความเชื่อให้ท่านวางใจในพระเยซูคริสต์ พระเจ้าของท่าน)
มลค. 3:10 พระยาห์เวห์จอมทัพตรัสว่า จงนำทศางค์เต็มขนาดมาไว้ในคลัง เพื่อว่าจะมีอาหารในนิเวศของเรา จงลองดูเราในเรื่องนี้ว่า เราจะเปิดหน้าต่างในฟ้าสวรรค์ให้เจ้า และเทพรอย่างล้นไหลมาให้เจ้าหรือไม่
อับรามถวายทศางค์ก่อนมีธรรมบัญญัติ 500 ปี ยาโคบถวายทศางค์ก่อนมีธรรมบัญญัติ 250 ปี
ปฐก. 14:8 แล้วกษัตริย์เมืองโสโดม กษัตริย์เมืองโกโมราห์ กษัตริย์เมืองอัดมาห์ กษัตริย์เมืองเศโบยิมและกษัตริย์เมืองเบ-ลา(คือ โศอาร์) ก็ไปรวมกันเพื่อทำสงครามที่หุบเขาสิดดิม
ปฐก. 14:9 ปะทะกับเคโดร์ลาโอเมอร์กษัตริย์เอลาม ทิดาลกษัตริย์โกยิม อัมราเฟลกษัตริย์ชินาร์ และอารีโอคกษัตริย์เอลลาสาร์ กษัตริย์สี่องค์ต่อสู้กับห้าองค์
ปฐก. 14:10 ที่หุบเขาสิดดิมนั้นมีบ่อยางมะตอยเต็มไปหมด เมื่อกษัตริย์เมืองโสโดมและกษัตริย์เมืองโกโมราห์หลบหนี จึงตกลงไปในนั้น ส่วนคนที่เหลือก็หนีไปที่ภูเขา
ปฐก. 14:11 ข้าศึก ยึดข้าวของและเสบียงอาหารทั้งหมดของโสโดมและโกโมราห์แล้วก็ไป
ปฐก. 14:12 พวกเขาจับโลท (บุตรของน้องชายอับราม) ซึ่งอยู่ที่โสโดม และยึดข้าวของของเขาไปด้วย
ปฐก. 14:13 มีคนหนึ่งหนีมาจากที่รบนั้นบอกให้อับรามคนฮีบรูรู้ อับรามอาศัยอยู่ที่หมู่ต้นโอ๊กของมัมเรคนอาโมไรต์ พี่น้องของเอชโคล์และอาเนอร์ คนเหล่านี้เป็นพันธมิตรของอับราม
ปฐก. 14:14 เมื่ออับรามได้ยินว่าญาติของท่านถูกจับไป จึงนำคนชำนาญศึกที่เกิดในบ้านของท่าน 318 คนไล่ตามไปถึงเมืองดาน
ปฐก. 14:15 อับรามจึงแบ่งคนเข้าต่อสู้พวกข้าศึกในเวลากลางคืน ทั้งท่านและพวกคนใช้ของท่านโจมตีพวกข้าศึก และไล่ตามพวกเขาไปถึงโฮบาห์เหนือดามัสกัส
ปฐก. 14:16 แล้วท่านนำข้าวของทั้งหมดกลับคืนมา และนำโลทญาติของท่านกลับมา พร้อมกับข้าวของของเขา รวมทั้งบรรดาผู้หญิงและประชาชนด้วย
ปฐก. 14:17 เมื่ออับรามกลับจากการรบชนะกษัตริย์เคโดร์ลาโอเมอร์และกษัตริย์ทั้งหลายที่อยู่ด้วยกันแล้ว กษัตริย์เมืองโสโดมก็มาพบอับรามที่หุบเขาชาเวห์(คือหุบเขาของกษัตริย์)
ปฐก. 14:18 เมลคีเซเดคผู้เป็นทั้งกษัตริย์ซาเลมและปุโรหิตของพระเจ้าผู้สูงสุด ก็นำขนมปังกับเหล้าองุ่นมาให้
ปฐก. 14:19 แล้วอวยพรท่าน กล่าวว่า “ขอให้อับรามรับพรจากพระเจ้าผู้สูงสุด ผู้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก
ปฐก. 14:20 ขอพระเกียรติเป็นของพระเจ้าผู้สูงสุด ผู้ทรงมอบศัตรูทั้งหลายไว้ในมือของท่าน” อับรามก็มอบหนึ่งในสิบจากข้าวของทั้งหมดนั้นถวายแก่กษัตริย์เมลคีเซเดค
(ลำดับเหตุการณ์ช่วงสั้นๆ
1.พระเจ้าช่วยอับรามรบชนะ กษัตริย์ที่กำลังชนะสงคราม 5 กษัตริย์ที่ทำสงครามกับ 4 กษัตริย์ ด้วยคนชำนาญศึกที่เกิดในบ้านของท่าน 318 คน (พระเจ้าประทานชัยชนะ)
2.เมลคีเซเดคผู้เป็นทั้งกษัตริย์ซาเลมและปุโรหิตของพระเจ้าผู้สูงสุด ก็นำขนมปังกับเหล้าองุ่นมาให้ (พระเจ้าเลี้ยงดู)
3.แล้วอวยพรท่าน (พระเจ้าอวยพร)
4.อับรามก็มอบหนึ่งในสิบจากข้าวของทั้งหมดนั้นถวายแก่เมลคีเซเดค(อับรามถวายทศางค์)
สรุป เมื่อมองย้อนกลับ เราถวายสิบลดได้ เป็นการประกาศว่า พระเจ้าอวยพรเราก่อนแล้ว พระเจ้าเลี้ยงดูเรามานานแล้ว และเรามีชัยชนะ(รบชนะ)แล้ว)
ฮบ. 7:8 ในกรณีหนึ่ง ทศางค์ก็รับโดยมนุษย์ที่ต้องตาย แต่ในอีกกรณีหนึ่ง ก็รับโดยผู้ที่มีหลักฐานว่าท่านยังมีชีวิตอยู่(พระเยซูคริสต์)
ฮบ. 7:9 ถ้าจะพูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ เลวีผู้รับทศางค์นั้นก็ได้ถวายทศางค์ทางอับราฮัม
ฮบ. 7:10 เพราะว่าขณะนั้นเลวียังอยู่ในสายเลือดของบรรพบุรุษ คืออับราฮัม ขณะที่เมลคีเซเดคมาพบอับราฮัม
พระพรของอับราฮัม เป็นของเรา
กท. 3:14 เพื่อพรของอับราฮัมจะได้มาถึงบรรดาคนต่างชาติ ที่อยู่ในพระเยซูคริสต์ เพื่อเราจะได้รับพระวิญญาณตามพระสัญญาโดยความเชื่อ
เรื่องแรกคือ ความมั่งคั่ง (ให้อย่างเต็มขนาด เต็มที่ หรือ จัดเตรียมให้อย่างมากมาย)
(โรม 4:13 THSV11 เพราะว่าพระสัญญาที่ประทานแก่อับราฮัมและลูกหลานของท่านที่ว่า จะได้ทั้งพิภพเป็นมรดก นั้นไม่ได้มาโดยธรรมบัญญัติ แต่มาโดยความชอบธรรมที่เกิดจากความเชื่อ
โรม 4:16 THSV11 เพราะเหตุนี้ การเป็นทายาทนั้นจึงขึ้นอยู่กับความเชื่อ เพื่อจะได้เป็นตามพระคุณ เพื่อรับรองพระสัญญานั้นแก่ลูกหลานของอับราฮัมทุกคน ไม่ใช่แก่ลูกหลานที่ถือธรรมบัญญัติเท่านั้น แต่แก่ลูกหลานที่มีความเชื่อเช่นเดียวกับอับราฮัมผู้เป็นบิดาของเราทุกคน
โรม 4:20 THSV11 ท่านไม่ได้หวั่นไหวแคลงใจในพระสัญญาของพระเจ้า แต่ท่านมีความเชื่อมั่นคง จึงถวายเกียรติแด่พระเจ้า)
1ทธ. 6:10 เพราะว่าการรักเงินทองเป็นรากเหง้าของความชั่วทั้งหมด ความโลภเงินทองนี้ที่ทำให้บางคนหลงไปจากความเชื่อ และตรอมตรมด้วยความทุกข์มากมาย
มีเงินไม่ผิด แต่เป็นทาสเงินจึงผิด (คนเป็นทาสเงิน คือทำทุกอย่างแม้สิ่งที่ผิดก็ทำเพราะเป็นทาสเงิน)
โยบ เป็นคนดีพร้อมและเที่ยงธรรม เป็นผู้ยำเกรงพระเจ้าและหันจากความชั่วร้าย
โยบ 1:2 ท่านมีบุตรชาย 7 คนและบุตรหญิง 3 คน
โยบ 1:3 ส่วนทรัพย์สมบัติของท่าน มีแกะ 7,000 ตัว อูฐ 3,000 ตัว วัว 500 คู่ ลาตัวเมีย 500 ตัว และคนใช้มากมาย ดังนั้นชายผู้นี้จึงมั่งคั่งที่สุดในบรรดาชาวตะวันออก
โยบ 1:4 บุตรของท่านเคยจัดงานเลี้ยงในบ้านของแต่ละคนตามวันกำหนดของตน พวกเขาจะเชิญน้องสาวทั้งสามคนมารับประทานและดื่มกับพวกเขาด้วย
โยบ 1:5 และเมื่องานเลี้ยงเวียนครบรอบแล้ว โยบจะทำพิธีชำระตัวเขาทั้งหลายให้บริสุทธิ์ และท่านจะตื่นแต่เช้ามืด ถวายเครื่องบูชาเผาทั้งตัวตามจำนวนของเขาทั้งหมด เพราะโยบกล่าวว่า “บางทีลูกๆ ของข้าได้ทำบาปและแช่งพระเจ้าในใจ” โยบทำอย่างนี้เรื่อยมา
โยบ 1:6 อยู่มาวันหนึ่ง เมื่อเหล่าทูตสวรรค์มารายงานตัวต่อพระยาห์เวห์ ซาตานได้มาในหมู่เขาด้วย
โยบ 1:7 พระยาห์เวห์ตรัสถามซาตานว่า “เจ้ามาจากไหน?” ซาตานทูลตอบพระยาห์เวห์ว่า “จากไปๆ มาๆ บนแผ่นดินโลก และจากเดินไปเรื่อยๆ บนนั้น”
โยบ 1:8 และพระยาห์เวห์ตรัสกับซาตานว่า “เจ้าได้พิจารณาดูโยบผู้รับใช้ของเราหรือไม่ว่า ในแผ่นดินโลกไม่มีใครเหมือนเขา เป็นคนดีพร้อมและเที่ยงธรรม เป็นผู้ยำเกรงพระเจ้าและหันจากความชั่วร้าย?”
โยบ 1:9 แล้วซาตานทูลตอบพระยาห์เวห์ว่า “โยบยำเกรงพระเจ้าเปล่าๆ หรือ?
โยบ 1:10 พระองค์ไม่ได้ทรงกั้นรั้วรอบตัวเขา ครอบครัวของเขา และทุกสิ่งที่เขามีอยู่เสียทุกด้านหรือ? พระองค์ได้ทรงอวยพรงานที่มือเขาทำ และฝูงปศุสัตว์ของเขาได้ทวีขึ้นในแผ่นดิน
โยบ 1:11 แต่ขอยื่นพระหัตถ์แตะต้องสิ่งของทั้งสิ้นที่เขามีอยู่ แล้วเขาจะแช่งพระองค์ต่อพระพักตร์พระองค์”
โยบ 1:12 และพระยาห์เวห์ตรัสกับซาตานว่า “ดูเถิด ทุกสิ่งที่เขามีก็อยู่ในมือของเจ้า เพียงแต่อย่ายื่นมือแตะต้องตัวเขา” ซาตานจึงออกไปจากเบื้องพระพักตร์พระยาห์เวห์
โยบ 1:13 อยู่มาวันหนึ่ง เมื่อบุตรชายหญิงของท่านกำลังรับประทานและดื่มเหล้าองุ่นอยู่ในบ้านพี่ชายคนโตของเขา
โยบ 1:14 มีผู้สื่อสารมาหาโยบเรียนว่า “ฝูงวัวกำลังไถนาอยู่ และฝูงลาตัวเมียกำลังกินหญ้าอยู่ข้างๆ
โยบ 1:15 คนเสบาก็มาโจมตีเอามันไป และฆ่าคนใช้ด้วยคมดาบ และข้าพเจ้าคนเดียวได้หนีรอดมาเรียนท่าน”
โยบ 1:16 ขณะที่เขากำลังพูดอยู่ ก็มีอีกคนหนึ่งมาเรียนว่า “ไฟของพระเจ้าตกจากฟ้าไหม้แกะกับคนใช้ และเผาผลาญหมด และข้าพเจ้าคนเดียวได้หนีรอดมาเรียนท่าน”
โยบ 1:17 ขณะที่เขากำลังพูดอยู่ ก็มีอีกคนหนึ่งมาเรียนว่า “ชาวเคลเดียจัดเป็นสามกองเข้าปล้นเอาอูฐไป และฆ่าคนใช้ด้วยคมดาบ และข้าพเจ้าคนเดียวได้หนีรอดมาเรียนท่าน”
โยบ 1:18 ขณะที่เขากำลังพูดอยู่ ก็มีอีกคนหนึ่งมาเรียนว่า “ลูกชายกับลูกสาวของท่านกำลังรับประทานและดื่มเหล้าองุ่นอยู่ในบ้านพี่ชายคนโตของเขา
โยบ 1:19 และดูเถิด มีพายุข้ามถิ่นทุรกันดารมาปะทะบ้านทั้งสี่มุมจนพังลงทับคนหนุ่มสาว และพวกเขาก็ตาย ข้าพเจ้าคนเดียวได้หนีรอดมาเรียนท่าน”
โยบ 1:20 แล้วโยบก็ลุกขึ้น ฉีกเสื้อคลุมของตน โกนศีรษะ กราบลงถึงดินนมัสการ
โยบ 1:21 ท่านว่า “ข้ามาจากครรภ์มารดาตัวเปล่า และข้าจะกลับไปตัวเปล่า พระยาห์เวห์ประทาน และพระยาห์เวห์ทรงเอาไปเสีย สาธุการแด่พระนามพระยาห์เวห์”
โยบ 1:22 ในเหตุการณ์นี้ทั้งสิ้น โยบไม่ได้ทำบาปหรือกล่าวโทษพระเจ้า
โยบ 2:1 และอยู่มาวันหนึ่ง เมื่อเหล่าทูตสวรรค์มารายงานตัวต่อพระยาห์เวห์ ซาตานได้มาในหมู่เขา เพื่อรายงานตัวต่อพระยาห์เวห์ด้วย
โยบ 2:2 และพระยาห์เวห์ตรัสถามซาตานว่า “เจ้ามาจากไหน?” ซาตานทูลตอบพระยาห์เวห์ว่า “จากไปๆ มาๆ บนแผ่นดินโลก และจากเดินไปเรื่อยๆ บนนั้น”
โยบ 2:3 และพระยาห์เวห์ตรัสกับซาตานว่า “เจ้าได้พิจารณาดูโยบผู้รับใช้ของเราหรือไม่ว่า ในแผ่นดินโลกไม่มีใครเหมือนเขา เป็นคนดีพร้อมและเที่ยงธรรม เป็นผู้ยำเกรงพระเจ้าและหันจากความชั่วร้าย? เขายังยึดมั่นในความซื่อสัตย์ของเขาอยู่ ถึงแม้เจ้าชวนเราให้ต่อสู้กับเขา เพื่อทำลายเขาโดยไม่มีเหตุ”
โยบ 2:4 แล้วซาตานทูลตอบพระยาห์เวห์ว่า “หนังแทนหนัง คนย่อมให้ทุกอย่างที่เขามีอยู่แทนชีวิตของเขา
โยบ 2:5 แต่บัดนี้ขอเหยียดพระหัตถ์แตะต้องกระดูกและเนื้อของเขา แล้วเขาจะแช่งพระองค์ต่อพระพักตร์พระองค์”
โยบ 2:6 และพระยาห์เวห์ตรัสกับซาตานว่า “ดูเถิด เขาอยู่ในมือเจ้า จงไว้ชีวิตเขาเท่านั้น”
โยบ 2:7 ซาตานจึงออกไปจากเบื้องพระพักตร์พระยาห์เวห์ และทำให้โยบเป็นฝีร้าย ตั้งแต่ฝ่าเท้าจนถึงกระหม่อม
โยบ 2:8 และท่านก็เอาชิ้นหม้อแตกมาขูดตัว และนั่งอยู่ในกองขี้เถ้า
โยบ 2:9 แล้วภรรยาท่านกล่าวกับท่านว่า “เธอยังจะยึดมั่นในความซื่อสัตย์อยู่อีกหรือ? จงแช่งพระเจ้าและตายเสียเถอะ”
โยบ 2:10 แต่ท่านตอบนางว่า “เธอพูดอย่างหญิงโง่เขลาจะพึงพูด เราจะรับสิ่งดีจากพระเจ้า และจะไม่รับสิ่งไม่ดีบ้างหรือ?” ในเหตุการณ์นี้ทั้งสิ้น โยบไม่ได้ทำบาปด้วยริมฝีปากของตน
โยบ 42:1 แล้วโยบทูลพระยาห์เวห์ว่า
โยบ 42:2 “ข้าพระองค์ทราบว่า พระองค์ทรงทำทุกสิ่งได้ และพระประสงค์ของพระองค์จะสำเร็จ
โยบ 42:6 ฉะนั้นข้าพระองค์จึงเกลียดตนเอง และกลับใจอยู่ในผงคลีดินและขี้เถ้า”
โยบ 42:7 หลังจากพระยาห์เวห์ตรัสพระวจนะเหล่านี้แก่โยบแล้ว พระยาห์เวห์ตรัสกับเอลีฟัสชาวเทมานว่า “เราโกรธเจ้าและสหายทั้งสองของเจ้า เพราะเจ้าทั้งหลายไม่ได้พูดถึงเราอย่างถูกต้อง เหมือนโยบผู้รับใช้ของเราได้พูด
โยบ 42:8 เพราะฉะนั้นจงเอาวัวผู้ 7 ตัว และแกะผู้ 7 ตัว ไปหาโยบผู้รับใช้ของเรา และถวายเครื่องบูชาเผาทั้งตัวสำหรับพวกเจ้า แล้วโยบผู้รับใช้ของเราจะอธิษฐานเพื่อพวกเจ้า เพราะเราจะรับคำอธิษฐานของเขา เราจะไม่ทำแก่เจ้าตามความโง่ของเจ้า เพราะเจ้าทั้งหลายไม่ได้พูดถึงเราอย่างถูกต้อง เหมือนโยบผู้รับใช้ของเราได้พูด”
โยบ 42:9 ฝ่ายเอลีฟัสชาวเทมาน และบิลดัดชาวชูอาห์ และโศฟาร์ชาวนาอาเมห์ ได้ไปทำตามที่พระยาห์เวห์ตรัสสั่ง และพระยาห์เวห์ทรงรับคำอธิษฐานของโยบ
โยบ 42:10 และพระยาห์เวห์ทรงให้โยบกลับสู่สภาพดี เมื่อท่านอธิษฐานเผื่อสหายของท่าน และพระยาห์เวห์ประทานให้โยบมีมากเป็นสองเท่าของที่มีอยู่ก่อน
โยบ 42:11 และพี่น้องชายหญิงของท่านและบรรดาผู้ที่รู้จักท่านมาก่อนได้มาหาท่าน และรับประทานอาหารกับท่านในบ้านของท่าน และเขาทั้งหลายแสดงความเห็นใจและปลอบโยนท่าน ด้วยเรื่องเหตุร้ายทั้งสิ้นซึ่งพระยาห์เวห์ทรงนำมาเหนือท่าน และต่างก็ให้เงินแผ่นหนึ่งกับแหวนทองคำวงหนึ่งแก่ท่าน
โยบ 42:12 และพระยาห์เวห์ทรงอวยพรชีวิตตอนปลายของโยบมากยิ่งกว่าตอนต้นของท่าน และท่านมีแกะ 14,000 ตัว อูฐ 6,000 ตัว วัวผู้ 1,000 คู่ และลาตัวเมีย 1,000 ตัว
โยบ 42:13 ท่านมีบุตรชาย 7 คนและบุตรหญิง 3 คนด้วย
โยบ 42:15 ทั่วทั้งแผ่นดิน ไม่มีหญิงใดงดงามเท่าบุตรสาวของโยบ และบิดาได้ให้มรดกแก่พวกเธอพร้อมกับพวกพี่ชายและน้องชาย
โยบ 42:16 ต่อจากนี้ไป โยบมีชีวิตอยู่อีก 140 ปี และได้เห็นบุตรชายของท่านกับหลานเหลนของท่านสี่ชั่วอายุ
(ฉะนั้น ถ้าท่านว่าท่านเป็นเหมือนโยบ ท่านจะมั่งคั่งขึ้นมากกว่าเดิมอย่างน้อย 2 เท่า)
สภษ. 19:17 คนที่เมตตาคนยากจนก็ให้พระยาห์เวห์ทรงยืม และพระองค์จะทรงตอบแทนการกระทำของเขา
ลก. 5:2 พระองค์ทอดพระเนตรเห็นเรือสองลำจอดอยู่ที่ริมฝั่งทะเลสาบ แต่ชาวประมงขึ้นจากเรือแล้วและกำลังซักอวนอยู่
ลก. 5:3 พระองค์จึงเสด็จลงเรือลำหนึ่งซึ่งเป็นเรือของซีโมน ทรงขอให้เขาถอยออกไปจากฝั่งหน่อยหนึ่ง แล้วพระองค์ประทับลงสอนฝูงชนจากเรือลำนั้น
ลก. 5:4 เมื่อพระองค์ตรัสสอนเสร็จแล้ว จึงตรัสกับซีโมนว่า “จงถอยออกไปที่น้ำลึก แล้วหย่อนอวนลงจับปลา”
ลก. 5:5 ซีโมนทูลตอบว่า “อาจารย์ เราทอดอวนมาตลอดทั้งคืนแล้วไม่ได้อะไรเลย แต่ข้าพเจ้าก็จะหย่อนอวนลงตามคำของท่าน”
ลก. 5:6 เมื่อพวกเขาหย่อนลงแล้วก็จับปลาได้จำนวนมาก จนอวนของเขาเริ่มจะปริ
ลก. 5:7 พวกเขาจึงทำสัญญาณบอกเพื่อนๆ ที่อยู่ในเรืออีกลำหนึ่งให้มาช่วย พวกเขาก็มา และได้ปลาเต็มเรือทั้งสองลำจนเรือเพียบ
สดุดี 23:5 THSV11 “พระองค์ทรงจัดเตรียมโต๊ะอาหารให้ข้าพระองค์ ต่อหน้าต่อตาคู่อริของข้าพระองค์ พระองค์ทรงเจิมศีรษะข้าพระองค์ด้วยน้ำมัน ถ้วยของข้าพระองค์ก็ล้นอยู่”
สดุดี 23:5 TNCV “พระองค์ทรงจัดเตรียมอาหารสำหรับข้าพระองค์ ต่อหน้าศัตรูทั้งหลายของข้าพระองค์ พระองค์ทรงเจิมศีรษะข้าพระองค์ด้วยน้ำมัน จอกของข้าพระองค์เปี่ยมล้นอยู่”
(ต่อหน้าต่อตาคู่อริของข้าพระองค์ ต่อหน้าศัตรูทั้งหลายของข้าพระองค์ หมายความว่า เรากำลังทำสงคราม พระเจ้าจะจัดเตรียมการเลี้ยงดู การอวยพรไว้สำหรับเรา เมื่อ…………..)
1.อธิษฐานสั่งผูกมัด ให้เราผูกมัดผี
มัทธิว 18:18 THSV11 “เราบอกความจริงกับท่านทั้งหลายว่า สิ่งใดๆ ที่พวกท่านจะกล่าวห้ามในโลก สิ่งนั้นก็จะถูกกล่าวห้ามในสวรรค์ และสิ่งใดๆ ที่พวกท่านจะกล่าวอนุญาตในโลก สิ่งนั้นก็จะได้รับอนุญาตในสวรรค์”
2.อธิษฐานสั่งขับไล่
มาระโก 16:17 THSV11 “มีคนเชื่อที่ไหนหมายสำคัญเหล่านี้จะเกิดขึ้นที่นั้น คือพวกเขาจะขับผีออกโดยนามของเรา พวกเขาจะพูดภาษาแปลกๆ”
(ซาตาน จงเอามือออกไปจากเงินของฉัน จากทรัพย์สมบัติของฉัน ฉันเป็นเจ้าของและครอบครองโดยพระเยซูคริสต์ เพื่ออาณาจักรของพระเยซูคริสต์พระเจ้าของฉัน เอเมน)
3.อธิษฐานสั่งทำลาย
1 ยอห์น 3:8 THSV11 “ผู้ที่ทำบาปก็มาจากมาร เพราะว่ามารก็ทำบาปตั้งแต่เริ่มแรก พระบุตรของพระเจ้าได้เสด็จมาปรากฏก็เพราะเหตุนี้ คือเพื่อทำลายกิจการของมาร”
4.อธิษฐานสั่ง กระตือรือร้นและรุนแรง
มัทธิว 11:12 THSV11 “และตั้งแต่สมัยยอห์นผู้ให้บัพติศมาถึงทุกวันนี้ แผ่นดินสวรรค์ก็ถูกโจมตีอย่างรุนแรง และพวกที่รุนแรงพยายามชิงเอาให้ได้”
5.อธิษฐานขอไฟ
ฮีบรู 12:29 THSV11 “เพราะว่าพระเจ้าของเรานั้นทรงเป็นเพลิงที่เผาผลาญ”
6.อธิษฐานสม่ำเสมอ
มัทธิว 13:25 THSV11 “แต่เมื่อคนทั้งหลายนอนหลับอยู่ ศัตรูของคนนั้นมาหว่านข้าวละมานปนกับข้าวดีนั้นไว้แล้วก็หลบไป”
7.อธิษฐานถอนออก
มัทธิว 15:13 THSV11 “พระองค์จึงตรัสตอบว่า “ต้นไม้ทุกต้น ซึ่งพระบิดาของเราผู้สถิตในสวรรค์ ไม่ได้ทรงปลูกไว้จะต้องถูกถอนออกเสีย”
8.อธิษฐานปกป้องคุ้มครอง
สดุดี 125:1-2 THSV11 “บรรดาผู้ที่วางใจในพระยาห์เวห์ก็เหมือนภูเขาศิโยน ซึ่งไม่หวั่นไหว แต่ดำรงอยู่เป็นนิตย์ ภูเขาอยู่รอบเยรูซาเล็มฉันใด พระยาห์เวห์ทรงอยู่รอบประชากรของพระองค์ ตั้งแต่บัดนี้สืบไปเป็นนิตย์ฉันนั้น”
เศคาริยาห์ 2:5 THSV11 “เราจะเป็นเหมือนกำแพงเพลิงล้อมเธอไว้ และเราจะเป็นศักดิ์ศรีในเมืองนั้น พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้แหละ’”
9.อธิษฐานสั่งปลดแอก
มัทธิว 11:28-30 THSV11 “บรรดาผู้เหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนัก จงมาหาเรา และเราจะให้ท่านทั้งหลายได้หยุดพัก จงเอาแอกของเราแบกไว้ แล้วเรียนจากเรา เพราะว่าเราสุภาพอ่อนโยนและใจอ่อนน้อม และจิตใจของพวกท่านจะได้หยุดพัก ด้วยว่าแอกของเราก็พอเหมาะ และภาระของเราก็เบา””
อิสยาห์ 10:27 THSV11 “และในวันนั้นภาระของเขาจะหลุดจากบ่าของท่านและแอกของเขาจากคอของท่าน และแอกก็ถูกทำลายเพราะความอ้วน”
สดุดี 144:1 THSV11 “สาธุการแด่พระยาห์เวห์ พระศิลาของข้าพระองค์ ผู้ทรงฝึกมือของข้าพระองค์ให้ทำสงคราม และฝึกนิ้วมือของข้าพระองค์ให้ทำศึก”
10.อธิษฐานสั่งเปิดผ้าคลุมหน้า
อิสยาห์ 25:7 THSV11 “และบนภูเขานี้ พระองค์จะทรงทำลาย ผ้าที่คลุมอยู่บนชนชาติทั้งหมด และผ้าคลุมหน้าที่คลุมประชาชาติทั้งหมด”
อิสยาห์ 54:15 THSV11 “ถ้ามีใครปลุกปั่นให้เกิดการต่อสู้ ก็ต้องไม่ใช่มาจากเรา ใครปลุกปั่นให้เกิดการต่อสู้เจ้า เขาก็จะล้มลงเพราะเจ้า
อิสยาห์ 54:17 THSV11 อาวุธทุกชนิดที่ทำขึ้นเพื่อต่อสู้เจ้าจะไม่ชนะ และเจ้าจะพิสูจน์ว่าลิ้นทุกลิ้นที่ลุกขึ้นต่อสู้เจ้าในการพิพากษานั้นชั่วร้าย นี่คือมรดกของบรรดาผู้รับใช้ของพระยาห์เวห์ และการให้ความยุติธรรมต่อพวกเขานั้นมาจากเรา” พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้แหละ”
สดุดี 107:16 THSV11 “เพราะพระองค์ทรงพังประตูทองสัมฤทธิ์ และทรงตัดซี่ลูกกรงเหล็กเสีย”
สดุดี 24:7-8 THSV11 “ประตูเมืองเอ๋ย จงยกหัวของเจ้าขึ้น บานประตูนิรันดร์เอ๋ย จงยกขึ้นเถิด เพื่อกษัตริย์ผู้ทรงพระสิริจะได้เสด็จเข้ามา กษัตริย์ผู้ทรงพระสิรินั้นคือผู้ใด? คือพระยาห์เวห์ ผู้ทรงเข้มแข็งและทรงอานุภาพ พระยาห์เวห์ผู้ทรงอานุภาพในสงคราม”
ชัยชนะ
วว. 2:7 ใครมีหูก็ให้ฟังข้อความที่พระวิญญาณตรัสกับคริสตจักรทั้งหลาย คนที่ชนะ เราจะให้เขากินผลจากต้นไม้ที่ให้ชีวิต ที่อยู่ในเมืองบรมสุขเกษมของพระเจ้า” ’
วว. 2:11 ใครมีหูก็ให้ฟังข้อความที่พระวิญญาณตรัสกับคริสตจักรทั้งหลาย คนที่ชนะจะไม่ได้รับอันตรายจากความตายครั้งที่สองเลย” ’
วว. 2:17 ใครมีหูก็ให้ฟังข้อความที่พระวิญญาณตรัสกับคริสตจักรทั้งหลาย เราจะให้มานาที่ซ่อนอยู่แก่คนที่ชนะ และจะให้หินขาวแก่เขาด้วย และบนหินนั้นจะมีชื่อใหม่จารึกไว้ซึ่งไม่มีใครรู้เลยนอกจากผู้ที่ได้รับ” ’
(1คร. 10:3 ได้รับประทานอาหารฝ่ายจิตวิญญาณเดียวกันทุกคน
1คร. 10:4 และได้ดื่มน้ำฝ่ายจิตวิญญาณเดียวกันทุกคน เพราะว่าพวกเขาได้ดื่มจากพระศิลาฝ่ายจิตวิญญาณที่ติดตามเขาไป พระศิลานั้นคือพระคริสต์)
วว. 2:26 และคนที่ชนะและปฏิบัติงานของเราจนถึงที่สุด เราจะประทานสิทธิอำนาจเหนือบรรดาประชาชาติกับเขา
วว. 3:5 เช่นเดียวกัน คนที่ชนะก็จะสวมเสื้อสีขาว และเราจะไม่ลบชื่อของเขาออกจากหนังสือแห่งชีวิต เราจะรับรองชื่อของเขาเฉพาะพระพักตร์พระบิดาของเรา และต่อหน้าบรรดาทูตสวรรค์ของพระองค์
วว. 3:12 คนที่ชนะ เราจะตั้งให้เขาเป็นเสาหลักอยู่ในพระวิหารของพระเจ้าของเรา และเขาจะไม่ออกไปจากพระวิหารอีกเลย และบนตัวเขา เราจะจารึกพระนามพระเจ้าของเรา และชื่อเมืองของพระเจ้าของเรา คือนครเยรูซาเล็มใหม่ที่ลงมาจากสวรรค์จากพระเจ้าของเรา และเราจะจารึกนามใหม่ของเราด้วย
วว. 3:21 คนที่ชนะ เราจะให้เขานั่งกับเราบนพระที่นั่งของเรา เหมือนอย่างที่เรามีชัยชนะแล้ว และได้นั่งกับพระบิดาของเราบนพระที่นั่งของพระองค์
วว. 5:5 แล้วมีคนหนึ่งในพวกผู้อาวุโสบอกกับข้าพเจ้าว่า “อย่าร้องไห้เลย นี่แน่ะ สิงโตแห่งเผ่ายูดาห์ ซึ่งเป็นรากเหง้าของดาวิด ทรงมีชัยชนะแล้ว พระองค์จึงทรงสามารถเปิดหนังสือและแกะตราทั้งเจ็ดดวงได้”
วว. 6:2 ข้าพเจ้าก็เห็น และนี่แน่ะ ม้าสีขาวตัวหนึ่งออกมา ผู้ที่ขี่ม้าตัวนั้นถือธนู และได้รับมอบมงกุฎ แล้วท่านก็ออกไปอย่างมีชัย และเพื่อจะได้ชัยชนะ
วว. 12:11 พวกเขาชนะมารด้วยพระโลหิตของพระเมษโปดก และด้วยคำพยานของพวกเขาเอง และพวกเขาไม่ได้รักตัวกลัวตาย
วว. 13:7 และทรงอนุญาตให้มันทำสงครามกับบรรดาธรรมิกชนและชนะพวกเขา และประทานให้มันมีสิทธิอำนาจเหนือทุกเผ่า ทุกชนชาติ ทุกภาษา และและทุกประชาชาติ
วิวรณ์ 13:8 THSV11และคนทั้งหลายที่อยู่บนแผ่นดินโลกจะบูชาสัตว์ร้ายนั้น คือคนที่ไม่มีชื่อจดไว้ในหนังสือแห่งชีวิต ของพระเมษโปดกผู้ถูกปลงพระชนม์ตั้งแต่แรกสร้างโลก
วว. 15:2 และข้าพเจ้าเห็นสิ่งที่เป็นเหมือนอย่างทะเลแก้วปนไฟ และเห็นบรรดาคนที่มีชัยชนะต่อสัตว์ร้าย และต่อรูปของมัน และต่อตัวเลขของชื่อมัน เขาทั้งหลายยืนอยู่ริมทะเลแก้วและถือพิณของพระเจ้า
วว. 17:14 พวกเขาจะต่อสู้กับพระเมษโปดก และพระเมษโปดกจะทรงชนะเขา เพราะว่าพระองค์ทรงเป็นเจ้านายเหนือเจ้านายทั้งหลาย และทรงเป็นกษัตริย์เหนือกษัตริย์ทั้งหลาย และพวกที่อยู่กับพระองค์นั้น ก็เป็นพวกที่ได้รับการทรงเรียกและได้รับการทรงเลือก และเป็นพวกที่ซื่อสัตย์”
วว. 21:7 คนที่ชนะจะได้รับสิ่งเหล่านี้เป็นมรดก และเราจะเป็นพระเจ้าของเขา และเขาจะเป็นบุตรของเรา
ยอห์น 16:33 THSV11 “เราบอกเรื่องนี้กับพวกท่าน เพื่อท่านจะได้มีสันติสุขในเรา ในโลกนี้ท่านจะประสบความทุกข์ยาก แต่จงมีใจกล้าเถิด เพราะว่าเราชนะโลกแล้ว””
1 โครินธ์ 15:57 THSV11 “สาธุการแด่พระเจ้า ผู้ประทานชัยชนะแก่เรา โดยพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา”
1 ยอห์น 4:4 THSV11 “ลูกทั้งหลายเอ๋ย ท่านอยู่ฝ่ายพระเจ้า และชนะพวกเขาแล้ว เพราะว่าพระองค์ผู้ทรงอยู่ในพวกท่านยิ่งใหญ่กว่าผู้ที่อยู่ในโลก”
1 ยอห์น 5:4 THSV11 “เพราะทุกคนที่เกิดจากพระเจ้า ก็มีชัยเหนือโลก และความเชื่อของเรานี่แหละเป็นชัยชนะที่มีชัยเหนือโลก”
รม 16:20 THSV11 ไม่ช้าพระเจ้าแห่งสันติสุขจะทรงปราบซาตานให้ยับเยินลงใต้ฝ่าเท้าของพวกท่าน ขอพระคุณของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา จงอยู่กับท่านเถิด
มั่งคั่ง
2 โครินธ์ 8:9 THSV11 “เพราะว่าท่านทั้งหลายรู้จักพระคุณของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราแล้วว่า แม้พระองค์ทรงมั่งคั่ง ก็ยังทรงยอมเป็นคนยากจนเพราะเห็นแก่ท่านทั้งหลาย เพื่อท่านทั้งหลายจะได้เป็นคนมั่งคั่ง เนื่องจากความยากจนของพระองค์”
กาลาเทีย 3:8-9 THSV11 “และพระคัมภีร์นั้นรู้ล่วงหน้าว่า พระเจ้าจะทรงให้คนต่างชาติเป็นคนชอบธรรมโดยความเชื่อ จึงได้ประกาศข่าวประเสริฐแก่อับราฮัมล่วงหน้าว่า ชนทุกชาติจะได้รับพรเพราะเจ้า เพราะฉะนั้น คนที่เชื่อจึงได้รับพรร่วมกับอับราฮัมผู้ซึ่งเชื่อ”
กาลาเทีย 3:13 THSV11 “พระคริสต์ทรงไถ่เราให้พ้นการสาปแช่งแห่งธรรมบัญญัติ โดยการทรงถูกสาปแช่งเพื่อเรา (เพราะพระคัมภีร์เขียนไว้ว่า “ทุกคนที่ถูกแขวนไว้บนต้นไม้ต้องถูกสาปแช่ง” )”
กาลาเทีย 3:14 THSV11 “เพื่อพรของอับราฮัมจะได้มาถึงบรรดาคนต่างชาติ ที่อยู่ในพระเยซูคริสต์ เพื่อเราจะได้รับพระวิญญาณตามพระสัญญาโดยความเชื่อ”
กาลาเทีย 3:29 THSV11 “และถ้าท่านทั้งหลายเป็นของพระคริสต์แล้ว ท่านก็เป็นพงศ์พันธุ์ของอับราฮัม คือเป็นทายาทตามพระสัญญา”
โรม 4:13 THSV11ม“เพราะว่าพระสัญญาที่ประทานแก่อับราฮัมและลูกหลานของท่านที่ว่า จะได้ทั้งพิภพเป็นมรดก นั้นไม่ได้มาโดยธรรมบัญญัติ แต่มาโดยความชอบธรรมที่เกิดจากความเชื่อ”
กาลาเทีย 4:1-3 THSV11 “ข้าพเจ้าหมายความว่า ตราบใดที่ทายาทยังเป็นเด็กอยู่ เขาก็ไม่ต่างอะไรกับทาสเลย ถึงแม้เขาจะเป็นเจ้าของทรัพย์สมบัติทั้งหมด แต่เขาก็อยู่ใต้บังคับของผู้ปกครองและพ่อบ้าน จนถึงเวลาที่บิดาได้กำหนดไว้ เราก็เหมือนกัน เมื่อเป็นเด็กอยู่ เราก็เป็นทาสอยู่ใต้บังคับของภูตผีที่ครอบงำของจักรวาล”
ฉธบ. 8:18 ท่านจงระลึกถึงพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน เพราะว่าพระองค์ทรงเป็นผู้ประทานกำลังแก่ท่านที่จะได้ทรัพย์สมบัตินี้ เพื่อพระองค์จะทรงดำรงพันธสัญญาซึ่งทรงปฏิญาณต่อบรรพบุรุษของท่าน ดังวันนี้
กจ. 1:8 แต่พวกท่านจะได้รับพระราชทานฤทธานุภาพ เมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์เสด็จมาเหนือท่าน และท่านทั้งหลายจะเป็นสักขีพยานของเราในกรุงเยรูซาเล็ม ทั่วแคว้นยูเดีย ทั่วแคว้นสะมาเรีย และจนถึงที่สุดปลายแผ่นดินโลก”
กาลาเทีย 5:22-23 THSV11 “ส่วนผลของพระวิญญาณนั้น คือความรัก ความยินดี สันติสุข ความอดทน ความกรุณา ความดี ความซื่อสัตย์ ความสุภาพอ่อนโยน การรู้จักบังคับตน เรื่องอย่างนี้ไม่มีธรรมบัญญัติห้ามไว้เลย”
ฮกก. 2:8 เงินเป็นของเรา และทองก็เป็นของเรา พระยาห์เวห์จอมทัพตรัสดังนี้แหละ
สดด. 50:10 เพราะสัตว์ทุกตัวในป่าเป็นของเรา ทั้งสัตว์เลี้ยงบนภูเขาตั้งพันยอด
สดด. 50:12 ถ้าเราหิว เราจะไม่บอกเจ้า เพราะพิภพและสารพัดที่อยู่ในนั้นเป็นของเรา
(แล้วพระเจ้าจะเป็นเจ้าของสิ่งต่างๆในโลกนี้ไว้ให้ใคร ถ้าไม่ใช่ไว้สำหรับลูกของพระองค์)
รม. 5:17 เพราะว่าถ้าโดยการละเมิดของคนเดียว เป็นเหตุให้ความตายครอบงำอยู่โดยคนเดียวนั้น มากยิ่งกว่านั้นคนทั้งหลายที่รับพระกรุณาอันไพบูลย์ และรับของประทานคือความชอบธรรมก็จะดำรงชีวิต และครอบครองโดยพระองค์ผู้เดียว คือพระเยซูคริสต์
(เราเป็นผู้ครอบครองดั่งกษัตริย์โดย พระเยซูคริสต์)
มธ. 7:11 เพราะฉะนั้น ถ้าพวกท่านเองผู้เป็นคนบาปยังรู้จักให้ของดีแก่ลูกของตน ยิ่งกว่านั้นสักเท่าใด พระบิดาของท่านผู้สถิตในสวรรค์จะประทานสิ่งดีแก่พวกที่ขอต่อพระองค์
อสย. 1:19 ถ้าพวกเจ้าเต็มใจและเชื่อฟัง เจ้าจะได้กินผลดีแห่งแผ่นดิน
อย่าลืมดู VDO อีกรอบ ครับ หรือ (https://www.facebook.com/khummatchima/posts/1413199738712041)