โยบ 37:17 ตัวท่าน ผู้ที่เสื้อผ้าของตนร้อน เมื่อแผ่นดินสงบนิ่งเพราะลมร้อนแห่งทิศใต้หรือ?
ศคย. 6:8 แล้วท่านจึงร้องบอกข้าพเจ้าว่า ‘นี่แน่ะ ม้าที่ไปยังประเทศเหนือทำให้วิญญาณของเราสงบนิ่งในประเทศเหนือนั้น’ ”
อสย. 2:2 ในวาระสุดท้ายจะเป็นดังนี้ คือภูเขาแห่งพระนิเวศของพระยาห์เวห์ จะถูกสถาปนาขึ้นเป็นที่สูงสุดของภูเขาทั้งหลาย และจะถูกยกขึ้นให้อยู่เหนือบรรดาเนินเขา ประชาชาติทั้งหมดจะหลั่งไหลเข้ามาหา
โยบ 37:17 ตัวท่าน ผู้ที่เสื้อผ้าของตนร้อน เมื่อแผ่นดินสงบนิ่งเพราะลมร้อนแห่งทิศใต้หรือ?
ศคย. 6:8 แล้วท่านจึงร้องบอกข้าพเจ้าว่า ‘นี่แน่ะ ม้าที่ไปยังประเทศเหนือทำให้วิญญาณของเราสงบนิ่งในประเทศเหนือนั้น’ ”
2พศด. 13:1 ในปีที่สิบแปดแห่งรัชกาลเยโรโบอัม อาบียาห์ขึ้นครองราชย์เหนืออาณาจักรยูดาห์
2พศด. 13:2 พระองค์ครองราชย์ในกรุงเยรูซาเล็ม 3 ปี พระชนนีของพระองค์มีพระนามว่ามีคายาห์ บุตรหญิงของอุรีเอลแห่งกิเบอาห์ และมีสงครามระหว่างอาบียาห์และเยโรโบอัม
2พศด. 13:3 อาบียาห์เสด็จออกรบ มีกองทัพเป็นนักรบกล้าหาญที่คัดเลือกแล้ว 400,000 คน ส่วนเยโรโบอัมตั้งแนวรบสู้กับพระองค์ด้วยนักรบกล้าหาญที่คัดเลือกแล้ว 800,000 คน
2พศด. 13:4 อาบียาห์ทรงไปยืนอยู่บนภูเขาเศมาราอิมที่อยู่ในเทือกเขาเอฟราอิม และตรัสว่า “เยโรโบอัม และอิสราเอลทั้งสิ้น จงฟังเรา
2พศด. 13:5 พวกท่านรู้แล้วไม่ใช่หรือว่า พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลประทานตำแหน่งพระราชาเหนืออิสราเอลเป็นนิตย์แก่ดาวิด และบุตรหลานของพระองค์โดยพันธสัญญาเกลือ?
2พศด. 13:6 ถึงกระนั้นเยโรโบอัมบุตรเนบัท ข้าราชการของซาโลมอนพระราชโอรสของดาวิด ได้กบฏต่อเจ้านายของตน
2พศด. 13:7 และคนอันธพาลบางคนร่วมกับเขาในการต่อสู้กับเรโหโบอัมพระราชโอรสของซาโลมอน ตอนที่เรโหโบอัมยังอายุน้อยและใจอ่อนแอทั้งไม่สามารถต่อต้านได้
2พศด. 13:8 “บัดนี้ท่านทั้งหลายคิดจะต่อต้านอาณาจักรของพระยาห์เวห์ ที่อยู่ในมือของบุตรหลานของดาวิด เพราะพวกท่านมีจำนวนคนมากมาย และมีรูปลูกวัวทองคำที่เยโรโบอัมสร้างให้เป็นพระแก่พวกท่าน
2พศด. 13:9 ท่านทั้งหลายขับไล่บรรดาปุโรหิตของพระยาห์เวห์ ลูกหลานของอาโรน และพวกคนเลวีออกไป แล้วแต่งตั้งปุโรหิตให้ตัวเองเหมือนอย่างชนชาติทั้งหลายในดินแดนต่างๆ ไม่ใช่หรือ? ใครที่นำโคหนุ่มและแกะผู้เจ็ดตัวมาชำระตัวให้บริสุทธิ์ก็จะได้เป็นปุโรหิตของสิ่งที่ไม่ใช่พระเจ้า
2พศด. 13:10 แต่สำหรับพวกเรา พระยาห์เวห์เป็นพระเจ้าของเรา และพวกเราไม่ได้ละทิ้งพระองค์ เรามีปุโรหิตที่เป็นลูกหลานของอาโรนเป็นผู้ปรนนิบัติพระยาห์เวห์ และมีคนเลวีในการทำหน้าที่
2พศด. 13:11 เขาทั้งหลายถวายเครื่องบูชาเผาทั้งตัวแด่พระยาห์เวห์ทุกเช้าทุกเย็น และถวายเครื่องหอม ตั้งขนมปังเฉพาะพระพักตร์บนโต๊ะบริสุทธิ์ ทั้งดูแลคันประทีปทองคำพร้อมทั้งตะเกียงให้ลุกอยู่ทุกๆ เย็น เพราะพวกเรารักษาพระบัญชาของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา แต่พวกท่านได้ละทิ้งพระองค์
2พศด. 13:12 นี่แน่ะ พระเจ้าทรงอยู่กับเราและนำหน้าเรา และปุโรหิตของพระองค์พร้อมกับแตรศึกพร้อมที่จะเป่าเรียกทำสงครามต่อสู้กับพวกท่าน ลูกหลานทั้งหลายของอิสราเอล อย่าต่อสู้กับพระยาห์เวห์ พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของท่าน เพราะพวกท่านจะทำไม่สำเร็จ”
2พศด. 13:13 เยโรโบอัมทรงให้กองซุ่มอ้อมมาหายูดาห์ทางด้านหลัง ดังนั้นกองทหารของพระองค์จึงอยู่ข้างหน้ายูดาห์ ส่วนกองซุ่มนั้นอยู่ข้างหลังพวกเขา
2พศด. 13:14 และเมื่อยูดาห์หันไปมองดู นี่แน่ะ มีการรบอยู่ทั้งข้างหน้าและข้างหลัง เขาทั้งหลายก็ร้องทูลพระยาห์เวห์ และพวกปุโรหิตก็เป่าแตร
2พศด. 13:15 แล้วคนของยูดาห์ก็โห่ร้องทำนองศึกและเมื่อคนยูดาห์โห่ร้อง พระเจ้าทรงโจมตีเยโรโบอัมและอิสราเอลทั้งหมดต่อหน้าอาบียาห์และยูดาห์
2พศด. 13:16 คนอิสราเอลหลบหนีต่อหน้ายูดาห์ และพระเจ้าทรงมอบพวกเขาไว้ในมือของยูดาห์
2พศด. 13:17 อาบียาห์และประชาชนของพระองค์ก็ชนะด้วยการเข่นฆ่าอย่างมากมาย คนอิสราเอลที่คัดเลือกแล้วล้มตายลง 500,000 คน
2พศด. 13:18 แล้วคนอิสราเอลก็ถูกปราบลงในครั้งนั้น และคนยูดาห์ก็ชนะ เพราะพวกเขาพึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของเขา
2พศด. 13:19 และอาบียาห์ไล่ตามเยโรโบอัม และยึดเมืองต่างๆ จากพระองค์ คือเมืองเบธเอลกับชนบทของเมืองนั้น และเมืองเยชานาห์กับชนบทของเมืองนั้น และเมืองเอโฟรนกับชนบทของเมืองนั้น
2พศด. 13:20 เยโรโบอัมไม่สามารถฟื้นกำลังของพระองค์ได้อีกในรัชสมัยของอาบียาห์ และพระยาห์เวห์ทรงประหารพระองค์ แล้วพระองค์ก็สิ้นพระชนม์
2พศด. 13:21 แต่อาบียาห์มีอำนาจยิ่งขึ้น และมีมเหสี 14 องค์ มีพระราชโอรส 22 องค์ และพระราชธิดา 16 องค์
2พศด. 13:22 พระราชกิจอื่นๆ ของอาบียาห์ วิถีชีวิตและพระดำรัสของพระองค์บันทึกอยู่ในหนังสือคำสอนของผู้เผยพระวจนะอิดโด
2พศด. 12:1 เมื่อราชอาณาจักรของเรโหโบอัมตั้งมั่นคงและแข็งแรงแล้ว พระองค์ทรงละทิ้งธรรมบัญญัติของพระยาห์เวห์ และอิสราเอลทั้งหมดก็ละทิ้งร่วมกับพระองค์ด้วย
2พศด. 12:2 ต่อมาในปีที่ห้าของกษัตริย์เรโหโบอัม เพราะเขาทั้งหลายไม่ซื่อสัตย์ต่อพระยาห์เวห์ ชิชักกษัตริย์อียิปต์เสด็จขึ้นมารบกับกรุงเยรูซาเล็ม
2พศด. 12:3 มีรถรบ 1,200 คันและทหารม้า 60,000 คน และพลไพร่ผู้มากับพระองค์จากอียิปต์อีกจำนวนนับไม่ถ้วนได้แก่ คนลิเบีย คนสุคีอิม และคนคูช
2พศด. 12:4 พระองค์ทรงยึดบรรดาเมืองป้อมของยูดาห์และมายังกรุงเยรูซาเล็ม
2พศด. 12:5 แล้วเชไมอาห์ผู้เผยพระวจนะมาเฝ้าเรโหโบอัมและพวกเจ้านายของยูดาห์ ซึ่งมาประชุมกันอยู่ที่เยรูซาเล็มเกี่ยวกับเรื่องชิชัก และท่านกล่าวกับเขาทั้งหลายว่า “พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า ‘พวกเจ้าได้ละทิ้งเรา เราจึงละทิ้งพวกเจ้าให้อยู่ในมือของชิชัก’ ”
2พศด. 12:6 แล้วเจ้านายแห่งอิสราเอลและพระราชาถ่อมตนลงและกล่าวว่า “พระยาห์เวห์ทรงชอบธรรมแล้ว”
2พศด. 12:7 เมื่อพระยาห์เวห์ทรงเห็นว่า เขาทั้งหลายถ่อมตัวลง พระวจนะของพระเจ้าได้มาถึงเชไมอาห์ว่า “เขาทั้งหลายได้ถ่อมตัวลงแล้ว เราจะไม่ทำลายเขา แต่เราจะให้การช่วยกู้แก่พวกเขาบ้าง และพระพิโรธของเราจะไม่เทลงมาเหนือเยรูซาเล็มโดยมือของชิชัก
2พศด. 12:8 อย่างไรก็ดีเขาทั้งหลายต้องเป็นผู้รับใช้ของชิชัก เพื่อพวกเขาจะทราบความแตกต่างระหว่างการรับใช้เรา และการรับใช้บรรดาราชอาณาจักรในดินแดนต่างๆ ”
2พศด. 12:9 ชิชักกษัตริย์อียิปต์เสด็จขึ้นมารบกับกรุงเยรูซาเล็ม พระองค์ทรงเอาทรัพย์สมบัติแห่งพระนิเวศของพระยาห์เวห์และทรัพย์สมบัติแห่งพระราชวังไป พระองค์ทรงเอาไปทุกอย่าง และทรงเอาโล่ทองคำ ที่ซาโลมอนทรงสร้างไว้นั้นไปด้วย
2พศด. 12:10 และกษัตริย์เรโหโบอัมทรงทำโล่ทองสัมฤทธิ์ขึ้นแทน และมอบไว้ในมือของทหารรักษาพระองค์ ผู้เฝ้าประตูพระราชวัง
2พศด. 12:11 เมื่อพระราชาเสด็จเข้าไปยังพระนิเวศของพระยาห์เวห์ ทหารรักษาพระองค์ก็ถือโล่ออกมา แล้วนำกลับไปเก็บไว้ในห้องทหารรักษาพระองค์ตามเดิม
2พศด. 12:12 เมื่อพระองค์ทรงถ่อมพระองค์ลง พระพิโรธของพระยาห์เวห์ก็ไปจากพระองค์ ไม่ได้ทรงทำลายพระองค์อย่างสิ้นเชิง ยิ่งกว่านั้นในยูดาห์ก็ยังมีสิ่งดีอยู่
2พศด. 12:13 กษัตริย์เรโหโบอัมจึงทรงทำให้พระองค์เข้มแข็งขึ้นในกรุงเยรูซาเล็มและครองราชย์ เมื่อเรโหโบอัมทรงเป็นกษัตริย์นั้นมีพระชนมายุ 41 พรรษา และครองราชย์ 17 ปีในกรุงเยรูซาเล็ม ซึ่งเป็นเมืองที่พระยาห์เวห์ทรงเลือกจากเผ่าทั้งหมดของอิสราเอล เพื่อจะตั้งพระนามของพระองค์ไว้ที่นั่น พระราชมารดาของพระองค์มีพระนามว่านาอามาห์คนอัมโมน
2พศด. 12:14 และพระองค์ทรงทำความชั่วร้าย เพราะพระองค์ไม่ได้ตั้งพระทัยที่จะแสวงหาพระยาห์เวห์
2พศด. 12:15 ส่วนพระราชกิจของเรโหโบอัมตั้งแต่ต้นจนจบ ได้บันทึกไว้ในหนังสือบันทึกของเชไมอาห์ผู้เผยพระวจนะ และของอิดโดผู้ทำนายตามแบบลำดับวงศ์ตระกูลไม่ใช่หรือ? มีสงครามระหว่างเรโหโบอัมและเยโรโบอัมตลอดรัชสมัย
2พศด. 12:16 และเรโหโบอัมก็ทรงล่วงหลับไปอยู่กับบรรพบุรุษของพระองค์ และทรงถูกฝังไว้ในนครดาวิด และอาบียาห์พระราชโอรสก็ขึ้นครองราชย์แทน
สุภาษิต 17:22 ใจร่าเริงเป็นยาอย่างดี แต่จิตใจชอกช้ำทำให้กระดูกแห้ง
1พศด. 15:16 ดาวิดทรงบัญชาบรรดาหัวหน้าของคนเลวีให้แต่งตั้งพี่น้องของเขา ให้เป็นนักร้องพร้อมกับเล่นเครื่องดนตรี มีพิณใหญ่ พิณเขาคู่ และฉาบเพื่อร้องเพลงเสียงดังด้วยความชื่นบาน
1พศด. 16:27 พระสิริและความสง่างามอยู่เฉพาะพระพักตร์ของพระองค์ พระกำลังและความชื่นบานมีอยู่ในสถานที่ประทับของพระองค์
1พศด. 29:17 ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ทราบว่า พระองค์ทรงตรวจดูจิตใจ และทรงพอพระทัยในความซื่อตรง ส่วนข้าพระองค์ ข้าพระองค์ถวายของเหล่านี้ทั้งสิ้น ด้วยความเต็มใจตามความซื่อตรงแห่งจิตใจของข้าพระองค์ และบัดนี้ข้าพระองค์ยินดีที่ได้เห็นประชากรของพระองค์ ผู้ซึ่งอยู่ ณ ที่นี้เต็มใจถวายด้วยความชื่นบานต่อพระองค์
2พศด. 7:10 เมื่อวันที่ยี่สิบสามของเดือนที่เจ็ด พระองค์ทรงให้ประชาชนกลับบ้านของตน ด้วยใจชื่นบานและยินดีเพราะความดีซึ่งพระยาห์เวห์ได้ทรงสำแดงแก่ดาวิด แก่ซาโลมอนและแก่อิสราเอลประชากรของพระองค์
2พศด. 20:27 แล้วคนยูดาห์และเยรูซาเล็มทุกคนก็กลับไป โดยมีเยโฮชาฟัททรงนำหน้า พวกเขากลับไปยังกรุงเยรูซาเล็มด้วยความชื่นบาน เพราะพระยาห์เวห์ทรงทำให้พวกเขาเปรมปรีดิ์เย้ยศัตรูของเขา
อสร. 3:12 แต่พวกปุโรหิตและคนเลวีและหัวหน้าตระกูลหลายคน คือคนแก่ผู้ได้เห็นพระนิเวศหลังก่อน เมื่อเห็นรากฐานของพระนิเวศหลังนี้ได้วางแล้ว จึงร้องไห้ด้วยเสียงดัง แต่คนเป็นอันมากได้โห่ร้องด้วยความชื่นบาน
อสร. 6:16 และชนชาติอิสราเอล บรรดาปุโรหิตและคนเลวี และคนอื่นๆ ที่ถูกกวาดไปเป็นเชลยและได้กลับมา ได้ฉลองการมอบถวายพระนิเวศแห่งพระเจ้านี้ด้วยความชื่นบาน
อสร. 6:22 และพวกเขาได้ถือเทศกาลกินขนมปังไร้เชื้อเจ็ดวันด้วยความชื่นบาน เพราะว่าพระยาห์เวห์ได้ทรงทำให้เขาชื่นบาน และทรงหันพระทัยของกษัตริย์อัสซีเรียมาหาเขา เพื่อเสริมกำลังเขาในการสร้างพระนิเวศของพระเจ้า พระเจ้าแห่งอิสราเอล
นหม. 8:10 แล้วท่านพูดกับพวกเขาว่า “ไปเถิด ไปรับประทานไขมันและดื่มน้ำหวาน และส่งส่วนอาหารไปให้คนที่ไม่มีอะไรเตรียมไว้ เพราะว่าวันนี้เป็นวันบริสุทธิ์แด่องค์เจ้านายของเรา อย่าโศกเศร้าเลย เพราะความชื่นบานของตนในพระยาห์เวห์เป็นกำลังของท่าน”
นหม. 12:43 และเขาทั้งหลายได้ถวายเครื่องสัตวบูชาใหญ่โตในวันนั้น และเปรมปรีดิ์เพราะพระเจ้าทรงกระทำให้เขาเปรมปรีดิ์ด้วยความชื่นบานใหญ่ยิ่ง พวกผู้หญิงและเด็กๆ ก็เปรมปรีดิ์ด้วย และความชื่นบานของเยรูซาเล็มก็ได้ยินไปไกล
อสธ. 8:16 พวกยิวมีความสุข ความยินดี ความชื่นบานและเกียรติ
อสธ. 8:17 ในทุกมณฑลทุกเมือง ไม่ว่าที่ใดที่พระบัญชาของกษัตริย์และกฤษฎีกาของพระองค์มาถึง ก็มีความยินดีและความชื่นบานท่ามกลางพวกยิว มีการเลี้ยงและวันรื่นเริง คนจำนวนมากมาจากชนหลายชาติของประเทศก็เข้าเป็นยิว เพราะความกลัวพวกยิวครอบงำพวกเขา
โยบ 20:5 เสียงไชโยของคนอธรรมนั้นสั้น และความชื่นบานของคนที่ไม่นับถือพระเจ้านั้นเป็นแต่ครู่เดียว
โยบ 33:26 คนนั้นจึงอธิษฐานต่อพระเจ้า และพระองค์พอพระทัยเขา เขาเข้าเฝ้าเฉพาะพระพักตร์พระองค์ด้วยความชื่นบาน แล้วพระองค์ทรงให้มนุษย์กลับสู่สภาพความชอบธรรม
สดด. 37:3 จงวางใจในพระยาห์เวห์ และจงทำความดี จงอาศัยอยู่ในแผ่นดิน และจงชื่นบานกับความปลอดภัย
สดด. 51:12 ขอทรงคืนความชื่นบานในความรอดของพระองค์แก่ข้าพระองค์ และทำให้ข้าพระองค์เชื่อฟังด้วยความเต็มใจ
สดด. 63:5 จิตใจของข้าพระองค์จะอิ่มหนำดังได้กินอาหารชั้นเลิศ และปากของข้าพระองค์จะสรรเสริญพระองค์ด้วยริมฝีปากที่ชื่นบาน
สดด. 65:13 ทุ่งหญ้าห่มตัวด้วยฝูงแพะแกะ หุบเขาปกคลุมไปด้วยข้าว ต่างก็โห่และร้องเพลงด้วยความชื่นบาน
สดด. 66:1 แผ่นดินโลกทั้งสิ้นเอ๋ย จงโห่ร้องด้วยความชื่นบานถวายแด่พระเจ้า
สดด. 89:15 ชนชาติที่รู้จักการโห่ร้องอย่างชื่นบานก็เป็นสุข ข้าแต่พระยาห์เวห์ คือบรรดาผู้ที่เดินในแสงสว่างแห่งพระพักตร์ของพระองค์
สดด. 90:14 ขอทรงให้ข้าพระองค์ทั้งหลายอิ่มความรักมั่นคงของพระองค์ในเวลาเช้า เพื่อข้าพระองค์ทั้งหลายจะได้ร้องเพลงด้วยความชื่นบานและยินดีตลอดวันเวลาของพวกข้าพระองค์
สดด. 105:43 พระองค์จึงทรงนำประชากรของพระองค์ออกมาด้วยความชื่นบาน ทรงนำผู้ที่ทรงเลือกสรรไว้นั้นด้วยการร้องเพลง
สดด. 106:5 เพื่อข้าพระองค์จะเห็นความเจริญรุ่งเรืองของบรรดาผู้ที่พระองค์ทรงเลือกสรร เพื่อข้าพระองค์จะยินดีในความชื่นบานแห่งประชาชาติของพระองค์ เพื่อข้าพระองค์จะสรรเสริญร่วมกับมรดกของพระองค์
สดด. 113:9 พระองค์โปรดให้หญิงหมันมีบ้านอยู่ เป็นแม่ที่ชื่นบานมีบุตร สรรเสริญพระยาห์เวห์
1พกษ. 8:66 ในวันที่แปด พระองค์ทรงให้ประชาชนกลับ เขาทั้งหลายก็ถวายพระพรแด่พระราชา และกลับไปยังเต็นท์ของตนด้วยจิตใจชื่นบานและยินดี เนื่องด้วยความดีทั้งสิ้น ซึ่งพระยาห์เวห์ทรงสำแดงแก่ดาวิดผู้รับใช้ของพระองค์ และแก่อิสราเอลประชากรของพระองค์
1พศด. 12:40 ยิ่งกว่านั้นคนที่อยู่ใกล้เขาทั้งหลาย จนถึงอิสสาคาร์ และเศบูลุน และนัฟทาลีจัดอาหารบรรทุก ลา อูฐ ล่อ และวัว อาหารมากมายที่นำมาเป็น แป้ง ขนมมะเดื่อ ช่อลูกเกด เหล้าองุ่น น้ำมัน วัว และแกะ เพราะว่ามีความชื่นบานในอิสราเอล
อสร. 3:13 ประชาชนจึงแยกไม่ออกระหว่างเสียงโห่ร้องด้วยความชื่นบาน และเสียงประชาชนร้องไห้ เพราะประชาชนโห่ร้องเสียงดังมาก และเสียงนั้นก็ได้ยินไปไกล
อสธ. 5:9 วันนั้นฮามานก็ออกไปด้วยใจชื่นบานและยินดี แต่เมื่อฮามานเห็นโมรเดคัยที่ประตูพระราชวังไม่ยืนขึ้นหรือตัวสั่นอยู่ต่อหน้าเขา เขาก็โกรธแค้นโมรเดคัย
โยบ 3:7 เออ ขอให้คืนนั้นเป็นหมัน ขออย่าให้เสียงร้องอันชื่นบานได้ยินในคืนนั้น
โยบ 8:19 ดูเถิด นี่เป็นทางอันชื่นบานของเขา และผู้อื่นจะงอกขึ้นจากดินแทนที่เขา
โยบ 14:6 ฉะนั้น ขอหันพระพักตร์ไปจากเขา เพื่อเขาจะได้พัก เพื่อเขาจะชื่นบานในวันของเขาอย่างลูกจ้าง
โยบ 20:18 เขาจะคืนผลงานของเขา และจะไม่กลืนกินมันเสีย เขาจะไม่ได้ความชื่นบานเลย จากกำไรแห่งการค้าของเขา
โยบ 29:13 พรของคนที่กำลังจะตายก็มาถึงข้า และข้าทำให้จิตใจของหญิงม่ายร้องเพลงด้วยความชื่นบาน
โยบ 38:7 เมื่อเหล่าดาวรุ่งแซ่ซ้องสรรเสริญ และบรรดาบุตรพระเจ้าโห่ร้องด้วยความชื่นบาน?
สดด. 48:2 สูงตระหง่านงามตระการตา เป็นความชื่นบานของแผ่นดินโลกทั้งสิ้น คือภูเขาศิโยน ทางเหนือสุด ซึ่งเป็นนครของกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่
สดด. 67:4 ขอให้ชาวประเทศทั้งหลายยินดีและร้องเพลงด้วยความชื่นบาน เพราะพระองค์ทรงพิพากษาชนชาติทั้งหลาย ด้วยความเที่ยงธรรม และทรงนำชาวประเทศทั้งหลายในโลก เส-ลาห์
สดด. 68:3 แต่ขอให้คนชอบธรรมยินดี ให้เขาปรีดาปราโมทย์เฉพาะพระพักตร์พระเจ้า ให้เขาปีติยินดีด้วยความชื่นบาน
สดด. 81:1 จงร้องเพลงด้วยความยินดีถวายแด่พระเจ้า พระกำลังของพวกเรา จงโห่ร้องด้วยความชื่นบานถวายแด่พระเจ้าของยาโคบ
สดด. 95:1 มาเถิด ให้เราร้องเพลงด้วยความยินดีถวายแด่พระยาห์เวห์ ให้เราโห่ร้องด้วยความชื่นบานถวายศิลาแห่งความรอดของเรา
สดด. 95:2 ให้เราเข้ามาอยู่เฉพาะพระพักตร์พระองค์ด้วยการขอบพระคุณ ให้เราโห่ร้องด้วยความชื่นบานถวายแด่พระองค์ด้วยบทเพลงสรรเสริญ
สดด. 97:11 ความสว่างถูกหว่านแก่คนชอบธรรม และความชื่นบานถูกหว่านแก่คนใจเที่ยงธรรม
สดด. 98:4 แผ่นดินโลกทั้งสิ้นเอ๋ย จงโห่ร้องด้วยความชื่นบานถวายแด่พระยาห์เวห์ จงโห่ร้องด้วยความยินดีและร้องเพลงสดุดี
สดด. 98:6 ด้วยเสียงแตรและเสียงเป่าเขาสัตว์ จงโห่ร้องด้วยความชื่นบานเฉพาะพระพักตร์พระมหากษัตริย์ คือพระยาห์เวห์
สดด. 100:1 แผ่นดินโลกทั้งสิ้นเอ๋ย จงโห่ร้องด้วยความชื่นบานถวายแด่พระยาห์เวห์
สดด. 107:22 และให้เขาทั้งหลายถวายเครื่องบูชาขอบพระคุณ และเล่าพระราชกิจของพระองค์ด้วยการร้องเพลงอย่างชื่นบาน
สดด. 119:111 ข้าพระองค์รับพระโอวาทของพระองค์ไว้เป็นมรดกเป็นนิตย์ พระโอวาทเป็นความชื่นบานแก่ใจข้าพระองค์
สภษ. 14:10 จิตใจรู้ความขมขื่นของใจเอง และไม่มีใครอื่นมาเข้าส่วนความชื่นบานของมัน
สภษ. 17:21 ผู้ให้กำเนิดคนโง่ย่อมทุกข์โศก และบิดาของคนโง่เขลาไม่มีความชื่นบาน
ปญจ. 2:25 ด้วยถ้าไม่อาศัยพระองค์แล้วใครจะกินได้เล่า? หรือใครจะชื่นบานได้?
ปญจ. 10:19 อาหารทำให้คนหัวเราะ และเหล้าองุ่นทำให้ชีวิตชื่นบาน และเงินก็จัดให้ได้ทุกอย่าง
ปญจ. 11:7 แสงสว่างทำให้สดชื่น และการที่นัยน์ตาเห็นดวงตะวันก็เป็นที่ชื่นบาน
อสย. 9:3 พระองค์ทรงทวีจำนวนคนในชาตินั้นขึ้น พระองค์ทรงเพิ่มพูนความชื่นบานของพวกเขา เขาทั้งหลายเปรมปรีดิ์เฉพาะพระพักตร์พระองค์ ดั่งความชื่นบานในฤดูเกี่ยวเก็บ ดั่งคนยินดีเมื่อเขาแบ่งของริบให้แก่กัน
อสย. 12:3 ท่านทั้งหลายจะตักน้ำจากบ่อน้ำแห่งความรอดด้วยความชื่นบาน
อสย. 16:10 ความชื่นบาน และความยินดีถูกเอาไป เอาไปจากสวนผลไม้ ไม่มีการร้องอย่างชื่นบานตามสวนองุ่น ไม่มีเสียงโห่ร้องยินดี ไม่มีคนย่ำให้เหล้าองุ่นออกในบ่อย่ำองุ่น เราได้ทำให้เสียงเฮย่ำองุ่นเงียบหายไป
อสย. 26:19 คนตายของพระองค์จะมีชีวิตอีก ศพของพวกเขาจะลุกขึ้น โอ ผู้อาศัยในผงคลี จงตื่นขึ้น และโห่ร้องด้วยความชื่นบาน เพราะน้ำค้างของพระองค์เป็นน้ำค้างแห่งความสว่าง และแผ่นดินโลกจะให้คนตายเป็นขึ้น
อสย. 29:19 คนใจถ่อมจะเพิ่มพูนความชื่นบานในพระยาห์เวห์ และคนยากจนท่ามกลางมนุษย์จะยินดีในองค์บริสุทธิ์ของอิสราเอล
อสย. 32:13 ด้วยเรื่องที่ดินชนชาติของเรา ซึ่งงอกแต่หนามใหญ่และหนามย่อย ด้วยเรื่องบรรดาบ้านเรือนที่ชื่นบาน ภายในนครรื่นเริง
อสย. 32:14 เพราะว่าพระราชวังจะถูกทอดทิ้ง เมืองที่มีคนหนาแน่นจะถูกทิ้งร้าง เนินเขาและหอคอย จะกลายเป็นถ้ำตลอดไป กลายเป็นที่ที่ชื่นบานของลาป่า และเป็นลานหญ้าของฝูงแพะแกะ
อสย. 35:2 มันจะออกดอกอย่างมากมาย ทั้งเปรมปรีดิ์ด้วยความชื่นบานและการร้องเพลง มันจะได้รับศักดิ์ศรีของเลบานอน ทั้งความโอ่อ่าตระการของคารเมลและชาโรน ที่เหล่านี้จะเห็นพระสิริของพระยาห์เวห์ คือความโอ่อ่าตระการของพระเจ้าของเรา
อสย. 42:11 จงให้ถิ่นทุรกันดารและเมืองในนั้นเปล่งเสียง ทั้งชนบทที่ชาวเคดาร์อาศัยอยู่ จงให้ผู้อาศัยของเส-ลาร้องเพลงด้วยความชื่นบาน ให้พวกเขาโห่ร้องมาจากยอดเขา
อสย. 48:20 จงออกจากบาบิโลน จงหนีไปจากพวกเคลเดีย จงประกาศเรื่องนี้ด้วยเสียงโห่ร้องชื่นบาน จงเล่าให้ฟัง จงส่งมันไปถึงสุดปลายแผ่นดินโลก ว่า “พระยาห์เวห์ทรงไถ่ยาโคบผู้รับใช้ของพระองค์แล้ว”
อสย. 49:13 โอ ฟ้าสวรรค์ จงเปล่งเสียงชื่นบาน และแผ่นดินโลกจงชื่นชมยินดีเถิด โอ ภูเขาเอ๋ย จงร้องด้วยความเปรมปรีดิ์ เพราะพระยาห์เวห์ได้ทรงปลอบโยนชนชาติของพระองค์แล้ว และทรงสงสารคนของพระองค์ที่ถูกข่มใจ
อสย. 51:3 เพราะว่าพระยาห์เวห์จะทรงชูใจศิโยน พระองค์จะทรงชูใจที่ทิ้งร้างทุกแห่งของเธอ และจะทำให้ถิ่นทุรกันดารของเธอเหมือนสวนเอเดน และที่ราบแห้งแล้งของเธอเหมือนอุทยานพระยาห์เวห์ จะพบความชื่นบานและความยินดีในเธอ ทั้งการขอบพระคุณและเสียงเพลง
อสย. 51:11 แล้วพวกที่ไถ่ไว้แล้วของพระยาห์เวห์จะกลับมา และจะมายังศิโยนด้วยการร้องเพลง ความชื่นบานเป็นนิตย์จะอยู่บนศีรษะของพวกเขา เขาจะได้รับความชื่นบานและความยินดี ความโศกเศร้าและการถอนหายใจจะหนีไป
อสย. 55:12 “เพราะพวกเจ้าจะออกไปด้วยความชื่นบาน และจะถูกนำพาไปโดยสวัสดิภาพ บรรดาภูเขาและเนินเขา จะเปล่งเสียงร้องเพลงต่อหน้าพวกเจ้า และต้นไม้ทั้งหมดในท้องทุ่งจะตบมือ
อสย. 56:7 เราจะนำพวกเขามายังภูเขาบริสุทธิ์ของเรา และทำให้เขาชื่นบานอยู่ในนิเวศอธิษฐานของเรา เครื่องบูชาเผาทั้งตัวของเขาและเครื่องบูชาของเขา จะเป็นที่โปรดปรานบนแท่นบูชาของเรา เพราะนิเวศของเรานั้นเขาจะเรียกว่านิเวศอธิษฐาน สำหรับทุกชนชาติ”
อสย. 60:15 ในเมื่อเจ้าถูกทอดทิ้งและเป็นที่เกลียดชัง และไม่มีใครผ่านเข้าไปทางเจ้า เราจะทำให้เจ้าโอ่อ่าตระการเป็นนิตย์ เป็นความชื่นบานทุกชั่วชาติพันธุ์
อสย. 61:7 แทนความอายของพวกท่าน ท่านจะได้รับเกียรติสองเท่า แทนความอดสู เขาทั้งหลายจะเปรมปรีดิ์ในส่วนแบ่งของเขา เพราะฉะนั้น พวกเขาจะได้กรรมสิทธิ์เป็นสองเท่าในแผ่นดินของเขา ความชื่นบานเป็นนิตย์จะเป็นของเขา
อสย. 64:5 พระองค์ทรงพบกับเขาผู้ทำความชอบธรรมอย่างชื่นบาน คือพวกที่ระลึกถึงพระองค์ในทางของพระองค์ แต่พระองค์กริ้วเนื่องด้วยพวกข้าพระองค์ทำบาป พวกข้าพระองค์อยู่ในบาปเป็นเวลานาน แล้วพวกข้าพระองค์จะรอดหรือ?
อสย. 65:18 แต่จงชื่นบานและเปรมปรีดิ์เป็นนิตย์ ในสิ่งที่เราสร้างขึ้น เพราะดูสิ เราจะสร้างเยรูซาเล็มให้เป็นที่เปรมปรีดิ์ และประชากรของเมืองนั้นให้เป็นความชื่นบาน
อสย. 65:19 เราจะเปรมปรีดิ์เพราะเยรูซาเล็ม และชื่นบานเพราะประชากรของเรา จะไม่ได้ยินเสียงร้องไห้ในเมืองนั้นอีก ทั้งไม่มีเสียงครวญคราง
อสย. 66:5 จงฟังพระวจนะของพระยาห์เวห์ พวกเจ้าที่ตัวสั่นเพราะพระวจนะของพระองค์ “พี่น้องของพวกเจ้าที่เกลียดชังเจ้า และเหวี่ยงเจ้าออกไปเพราะเหตุนามของเรา ได้พูดว่า ‘ขอพระยาห์เวห์ทรงได้รับเกียรติ เพื่อเราจะได้เห็นความชื่นบานของพวกเจ้า’ แต่เขาเหล่านั้นแหละจะได้รับความอับอาย”
อสย. 66:10 จงเปรมปรีดิ์กับเยรูซาเล็มและยินดีกับเธอ นะบรรดาผู้รักเธอ จงเปรมปรีดิ์กับเธอด้วยความชื่นบาน นะบรรดาผู้ไว้ทุกข์เพื่อเธอ
ยรม. 15:16 เมื่อพบพระวจนะของพระองค์แล้ว ข้าพระองค์ก็กินเสีย พระวจนะของพระองค์เป็นความชื่นบานแก่ข้าพระองค์ และเป็นความปีติยินดีแห่งจิตใจของข้าพระองค์ ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้าจอมทัพ เพราะว่าเขาเรียกข้าพระองค์ตามพระนามของพระองค์
ยรม. 31:13 แล้วพวกหญิงพรหมจารีจะเปรมปรีดิ์ในการเต้นรำ ทั้งคนหนุ่มและคนแก่จะรื่นเริง เราจะกลับความโศกเศร้าของเขาให้เป็นความชื่นบาน เราจะปลอบโยนเขาและให้ความยินดีแก่เขาแทนการไว้ทุกข์
ยรม. 33:9 และกรุงนี้จะเป็นชื่อที่ชื่นบานสำหรับเรา เป็นที่สรรเสริญ และเป็นศักดิ์ศรีต่อหน้าประชาชาติทั้งสิ้นแห่งแผ่นดินโลก ซึ่งจะได้ยินถึงสิ่งดีทั้งปวงซึ่งเราได้ทำเพื่อพวกเขา เขาจะเกรงกลัวและตัวสั่น เพราะสิ่งดีทั้งปวงและสวัสดิภาพทั้งสิ้นซึ่งเราได้จัดหาให้กรุงนั้น”
ยรม. 48:33 ความยินดีและความชื่นบานได้ถูกกวาดออกไปเสีย จากเรือกสวนไร่นาและแผ่นดินของโมอับ เราได้ทำให้เหล้าองุ่นหยุดไหลจากบ่อย่ำองุ่น ไม่มีคนย่ำด้วยเสียงโห่ร้องเพราะความชื่นบาน เสียงโห่ร้องนั้นไม่ใช่เสียงโห่ร้องแห่งความชื่นบาน
ยรม. 49:25 เมืองที่มีชื่อเสียงถูกทอดทิ้งได้อย่างไร? คือเมืองแห่งความชื่นบานนั้น
ยรม. 51:48 แล้วฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก และสรรพสิ่งที่มีอยู่ในนั้น จะร้องเพลงด้วยความชื่นบานเหนือบาบิโลน เพราะว่าผู้ทำลายจะมาจากทิศเหนือต่อสู้กับมัน พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้
กจ. 14:17 แต่พระองค์ไม่ได้ทรงขาดพยานในเรื่องคุณความดี คือทรงให้ฝนตกจากฟ้าและทรงให้เกิดผลตามฤดู ทรงให้พวกท่านอิ่มเอมด้วยอาหารและความชื่นบานในจิตใจ”
รม. 15:32 เพื่อข้าพเจ้าจะได้มาหาท่านตามพระประสงค์ของพระเจ้า ด้วยความชื่นชมยินดี และมีความชื่นบานที่ได้พบท่าน
1คร. 16:18 เพราะว่าพวกเขาทำให้จิตใจของข้าพเจ้าและของพวกท่านชื่นบาน เพราะฉะนั้นท่านทั้งหลายจงยอมรับคนเช่นนี้
1ธส. 5:16 จงชื่นบานอยู่เสมอ