อสย. 2:2 ในวาระสุดท้ายจะเป็นดังนี้ คือภูเขาแห่งพระนิเวศของพระยาห์เวห์ จะถูกสถาปนาขึ้นเป็นที่สูงสุดของภูเขาทั้งหลาย และจะถูกยกขึ้นให้อยู่เหนือบรรดาเนินเขา ประชาชาติทั้งหมดจะหลั่งไหลเข้ามาหา
วันพุธที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2567
สดด. 106:5 เพื่อข้าพระองค์จะเห็นความเจริญรุ่งเรืองของบรรดาผู้ที่พระองค์ทรงเลือกสรร เพื่อข้าพระองค์จะยินดีในความชื่นบานแห่งประชาชาติของพระองค์ เพื่อข้าพระองค์จะสรรเสริญร่วมกับมรดกของพระองค์
วันอังคารที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2567
อธิษฐาน เปรียบดั่งลมหายใจ
ทั้งหมด 294 ข้อ ใหม่ 141 ข้อ เดิม 153 ข้อ
วิงวอน ในพระคริสตธรรมคัมภีร์ จำนวน 116 ข้อ
ร้องทูล ในพระคริสตธรรมคัมภีร์ จำนวน 135 ข้อ
กดว. 12:3 (โมเสสเป็นคนถ่อมใจยิ่งกว่าคนทั้งหมดบนพื้นแผ่นดิน)
ฉธบ. 8:2 ท่านจงระลึกถึงทางซึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงนำท่านในถิ่นทุรกันดารถึงสี่สิบปี เพื่อจะทรงทำให้ท่านถ่อมใจ และทรงทดสอบเพื่อจะทราบว่าจิตใจของท่านเป็นอย่างไร ดูว่าท่านจะรักษาพระบัญญัติของพระองค์หรือไม่
ฉธบ. 8:3 พระองค์ทรงทำให้ท่านถ่อมใจ ทรงปล่อยท่านให้หิว และทรงเลี้ยงท่านด้วยมานา ซึ่งท่านเองหรือปู่ย่าตายายของท่านก็ไม่ทราบว่าเป็นอะไร เพื่อพระองค์จะทรงทำให้ท่านเข้าใจว่า มนุษย์ไม่ได้ดำรงชีวิตอยู่ด้วยอาหารเพียงสิ่งเดียว แต่มนุษย์จะดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยทุกสิ่งที่ออกมาจากพระโอษฐ์ของพระยาห์เวห์
ฉธบ. 8:16 ผู้ทรงเลี้ยงท่านด้วยมานาในถิ่นทุรกันดาร ซึ่งบรรพบุรุษของท่านไม่รู้จัก เพื่อพระองค์จะทรงทำให้ท่านถ่อมใจและทรงทดสอบท่าน เพื่อทำให้เกิดประโยชน์แก่ท่านในบั้นปลาย
โยบ 22:29 เพราะพระเจ้าทรงกดผู้เย่อหยิ่งลงต่ำ แต่พระองค์ทรงช่วยคนถ่อมใจให้รอด
สดด. 25:9 พระองค์ทรงนำคนที่ถ่อมใจไปในสิ่งที่ถูก และทรงสอนพระมรรคาของพระองค์แก่คนที่ถ่อมใจ
สดด. 37:11 แต่คนที่ถ่อมใจจะได้แผ่นดินเป็นมรดก และจะปีติยินดีในความสมบูรณ์พูนสุข
สดด. 149:4 เพราะพระยาห์เวห์ทรงปรีดีในประชากรของพระองค์ พระองค์ประทานชัยชนะเป็นมงกุฎแก่คนที่ถ่อมใจ
อสย. 66:2 มือของเราสร้างสิ่งทั้งหมดนี้ และสิ่งทั้งหมดนี้ก็เกิดขึ้น” พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ “แต่นี่ต่างหากที่เราจะมอง คือผู้ถ่อมใจและสำนึกผิดในวิญญาณจิต และตัวสั่นเพราะถ้อยคำของเรา
ยก. 4:6 แต่พระองค์ก็ประทานพระคุณมากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นพระคัมภีร์จึงกล่าวว่า “พระเจ้าทรงต่อสู้คนที่หยิ่งจองหอง แต่ประทานพระคุณแก่คนที่ถ่อมใจ”
ยก. 4:10 พวกท่านจงถ่อมใจลงต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า แล้วพระองค์จะทรงยกชูท่าน
1ปต. 5:5 ในทำนองเดียวกัน พวกท่านที่อ่อนอาวุโส ก็จงยอมเชื่อฟังพวกผู้อาวุโส ท่านทุกคนจงสวมความถ่อมตัวในการปฏิบัติต่อกันและกัน เพราะ พระเจ้าทรงต่อสู้คนที่หยิ่งจองหอง แต่ประทานพระคุณแก่คนที่ถ่อมใจ
มคา. 6:8 มนุษย์เอ๋ย พระองค์ทรงสำแดงแก่เจ้าแล้วว่าอะไรดี? และพระยาห์เวห์ทรงประสงค์อะไรจากเจ้า? นอกจากให้ทำความยุติธรรมและให้รักความเมตตา และให้ดำเนินชีวิตไปกับพระเจ้าของเจ้าด้วยความถ่อมใจ
ศฟย. 2:3 จงแสวงหาพระยาห์เวห์ ทุกคนที่ถ่อมใจบนแผ่นดิน คือผู้ที่ทำตามพระบัญชาของพระองค์ จงแสวงหาความชอบธรรม จงแสวงหาความถ่อมใจ บางทีพวกเจ้าจะได้รับการกำบัง ในวันแห่งพระพิโรธของพระยาห์เวห์
ศฟย. 3:12 เพราะเราจะเหลือไว้ในท่ามกลางเจ้า ประชาชนที่ถ่อมใจและเจียมตัว พวกเขาจะแสวงหาที่ลี้ภัยในพระนามของพระยาห์เวห์
กจ. 20:19 ข้าพเจ้ารับใช้องค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยความถ่อมใจและด้วยน้ำตา ต้องทนต่อการทดลองที่มาถึงตัวเองอันเนื่องจากแผนร้ายของพวกยิว
2คร. 11:7 ข้าพเจ้าทำผิดหรือที่ถ่อมใจลงเพื่อยกชูท่านขึ้น เพราะข้าพเจ้าประกาศข่าวประเสริฐของพระเจ้าแก่พวกท่านโดยไม่คิดเงิน
อฟ. 4:2 คือจงถ่อมใจและมีความสุภาพอ่อนโยนอยู่เสมอ จงอดทน จงอดกลั้นต่อกันและกันด้วยความรัก
คส. 2:18 อย่าให้ใครตัดสิทธิ์พวกท่านด้วยการทำทีถ่อมใจและด้วยการนมัสการพวกทูตสวรรค์ พวกเขาใฝ่ฝันอยู่ในนิมิต หยิ่งผยองอย่างไม่มีเหตุตามความคิดฝ่ายเนื้อหนังของเขา
คส. 2:23 จริงอยู่สิ่งเหล่านี้ดูเหมือนมีปัญญา คือการนมัสการด้วยความสมัครใจ การทำทีถ่อมใจ และการทรมานกาย แต่ไม่มีประโยชน์อะไรในการต่อสู้กับความใคร่ของเนื้อหนัง
วันอังคารที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2567
เฮเซคียาห์ทรงเจริญรุ่งเรือง
2พศด. 32:1 ภายหลังเหตุการณ์และความซื่อสัตย์ที่กล่าวมา เซนนาเคอริบกษัตริย์แห่งอัสซีเรียยกมาและบุกรุกยูดาห์ ตั้งค่ายล้อมเมืองป้อมต่างๆ ไว้ และทรงตั้งใจจะยึดเอาไว้
2พศด. 32:2 และเมื่อเฮเซคียาห์ทรงเห็นว่าเซนนาเคอริบยกมาด้วยเจตนาจะสู้รบกับกรุงเยรูซาเล็ม
2พศด. 32:3 พระองค์ทรงวางแผนกับบรรดาเจ้านายและนายทหารของพระองค์ ที่จะอุดน้ำตามน้ำพุต่างๆ ที่อยู่นอกเมือง และพวกเขาก็ช่วยเหลือพระองค์
2พศด. 32:4 ประชาชนจำนวนมากมารวมกัน และพวกเขาอุดน้ำพุและปิดกั้นลำธารทั้งหมดที่ไหลผ่านแผ่นดินโดยกล่าวว่า “จะปล่อยให้พวกกษัตริย์อัสซีเรียมาพบน้ำมากมายทำไม?”
2พศด. 32:5 พระองค์ทรงทำการอย่างกล้าหาญในการสร้างกำแพงทั้งหมดที่พังลงนั้นขึ้นใหม่ และสร้างหอคอยขึ้นรวมทั้งสร้างกำแพงชั้นนอกอีกชั้นหนึ่ง พระองค์ยังทรงเสริมกำแพงป้อมมิลโลที่นครดาวิด ทรงสร้างอาวุธและโล่จำนวนมาก
2พศด. 32:6 และพระองค์ทรงตั้งผู้บังชาการรบเหนือประชาชน และทรงรวบรวมพวกเขาเข้ามาด้วยกัน ณ ลานที่ประตูนคร แล้วตรัสหนุนใจเขาทั้งหลายว่า
2พศด. 32:7 “จงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด อย่ากลัวหรือท้อแท้เพราะพระราชาอัสซีเรีย และกองทัพทั้งหมดที่อยู่กับเขา เพราะว่าผู้ที่อยู่กับพวกเรานั้นใหญ่กว่าผู้ที่อยู่กับเขา
2พศด. 32:8 ฝ่ายเขามีแต่กำลังของเนื้อหนัง แต่พวกเรามีพระยาห์เวห์พระเจ้าของเราที่จะทรงช่วยเราและสู้ศึกของพวกเรา” ประชาชนก็วางใจในพระดำรัสของเฮเซคียาห์พระราชาแห่งยูดาห์
2พศด. 32:9 หลังจากนั้น ในขณะที่ล้อมเมืองลาคีชอยู่ด้วยกำลังรบทั้งหมดของพระองค์ เซนนาเคอริบพระราชาแห่งอัสซีเรียมีรับสั่งให้ข้าราชการของพระองค์ไปยังกรุงเยรูซาเล็มไปหาเฮเซคียาห์พระราชาของยูดาห์ และไปหาประชาชนทั้งหมดของยูดาห์ที่อยู่ในกรุงเยรูซาเล็มแล้วกล่าวว่า
2พศด. 32:10 “เซนนาเคอริบพระราชาแห่งอัสซีเรียตรัสดังนี้ว่า ‘เจ้าทั้งหลายพึ่งอะไร? พวกเจ้าจึงยืนหยัดให้เราล้อมอยู่ในกรุงเยรูซาเล็ม
2พศด. 32:11 เฮเซคียาห์ชักจูงเจ้าให้หลงเพื่อจะให้พวกเจ้าตาย ด้วยความอดอยากและกระหายไม่ใช่หรือ? เมื่อเขาบอกเจ้าว่า “พระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเราจะทรงช่วยกู้เราจากมือของพระราชาแห่งอัสซีเรีย”
2พศด. 32:12 เฮเซคียาห์คนนี้ไม่ใช่หรือที่ขจัดปูชนียสถานสูง และแท่นบูชาทั้งหลายของพระยาห์เวห์ และบัญชายูดาห์กับเยรูซาเล็มว่า “เจ้าทั้งหลายจงนมัสการที่หน้าแท่นบูชา และเผาเครื่องบูชาบนแท่นบูชาเพียงแท่นเดียว?”
2พศด. 32:13 เจ้าทั้งหลายรู้แล้วไม่ใช่หรือว่าเราและบรรพบุรุษของเราทำอะไรกับชนชาติทั้งหมดบนแผ่นดินโลก? พระทั้งหลายของประชาชาติแห่งแผ่นดินโลกสามารถช่วยกู้แผ่นดินของพวกเขาให้พ้นจากมือของเราหรือ?
2พศด. 32:14 ในพวกพระทั้งหมดของประชาชาติเหล่านั้นซึ่งบรรพบุรุษของเราทำลายอย่างราบคาบนั้น มีองค์ไหนที่สามารถช่วยกู้ประชากรของตนจากมือของเราหรือ? แล้วพระเจ้าของพวกเจ้าจะสามารถช่วยกู้เจ้าจากมือของเราหรือ?
2พศด. 32:15 เพราะฉะนั้นในเวลานี้ อย่าให้เฮเซคียาห์หลอกลวง หรือชักจูงพวกเจ้าให้หลงในทำนองนี้ อย่าเชื่อเขา เพราะพระทั้งหมดของทุกประชาชาติหรือทุกอาณาจักร ไม่มีองค์ไหนที่สามารถช่วยกู้ประชากรของตนจากมือของเราหรือจากมือบรรพบุรุษของเรา พระเจ้าของพวกเจ้าก็จะช่วยกู้เจ้าจากมือของเราได้น้อยยิ่งกว่านั้นสักเพียงไร’ ”
2พศด. 32:16 และข้าราชการของพระราชาอัสซีเรีย ก็กล่าวทับถมพระยาห์เวห์พระเจ้าและเฮเซคียาห์ผู้รับใช้ของพระองค์มากยิ่งกว่านั้นอีก
2พศด. 32:17 และพระองค์ยังทรงพระอักษรเยาะเย้ยพระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอล และทรงกล่าวทับถมพระเจ้าว่า “พระทั้งหลายของประชาชาติแห่งแผ่นดินโลก ไม่อาจช่วยกู้ประชากรของพวกเขาจากมือของเราอย่างไร พระเจ้าของเฮเซคียาห์ก็ไม่อาจช่วยกู้ประชากรของตน จากมือของเราอย่างนั้น”
2พศด. 32:18 และเขาทั้งหลายร้องตะโกนข้อความนี้เป็นภาษายูดาห์ด้วยเสียงดังมากให้ชาวเยรูซาเล็มผู้อยู่บนกำแพงได้ยิน เพื่อให้พวกเขาตกใจและหวาดหวั่น เพื่อจะได้ยึดเมืองนั้น
2พศด. 32:19 พวกเขาพูดถึงพระเจ้าแห่งกรุงเยรูซาเล็ม ราวกับพระของชนชาติทั้งหลายแห่งแผ่นดินโลก ซึ่งเป็นผลงานของมือมนุษย์
2พศด. 32:20 แล้วเฮเซคียาห์พระราชาและอิสยาห์ผู้เผยพระวจนะบุตรอามอสอธิษฐานเพื่อเรื่องนี้และร้องทูลต่อฟ้าสวรรค์
2พศด. 32:21 แล้วพระยาห์เวห์ทรงใช้ทูตสวรรค์องค์หนึ่งไปทำลายนักรบกล้าหาญ ผู้บังคับกองและเจ้านายทั้งหมดในค่ายของพระราชาแห่งอัสซีเรีย ฉะนั้นพระองค์จึงเสด็จกลับไปยังแผ่นดินของพระองค์ด้วยความอับอายขายพระพักตร์ เมื่อพระองค์เสด็จเข้าในวิหารของพระของพระองค์ พระราชโอรสบางองค์ของพระองค์เองสังหารพระองค์ตรงนั้นด้วยดาบ
2พศด. 32:22 ดังนั้นพระยาห์เวห์ทรงช่วยเฮเซคียาห์ และชาวกรุงเยรูซาเล็มจากพระหัตถ์ของเซนนาเคอริบพระราชาแห่งอัสซีเรีย และจากมือของศัตรูทั้งหมด และพระองค์ทรงดูแลเขาทั้งหลายในทุกด้าน
2พศด. 32:23 และคนมากมายนำของถวายมาถวายพระยาห์เวห์ที่กรุงเยรูซาเล็ม และนำของมีค่าต่างๆ มาถวายเฮเซคียาห์พระราชาแห่งยูดาห์ และพระองค์จึงทรงเป็นที่ยกย่องในสายตาของประชาชาติต่างๆ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
2พศด. 32:24 ครั้งหนึ่งเฮเซคียาห์ประชวรใกล้จะสิ้นพระชนม์ และเฮเซคียาห์อธิษฐานต่อพระยาห์เวห์และทูลต่อพระองค์ แล้วพระองค์ทรงตอบและประทานหมายสำคัญอย่างหนึ่งแก่เฮเซคียาห์
2พศด. 32:25 แต่เฮเซคียาห์ไม่ได้ทรงตอบแทนตามพระคุณที่มีต่อพระองค์ เพราะพระทัยของพระองค์หยิ่งผยองขึ้น เพราะฉะนั้นพระพิโรธจึงมาเหนือพระองค์ เหนือยูดาห์และกรุงเยรูซาเล็ม
2พศด. 32:26 เฮเซคียาห์จึงถ่อมพระทัยที่หยิ่งผยองนั้นลง ทั้งพระองค์และชาวกรุงเยรูซาเล็ม พระพิโรธของพระยาห์เวห์จึงไม่ได้มาเหนือเขาทั้งหลายในรัชสมัยของเฮเซคียาห์
2พศด. 32:27 เฮเซคียาห์ทรงมีราชทรัพย์และเกียรติยศมากยิ่งนัก และพระองค์ทรงสร้างคลังสำหรับพระองค์เองเพื่อเก็บเงิน ทองคำ อัญมณี เครื่องเทศ โล่ และของมีค่าทุกชนิด
2พศด. 32:28 ทั้งยุ้งฉางเพื่อเก็บข้าว เหล้าองุ่น และน้ำมันที่ผลิตมา ทั้งคอกสัตว์สำหรับสัตว์เลี้ยงทุกชนิด และคอกสำหรับแกะ
2พศด. 32:29 พระองค์ทรงจัดหาเมืองต่างๆ สำหรับพระองค์เอง รวมทั้งฝูงปศุสัตว์และฝูงวัวมากมาย เพราะพระเจ้าประทานทรัพย์สมบัติให้พระองค์มากอย่างยิ่ง
2พศด. 32:30 เฮเซคียาห์องค์นี้ที่ทรงปิดกั้นทางน้ำออกด้านบนของน้ำพุกีโฮน แล้วบังคับให้ไหลลงไปยังด้านตะวันตกของนครดาวิด เฮเซคียาห์ทรงเจริญรุ่งเรืองในพระราชกิจทั้งหมดของพระองค์
2พศด. 32:31 ฉะนั้นในเรื่องทูตที่เจ้านายเมืองบาบิโลนส่งมาไต่ถามถึงหมายสำคัญที่เกิดขึ้นในแผ่นดิน พระเจ้าทรงปล่อยพระองค์ไว้ตามอำเภอใจ เพื่อทดสอบพระองค์ และเพื่อรู้พระดำริทุกอย่างในพระทัยของพระองค์
2พศด. 32:32 ส่วนพระราชกิจอื่นๆ ของเฮเซคียาห์ และกิจการอันดีงามของพระองค์นั้น ดูสิ มีบันทึกในนิมิตของอิสยาห์บุตรอามอสผู้เผยพระวจนะในหนังสือพงศ์กษัตริย์ของยูดาห์และอิสราเอล
2พศด. 32:33 แล้วเฮเซคียาห์ทรงล่วงหลับไปอยู่กับบรรพบุรุษของพระองค์ และเขาทั้งหลายฝังพระศพไว้ที่ทางขึ้นอุโมงค์ของบรรดาพระราชโอรสของดาวิด แล้วคนยูดาห์และชาวกรุงเยรูซาเล็มทั้งหมดถวายพระเกียรติเมื่อพระองค์สิ้นพระชนม์ และมนัสเสห์พระราชโอรสของพระองค์ก็ทรงขึ้นครองราชย์แทนพระองค์
อับรามมั่งคั่ง
ปฐก. 13:1 อับรามกับภรรยาจึงออกจากอียิปต์ไปเนเกบ พร้อมด้วยทรัพย์สมบัติทั้งหมด โลทก็ไปด้วย
ปฐก. 13:2 อับรามมั่งคั่งมากด้วยฝูงปศุสัตว์ เงินและทองคำ
ปฐก. 13:3 ท่านเดินทางเป็นระยะๆ ต่อไปจากเนเกบจนมาถึงเบธเอล ที่ที่เต็นท์ของท่านตั้งอยู่คราวก่อน ระหว่างเบธเอลกับอัย
ปฐก. 13:4 คือที่ที่เมื่อก่อนท่านสร้างแท่นบูชาไว้ และที่นั่นอับรามนมัสการออกพระนามพระยาห์เวห์
ปฐก. 13:5 ฝ่ายโลทที่ไปกับอับรามนั้น มีฝูงแพะ แกะ และฝูงโคกับเต็นท์ด้วย
ปฐก. 13:6 ที่ดินที่นั่นไม่กว้างขวางพอให้พวกเขาอยู่ด้วยกันได้ เพราะทรัพย์สมบัติของพวกเขามีมาก จึงอยู่ด้วยกันไม่ได้
ปฐก. 13:7 คนเลี้ยงสัตว์ของอับรามกับคนเลี้ยงสัตว์ของโลทก็วิวาทกัน เวลานั้นคนคานาอันและคนเปริสซียังอาศัยอยู่ในดินแดนนั้น
ปฐก. 13:8 อับรามจึงพูดกับโลทว่า “ขออย่าให้เราและคนเลี้ยงสัตว์ของเราทะเลาะกันเลย เพราะเราเป็นญาติสนิท
ปฐก. 13:9 ที่ดินทั้งหมดอยู่ตรงหน้าเจ้าไม่ใช่หรือ? ขอให้เจ้าแยกไปจากเราเถิด ถ้าเจ้าไปทางซ้ายเราก็จะไปทางขวา หรือเจ้าจะไปทางขวา เราก็จะไปทางซ้าย”
ปฐก. 13:10 โลทเงยหน้าแลดูที่ลุ่มของแม่น้ำจอร์แดนทั้งหมด เห็นว่ามีน้ำบริบูรณ์อยู่ทุกแห่ง (นี่เป็นสภาพก่อนพระยาห์เวห์ทรงทำลายเมืองโสโดมและเมืองโกโมราห์) เหมือนพระอุทยานของพระยาห์เวห์ เหมือนแผ่นดินอียิปต์ ในทิศที่จะไปทางเมืองโศอาร์
ปฐก. 13:11 โลทจึงเลือกที่ลุ่มทั้งหมดของแม่น้ำจอร์แดน โลทออกเดินทางไปทิศตะวันออก ญาติสนิททั้งสองจึงแยกกันไป
ปฐก. 13:12 อับรามอาศัยอยู่ในแผ่นดินคานาอัน ส่วนโลทอาศัยอยู่ท่ามกลางเมืองต่างๆ ในที่ราบ และย้ายเต็นท์ไปตั้งถึงเมืองโสโดม
ปฐก. 13:13 ผู้ชายเมืองโสโดมเป็นคนชั่วร้าย ทำผิดบาปต่อพระยาห์เวห์มาก
ปฐก. 13:14 เมื่อโลทจากอับรามไปแล้ว พระยาห์เวห์ตรัสแก่อับรามว่า “จงเงยหน้าดูสถานที่ตั้งแต่เจ้าอยู่นี้ไปทางทิศเหนือ ทิศใต้ ทิศตะวันออก และทิศตะวันตก
ปฐก. 13:15 เพราะดินแดนทั้งหมดที่เจ้าแลเห็นนี้ เราจะยกให้เจ้าและเชื้อสายของเจ้าตลอดนิรันดร์
ปฐก. 13:16 เราจะทำให้เชื้อสายของเจ้ามากเหมือนผงคลีดิน ใครนับผงคลีดินได้ก็จะนับเชื้อสายของเจ้าได้
ปฐก. 13:17 จงลุกขึ้นเดินให้ทั่วดินแดนนี้ ทั้งด้านยาวและด้านกว้าง เพราะว่าเราจะยกดินแดนนี้ให้เจ้า”
ปฐก. 13:18 อับรามจึงย้ายเต็นท์มาอาศัยอยู่ที่หมู่ต้นโอ๊กของมัมเร ซึ่งอยู่ที่เฮโบรน แล้วสร้างแท่นบูชาถวายพระยาห์เวห์ที่นั่น
เจริญรุ่งเรือง
2พศด. 32:30 เฮเซคียาห์องค์นี้ที่ทรงปิดกั้นทางน้ำออกด้านบนของน้ำพุกีโฮน แล้วบังคับให้ไหลลงไปยังด้านตะวันตกของนครดาวิด เฮเซคียาห์ทรงเจริญรุ่งเรืองในพระราชกิจทั้งหมดของพระองค์
โยบ 36:11 ถ้าเขาเชื่อฟังและปรนนิบัติพระองค์ เขาจะอยู่ครบอายุของเขาด้วยความเจริญรุ่งเรือง และอยู่ครบปีของเขาด้วยความสุขใจ
สดด. 30:6 ส่วนข้าพระองค์ ข้าพระองค์พูดในความเจริญรุ่งเรืองของข้าพระองค์ว่า “ข้าพเจ้าจะไม่หวั่นไหวเลย”
สดด. 106:5 เพื่อข้าพระองค์จะเห็นความเจริญรุ่งเรืองของบรรดาผู้ที่พระองค์ทรงเลือกสรร เพื่อข้าพระองค์จะยินดีในความชื่นบานแห่งประชาชาติของพระองค์ เพื่อข้าพระองค์จะสรรเสริญร่วมกับมรดกของพระองค์
สภษ. 11:25 คนใจกว้างย่อมเจริญรุ่งเรือง คนที่ให้น้ำคนอื่นย่อมได้น้ำตอบแทน
สภษ. 16:20 ผู้ใส่ใจพระวจนะจะเจริญรุ่งเรือง และคนที่วางใจในพระยาห์เวห์จะสุขสบาย
สภษ. 17:8 สินบนเหมือนแก้ววิเศษในสายตาของผู้ให้ เขาจะหันไปทางไหนก็เจริญรุ่งเรืองทางนั้น
สภษ. 17:20 คนใจคดจะไม่เจริญรุ่งเรือง และผู้ที่มีลิ้นตลบตะแลงย่อมตกอยู่ในความยากลำบาก
สภษ. 19:8 คนที่ได้ปัญญาก็รักตนเอง คนที่รักษาความเข้าใจไว้จะเจริญรุ่งเรือง
สภษ. 28:25 คนโลภเร้าให้เกิดการวิวาท แต่ผู้ที่วางใจในพระยาห์เวห์จะเจริญรุ่งเรือง
ศคย. 7:7 ในสมัยที่เยรูซาเล็มและเมืองล้อมรอบมีคนอยู่และเจริญรุ่งเรืองนั้น เนเกบและแดนเนินเชเฟลาห์ก็มีคนอยู่ ถ้อยคำเหล่านี้เป็นพระวจนะซึ่งพระยาห์เวห์ทรงประกาศโดยผู้เผยพระวจนะรุ่นก่อนๆ ไม่ใช่หรือ?”’
มก. 11:10 ความเจริญรุ่งเรืองจงมีแก่แผ่นดินที่จะมาตั้งอยู่ ซึ่งเป็นของดาวิดบรรพบุรุษของเรา โฮซันนา ในที่สูงสุด”
มั่งคั่ง
ปฐก. 13:2 อับรามมั่งคั่งมากด้วยฝูงปศุสัตว์ เงินและทองคำ
ปฐก. 26:13 อิสอัคก็ร่ำรวยและมั่งมีขึ้นเรื่อยๆ จนท่านเป็นคนมั่งคั่ง
ฉธบ. 30:5 และพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะทรงนำท่านเข้ามาในแผ่นดินซึ่งบรรพบุรุษของท่านยึดครอง เพื่อท่านจะได้ยึดครอง และพระองค์จะทรงทำให้ท่านทั้งหลายจำเริญมั่งคั่งและทวีมากขึ้นยิ่งกว่าบรรพบุรุษของท่าน
ฉธบ. 30:9 พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะทรงทำให้ท่านจำเริญมั่งคั่งอย่างยิ่งในกิจการที่มือท่านทำ ในพงศ์พันธุ์ของตัวท่านเอง ในผลแห่งฝูงสัตว์ และในผลแห่งพื้นดินของท่าน เพราะพระยาห์เวห์จะพอพระทัยที่จะให้ท่านจำเริญมั่งคั่ง ดังที่พระองค์ทรงปีติยินดีในบรรพบุรุษของท่าน
ยชว. 22:8 กล่าวแก่เขาว่า “จงกลับไปบ้านของท่านพร้อมกับทรัพย์สมบัติมั่งคั่ง และฝูงปศุสัตว์มากมาย มีเงิน ทองคำ ทองสัมฤทธิ์และเหล็ก และเสื้อผ้าเป็นอันมาก จงแบ่งของที่ริบมาจากศัตรูของท่านให้แก่พี่น้องของท่าน”
1ซมอ. 2:7 พระยาห์เวห์ทรงทำให้ยากจนและทรงทำให้มั่งคั่ง ทรงทำให้ต่ำลงและทรงยกขึ้น
1พกษ. 3:11 พระเจ้าจึงตรัสกับซาโลมอนว่า “เพราะเจ้าได้ขอสิ่งนี้และไม่ได้ขอชีวิตยืนยาว หรือความมั่งคั่งให้ตัวเอง หรือขอชีวิตศัตรูของเจ้า แต่เจ้าเองขอความเข้าใจเพื่อจะวินิจฉัยอย่างยุติธรรม
1พกษ. 3:13 เราจะให้สิ่งที่เจ้าไม่ได้ขอแก่เจ้าด้วย ทั้งความมั่งคั่งและเกียรติยศ เพื่อจะไม่มีกษัตริย์องค์ใดเปรียบเทียบกับเจ้าได้ตลอดวันเวลาทั้งสิ้นของเจ้า
1พกษ. 10:7 แต่หม่อมฉันไม่ได้เชื่อถ้อยคำเหล่านั้น จนกระทั่งหม่อมฉันได้มาเฝ้า และเห็นด้วยตาของหม่อมฉันเอง ดูสิ ที่เขาบอกแก่หม่อมฉันก็ไม่ถึงครึ่งหนึ่ง พระสติปัญญาและความมั่งคั่งฝ่าพระบาทก็มากยิ่งกว่าข่าวคราวที่หม่อมฉันได้ยิน
1พศด. 29:12 ทั้งความมั่งคั่งและเกียรติมาจากพระองค์ และพระองค์ทรงครอบครองอยู่เหนือทุกสิ่ง ฤทธิ์อำนาจและฤทธานุภาพอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์ และอยู่ที่พระหัตถ์ของพระองค์ที่จะทรงกระทำให้ใหญ่ยิ่งและประทานกำลังแก่คนทั้งปวง
1พศด. 29:28 แล้วพระองค์สิ้นพระชนม์เมื่อทรงชราและแก่หง่อมมาก ทั้งทรงมั่งคั่งและมีพระเกียรติ และซาโลมอนพระราชโอรสของพระองค์ทรงครองราชย์แทนพระองค์
2พศด. 1:11 พระเจ้าตรัสตอบซาโลมอนว่า “เพราะว่าสิ่งนี้อยู่ในจิตใจของเจ้า และเจ้าไม่ได้ขอทรัพย์สมบัติ ความมั่งคั่ง เกียรติหรือชีวิตของพวกคนที่เกลียดชังเจ้า และทั้งไม่ได้ขอชีวิตยืนยาว แต่ได้ขอสติปัญญาและความรู้เพื่อตัวเจ้าเอง เพื่อเจ้าจะพิพากษาประชากรของเรา ผู้ซึ่งเราได้ตั้งเจ้าให้เป็นพระราชาเหนือเขาทั้งหลายนั้น
2พศด. 1:12 เราจะให้สติปัญญาและความรู้แก่เจ้า เราจะให้ทรัพย์สมบัติ ความมั่งคั่ง และเกียรติแก่เจ้าด้วยอย่างที่ไม่มีกษัตริย์องค์ใดผู้อยู่ก่อนเจ้า หรืออยู่ภายหลังเจ้าจะมีเหมือน”
อสร. 9:12 เพราะฉะนั้น อย่ามอบบุตรหญิงของเจ้าแก่บุตรชายของพวกเขา หรืออย่ารับบุตรหญิงของเขาให้บุตรชายของเจ้า หรืออย่าเสริมสวัสดิภาพและความเจริญมั่งคั่งของเขาทั้งหลายเป็นนิตย์ เพื่อพวกเจ้าจะแข็งแรงและกินของดีๆ แห่งแผ่นดินนั้น และมอบแผ่นดินนั้นไว้เป็นมรดกแก่ลูกหลานของพวกเจ้าเป็นนิตย์’
โยบ 1:3 ส่วนทรัพย์สมบัติของท่าน มีแกะ 7,000 ตัว อูฐ 3,000 ตัว วัว 500 คู่ ลาตัวเมีย 500 ตัว และคนใช้มากมาย ดังนั้นชายผู้นี้จึงมั่งคั่งที่สุดในบรรดาชาวตะวันออก
โยบ 5:5 ผลที่เขาเกี่ยว คนหิวก็กินเสีย แม้ส่วนที่เอาหนามสะไว้ เขาก็เอาไป และคนกระหายก็กระเหี้ยนกระหือรือไล่ตามความมั่งคั่งของเขา
โยบ 27:19 เขานอนลงกับความมั่งคั่ง แต่เขาจะไม่ได้เป็นอย่างนั้นต่อไป เมื่อเขาลืมตา ทรัพย์สมบัติของเขาก็ไม่อยู่แล้ว
โยบ 34:19 ผู้ไม่ทรงมีอคติเข้าข้างเจ้านาย และไม่เห็นแก่หน้าคนมั่งคั่งมากกว่าคนยากจน เพราะเขาทุกคนเป็นผลงานแห่งพระหัตถ์ของพระองค์หรือ?
สดด. 17:14 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้พ้นจากมนุษย์โดยพระหัตถ์ของพระองค์ คือพ้นจากมนุษย์ผู้ซึ่งส่วนแบ่งของชีวิตอยู่ในโลกนี้ พระองค์ทรงให้ผู้ที่พระองค์ทรงรักได้อิ่มท้อง ลูกหลานของพวกเขาก็อิ่มเอม และทิ้งความความมั่งคั่งไว้แก่ลูกอ่อนของตน
สดด. 49:6 คนที่วางใจในทรัพย์สินของตัว และโอ้อวดความมั่งคั่งมากมายของตน
สดด. 49:12 มนุษย์แม้มั่งคั่งก็ไม่อาจยืนยงอยู่ได้ เขาก็พินาศเหมือนสัตว์เดียรัจฉาน
สดด. 49:18 แม้เมื่อเขามีชีวิตอยู่ เขานับว่าตัวเองสุขสบาย และแม้คนยกย่องเขา เมื่อเขามั่งคั่งขึ้น
สดด. 49:20 มนุษย์แม้มั่งคั่งแต่หากปราศจากความเข้าใจ เขาก็พินาศเหมือนสัตว์เดียรัจฉาน
สดด. 62:10 อย่าวางใจในการบีบบังคับ อย่าหวังลมๆ แล้งๆ จากการปล้น ถ้าความมั่งคั่งเพิ่มขึ้น ก็อย่าวางใจในสิ่งนั้น
สดด. 112:3 ทรัพย์สินและความมั่งคั่งอยู่ในบ้านของเขา และความชอบธรรมของเขาดำรงอยู่เป็นนิตย์
สดด. 119:14 ข้าพระองค์ปีติยินดีในทางแห่งพระโอวาทของพระองค์ มากเท่ากับในความมั่งคั่งทั้งสิ้น
สภษ. 3:16 ชีวิตยืนยาวอยู่ในมือขวาของปัญญา ส่วนในมือซ้ายมีความมั่งคั่งและเกียรติยศ
สภษ. 8:18 ความมั่งคั่งและเกียรติอยู่กับข้าพเจ้า ทั้งทรัพย์สินที่ทนทานและความชอบธรรม
สภษ. 10:4 มือที่เกียจคร้านทำให้ยากจน แต่มือที่ขยันขันแข็งทำให้มั่งคั่ง
สภษ. 10:15 ทรัพย์สมบัติของคนมั่งคั่งเป็นเมืองเข้มแข็งของเขา แต่ความยากจนของคนจนเป็นความหายนะของเขา
สภษ. 10:22 พระพรของพระยาห์เวห์ทำให้มั่งคั่ง และพระองค์ไม่ได้ทรงเพิ่มความโศกเศร้าเข้ากับพระพร
สภษ. 11:4 ความมั่งคั่งไม่มีประโยชน์ในวันแห่งพระพิโรธ แต่ความชอบธรรมช่วยให้พ้นจากความมรณา
สภษ. 11:16 หญิงที่มีใจเมตตาย่อมได้รับเกียรติ แต่ชายใจร้ายย่อมมั่งคั่ง
สภษ. 11:24 บางคนยิ่งแจกจ่ายยิ่งมั่งคั่ง บางคนยิ่งหวงสิ่งที่ควรจ่ายแจกก็ยิ่งขัดสน
สภษ. 11:28 คนที่วางใจในความมั่งคั่งจะล้มละลาย แต่คนชอบธรรมจะรุ่งเรืองอย่างใบไม้เขียว
สภษ. 13:7 มีคนที่ทำทีว่ามั่งคั่ง แต่ไม่มีอะไรเลย และมีคนที่ทำทีว่ายากจน แต่มีทรัพย์สมบัติมากมาย
สภษ. 13:8 ค่าไถ่ชีวิตของคนคือความมั่งคั่งของเขา แต่คนยากจนจะไม่ได้ยินคำข่มขู่เอาค่าไถ่
สภษ. 14:20 คนยากจนนั้นแม้เพื่อนบ้านของตนก็รังเกียจ แต่คนมั่งคั่งมีสหายมากมาย
สภษ. 14:24 มงกุฎของคนมีปัญญาคือความมั่งคั่งของเขา แต่ความโง่เป็นพวงมาลัยของคนโง่
สภษ. 18:11 ทรัพย์สมบัติของคนมั่งคั่งเป็นเมืองเข้มแข็งของเขา และเป็นเหมือนกำแพงสูงตามความคิดเห็นของเขา
สภษ. 18:23 คนยากจนใช้คำวิงวอน แต่คนมั่งคั่งตอบเสียงห้วนๆ
สภษ. 21:17 คนที่รักความบันเทิงจะเป็นคนจน คนที่รักเหล้าองุ่นและน้ำมันจะไม่มั่งคั่ง
สภษ. 22:1 ชื่อเสียงดีนั้นควรเลือกยิ่งกว่าความมั่งคั่งมากมาย และมีคนนับถือก็ดีกว่ามีเงินมีทอง
สภษ. 22:2 คนมั่งคั่งและคนยากจนเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่ง คือพระยาห์เวห์ทรงสร้างพวกเขาทั้งสิ้น
สภษ. 22:4 บำเหน็จของความถ่อมตัวและความยำเกรงพระยาห์เวห์ คือความมั่งคั่ง เกียรติ และชีวิต
สภษ. 22:7 คนมั่งคั่งมีอำนาจเหนือคนยากจน และผู้ขอยืมก็เป็นทาสของผู้ให้ยืม
สภษ. 22:16 คนที่บีบบังคับคนยากจนเพื่อให้ตนมั่งมี และคนที่ให้แก่คนมั่งคั่ง จะมาถึงความขัดสนแน่นอน
สภษ. 27:24 เพราะความมั่งคั่งไม่ยั่งยืนอยู่เป็นนิตย์ และมงกุฎก็ไม่คงทนอยู่ทุกชั่วชาติพันธุ์
สภษ. 28:6 คนยากจนที่ดำเนินในความซื่อสัตย์ของเขา ก็ดีกว่าคนที่คดโกงในทางของตนแล้วมั่งคั่ง
สภษ. 28:11 คนมั่งคั่งก็มีปัญญาในสายตาของตนเอง แต่คนยากจนผู้มีความเข้าใจจะรู้จักเขาแจ่มแจ้ง
สภษ. 30:8 ขอให้ความเท็จและคำมุสาไกลจากข้าพระองค์ ขออย่าประทานความยากจนหรือความมั่งคั่งแก่ข้าพระองค์ ขอทรงเลี้ยงข้าพระองค์ด้วยอาหารที่จำเป็นแก่ข้าพระองค์
ปญจ. 4:8 คือ คนหนึ่งอยู่ตัวคนเดียว ไม่มีบุตรหรือพี่น้อง แต่เขาตรากตรำไม่หยุด ตาของเขาไม่เคยอิ่มความมั่งคั่ง เขาไม่เคยคิดว่า “ข้าตรากตรำและอดใจจากสิ่งที่ชื่นชอบเพื่อใครกัน?” นี่ก็อนิจจังด้วยและเป็นเรื่องสามานย์
ปญจ. 5:11 เมื่อความมั่งคั่งเพิ่มพูนขึ้น คนกินก็มีคับคั่งขึ้น คนที่เป็นเจ้าของทรัพย์จะได้ประโยชน์อะไร นอกจากจะได้ชมเล่นเป็นขวัญตาเท่านั้น
ปญจ. 5:19 อนึ่ง ทุกๆ คนที่พระเจ้าประทานความมั่งคั่งและทรัพย์สมบัติให้ ก็ได้ทรงโปรดให้พวกเขาได้ใช้ของเหล่านั้น และให้ได้รับส่วนแบ่งของพวกเขา และเปรมปรีดิ์ในผลจากน้ำพักน้ำแรงของตนได้ นี่แหละเป็นของประทานจากพระเจ้า
ปญจ. 6:2 คือคนหนึ่งคนใดที่พระเจ้าประทานความมั่งคั่ง ทรัพย์สมบัติ และเกียรติให้ เขาไม่ขาดสิ่งใดเลย เขาได้ทุกสิ่งที่เขาปรารถนาสำหรับตน แต่พระเจ้ามิได้ประทานความสามารถในการใช้สิ่งเหล่านี้ให้เขา คนแปลกหน้ากลับเอาไปใช้เสีย นี่ก็อนิจจังและเป็นความทุกข์ใจอย่างเลวร้าย
ปญจ. 6:3 แม้ว่าคนหนึ่งคนใดมีลูกสักร้อยคน และมีอายุยืนยาว ไม่ว่าเขาจะอยู่นานหลายปีแต่จิตใจเขาไม่ได้อิ่มด้วยความมั่งคั่งเลย และไม่มีงานฝังศพของตนด้วย ข้าพเจ้าว่าลูกที่เกิดมาแท้งเสียยังดีกว่าคนนั้น
ปญจ. 10:6 คือคนเขลาถูกแต่งตั้งไว้ในตำแหน่งสูงใหญ่ และคนมั่งคั่งรับตำแหน่งต่ำต้อย
อสย. 15:7 เพราะฉะนั้น ความมั่งคั่งที่เขาได้มา และที่เขาสะสมเอาไว้ พวกเขาขนเอามันไป ข้ามลำธารต้นหลิว
อสย. 60:5 แล้วเจ้าจะเห็นและปลาบปลื้ม ใจของเจ้าจะตื่นเต้นและเปรมปรีดิ์ เพราะความมั่งคั่งของทะเลจะหันมาหาเจ้า ทรัพย์สมบัติของบรรดาประชาชาติจะมายังเจ้า
อสย. 60:11 บรรดาประตูเมืองของเจ้าจะเปิดอยู่เสมอ มันจะไม่ถูกปิดทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อคนจะนำความมั่งคั่งของบรรดาประชาชาติมายังเจ้า และบรรดาพระราชาของเขาจะถูกนำให้เข้าร่วมขบวน
อสย. 61:6 แต่พวกท่านจะได้รับการขนานนามว่าปุโรหิตของพระยาห์เวห์ คนจะพูดถึงท่านว่าเป็นผู้ปรนนิบัติของพระเจ้าของพวกเรา ท่านทั้งหลายจะรับประทานความมั่งคั่งของบรรดาประชาชาติ และท่านจะอวดโดยความร่ำรวยของพวกเขา
ยรม. 9:23 “พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า อย่าให้ผู้มีปัญญาอวดสติปัญญาของตน อย่าให้ชายฉกรรจ์อวดความเข้มแข็งของตน อย่าให้คนมั่งมีอวดความมั่งคั่งของตน
ยรม. 15:13 “ความมั่งคั่งและทรัพย์สมบัติของเจ้า เราจะมอบให้เป็นของริบโดยไม่คิดค่าเพราะบาปทั้งสิ้นของเจ้า ตลอดทั่วดินแดนของเจ้า
ยรม. 20:5 ยิ่งกว่านั้นอีกเราจะยกความมั่งคั่งของเมืองนี้ คือผลผลิตทั้งสิ้นและของมีค่าทั้งสิ้นของเมืองนี้ และทรัพย์สมบัติทั้งสิ้นของบรรดากษัตริย์ของยูดาห์ไว้ในมือของศัตรูของเขาทั้งหลาย ผู้ซึ่งจะปล้นและฉุดคร่าและกวาดต้อนพวกเขาไปบาบิโลน
อสค. 7:11 ความรุนแรงได้เจริญขึ้นเป็นไม้พลองของความชั่ว ไม่มีใครเหลืออยู่เลย ไม่มีสิ่งใดเหลือจากความมั่งคั่งของพวกเขา ไม่มีเสียงอึกทึกครึกโครมในพวกเขา ไม่มีคนสำคัญในพวกเขา
อสค. 27:33 เมื่อสินค้าของเจ้าขึ้นจากเรือ ก็ทำให้ประชาชนมากมายพอใจ เจ้าได้ทำให้บรรดากษัตริย์ของโลกมั่งคั่ง ด้วยสมบัติและสินค้ามากมายของเจ้า
ดนล. 11:2 “และบัดนี้ เราจะสำแดงความจริงแก่ท่านคือ จะมีพระราชาอีกสามองค์ขึ้นครองเปอร์เซีย และองค์ที่สี่จะมั่งคั่งยิ่งกว่าองค์อื่นทั้งหมด เมื่อท่านมีอำนาจด้วยความมั่งคั่งของท่านแล้ว ท่านก็จะปลุกปั่นให้ทุกคนต่อสู้กับราชอาณาจักรกรีก
ยอล. 3:5 เพราะพวกเจ้าได้เอาเงินและทองของเราไป และเอาทรัพย์สมบัติมั่งคั่งของเราไปยังบรรดาวิหารของเจ้าทั้งหลาย
นฮม. 2:9 จงปล้นเงิน จงปล้นทอง มีสมบัติมากมายไม่สิ้นสุด มั่งคั่งด้วยของมีค่าทุกอย่าง
ศคย. 1:17 จงร้องประกาศอีกว่า พระยาห์เวห์จอมทัพตรัสดังนี้ว่า เมืองของเราจะไพบูลย์ท่วมท้นไปด้วยความมั่งคั่งอีก และพระยาห์เวห์จะปลอบศิโยนและเลือกสรรกรุงเยรูซาเล็มอีกครั้งหนึ่ง’
2คร. 8:9 เพราะว่าท่านทั้งหลายรู้จักพระคุณของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราแล้วว่า แม้พระองค์ทรงมั่งคั่ง ก็ยังทรงยอมเป็นคนยากจนเพราะเห็นแก่ท่านทั้งหลาย เพื่อท่านทั้งหลายจะได้เป็นคนมั่งคั่ง เนื่องจากความยากจนของพระองค์
2คร. 9:11 โดยทรงให้ท่านทั้งหลายมั่งคั่งขึ้นในทุกสิ่ง เพื่อบริจาคด้วยใจกว้างขวางอยู่เสมอ และจะทำให้เกิดการขอบพระคุณพระเจ้าผ่านเรา
1ทธ. 6:17 ส่วนพวกที่มั่งคั่งในชีวิตนี้ จงกำชับพวกเขาไม่ให้เย่อหยิ่ง หรือมุ่งหวังในทรัพย์ที่ไม่ยั่งยืน แต่ให้มุ่งหวังในพระเจ้าผู้ประทานทุกสิ่งแก่เราอย่างบริบูรณ์ เพื่อให้เราได้ชื่นชม
วว. 18:19 และเขาทั้งหลายก็โปรยผงคลีลงบนศีรษะของตน ส่งเสียงร้องไห้โศกเศร้า กล่าวว่า “วิบัติแล้ว วิบัติแล้ว นครที่ยิ่งใหญ่ นครซึ่งทุกคนที่มีเรือเดินทะเลต่างเคยมั่งมีจากความมั่งคั่งของนครนั้น เพราะภายในชั่วโมงเดียวนครนั้นก็สูญสิ้น”
วันพฤหัสบดีที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2567
รักพระเจ้า รักพระเจ้าด้วยสุดจิตและสุดใจ
อพย. 20:6 แต่เราแสดงความรักมั่นคงต่อคนที่รักเรา และปฏิบัติตามบัญญัติของเราจนถึงพันชั่วอายุคน
ฉธบ. 5:10 แต่แสดงความรักมั่นคงต่อคนที่รักเราและปฏิบัติตามบัญญัติของเรากระทั่งพันชั่วอายุ
ยน. 8:42 พระเยซูตรัสกับเขาว่า “ถ้าพระเจ้าเป็นพระบิดาของท่านแล้วท่านก็จะรักเรา เพราะเรามาจากพระเจ้า และอยู่นี่แล้ว เรามิได้มาตามใจชอบของเราเอง แต่พระองค์ทรงใช้เรามา
ยอห์น 14:15 THSV11 “ถ้าพวกท่านรักเรา ท่านก็จะประพฤติตามบัญญัติของเรา
ยอห์น 15:10 THSV11 ถ้าพวกท่านประพฤติตามบัญญัติของเรา ท่านก็จะติดสนิทอยู่กับความรักของเรา เหมือนอย่างที่เราประพฤติตามบัญญัติของพระบิดาและติดสนิทอยู่กับความรักของพระองค์
ยน. 14:21 ผู้ใดที่มีบัญญัติของเรา และประพฤติตามบัญญัตินั้น ผู้นั้นแหละเป็นผู้ที่รักเรา และผู้ที่รักเรานั้นพระบิดาของเราจะทรงรักเขา และเราจะรักเขา และจะสำแดงตัวให้ปรากฏแก่เขา”
ยน. 14:23 พระองค์ตรัสตอบเขาว่า “ถ้าผู้ใดรักเรา ผู้นั้นจะประพฤติตามคำของเรา และพระบิดาจะทรงรักเขา แล้วพระบิดากับเราจะมาหาเขา และจะอยู่กับเขา
ยอห์น 14:24 THSV11 คนที่ไม่รักเราก็ไม่ประพฤติตามคำของเรา และคำที่พวกท่านได้ยินนี้ไม่ใช่คำของเรา แต่เป็นของพระบิดาผู้ทรงใช้เรามา
1 ยอห์น 5:2 THSV11 โดยข้อนี้ เราจึงรู้ว่าเรารักคนทั้งหลายที่เป็นลูกของพระเจ้า คือเมื่อเรารักพระเจ้า และประพฤติตามพระบัญญัติของพระองค์
เจ้ารักเราหรือ
ยอห์น 21:15 THSV11 เมื่อรับประทานอาหารเสร็จแล้ว พระเยซูตรัสกับซีโมนเปโตรว่า “ซีโมนบุตรยอห์นเอ๋ย ท่านรักเรามากกว่าพวกนี้หรือ?” เขาทูลพระองค์ว่า “ใช่ องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงทราบว่าข้าพระองค์รักพระองค์” พระองค์ตรัสสั่งเขาว่า “จงเลี้ยงดูลูกแกะของเราเถิด”
ยอห์น 21:16 THSV11 พระองค์ตรัสกับเขาครั้งที่สองว่า “ซีโมนบุตรยอห์นเอ๋ย ท่านรักเราหรือ?” เขาทูลตอบพระองค์ว่า “ใช่ องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงทราบว่าข้าพระองค์รักพระองค์” พระองค์ตรัสกับเขาว่า “จงดูแลแกะของเราเถิด”
ยอห์น 21:17 THSV11 พระองค์ตรัสกับเขาครั้งที่สามว่า “ซีโมนบุตรยอห์นเอ๋ย ท่านรักเราหรือ?” เปโตรเสียใจมากที่พระองค์ตรัสถามเขาครั้งที่สามว่า “ท่านรักเราหรือ?” เขาจึงทูลพระองค์ว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงทราบทุกสิ่ง พระองค์ทรงรู้ดีว่าข้าพระองค์รักพระองค์” พระเยซูตรัสกับเขาว่า “จงเลี้ยงดูแกะของเราเถิด
รักพระเจ้าด้วยสุดจิตและสุดใจ
ฉธบ. 4:29 แต่ ณ ที่นั่นแหละท่านทั้งหลายจะแสวงหาพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ถ้าพวกท่านค้นหาพระองค์ด้วยสุดจิตและสุดใจ พวกท่านจะพบพระองค์
ฉธบ. 6:5 พวกท่านจงรักพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านด้วยสุดจิตสุดใจและสิ้นสุดกำลังของท่าน
ฉธบ. 10:12 “ดูก่อน คนอิสราเอล พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทรงประสงค์ให้ท่านกระทำอย่างไร คือให้ยำเกรงพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ให้ดำเนินตามทางทั้งปวงของพระองค์ ให้รักพระองค์ ให้ปรนนิบัติพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านด้วยสุดจิตสุดใจของท่านทั้งหลาย
ฉธบ. 11:13 “ถ้าท่านทั้งหลายจะกระทำตามบัญญัติของข้าพเจ้าซึ่งข้าพเจ้าบัญชาท่านไว้ในวันนี้ ให้รักพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลายและปรนนิบัติพระองค์ด้วยสุดจิตสุดใจของท่าน
ฉธบ. 13:3 ท่านอย่าเชื่อฟังคำของผู้เผยพระวจนะหรือผู้ฝันเห็นเหตุการณ์คนนั้น เพราะพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านลองใจท่านดู เพื่อให้ทรงทราบว่าท่านทั้งหลายรักพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านด้วยสุดจิตสุดใจของท่านหรือไม่
ฉธบ. 26:16 “วันนี้พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทรงบัญชาท่าน ให้กระทำตามกฎเกณฑ์และกฎหมายเหล่านี้ ฉะนั้นท่านจงระวังที่จะกระทำตามด้วยสุดจิตสุดใจของท่าน
ฉธบ. 30:2 และท่านก็หันกลับมาหาพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ทั้งตัวท่านและลูกหลานของท่าน และเชื่อฟังพระสุรเสียงของพระองค์ในทุกสิ่งทุกอย่างซึ่งข้าพเจ้าได้บัญชาท่านในวันนี้ด้วยสุดจิตสุดใจของท่าน
ฉธบ. 30:6 แล้วพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านจะทรงตัดใจของท่านและใจของบุตรหลานของท่าน เพื่อท่านจะได้รักพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านด้วยสุดจิตสุดใจของท่าน เพื่อท่านทั้งหลายจะมีชีวิตอยู่ได้
ฉธบ. 30:10 ถ้าท่านฟังพระสุรเสียงแห่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน โดยรักษาพระบัญญัติและกฎเกณฑ์ของพระองค์ ซึ่งจารึกไว้ในหนังสือของกฎหมายนี้ ถ้าท่านทั้งหลายหันกลับมาหาพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านด้วยสุดจิตสุดใจของท่าน
ยชว. 22:5 แต่จงระวังให้มากที่จะปฏิบัติตามพระบัญญัติ และกฎหมายซึ่งโมเสสผู้รับใช้ของพระเจ้าบัญชาท่านไว้ คือที่จะรักพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน และดำเนินในพระมรรคาทั้งสิ้นของพระองค์ และรักษาพระบัญญัติของพระองค์ และติดพันอยู่กับพระองค์ และปรนนิบัติพระองค์ด้วยสุดจิตสุดใจของท่าน”
1พกษ. 2:4 เพื่อพระเจ้าจะได้สถาปนาพระวจนะของพระองค์ ซึ่งพระองค์ตรัสเกี่ยวกับเราว่า ‘ถ้าลูกหลานทั้งหลายของเจ้าระมัดระวังในวิถีทางทั้งหลายของเขา ที่จะดำเนินต่อหน้าเราด้วยความซื่อสัตย์อย่างสุดจิตสุดใจของเขา ราชวงศ์จะไม่ขาดชายที่จะนั่งบนบัลลังก์ของอิสราเอล’
1พกษ. 8:48 ถ้าเขาทั้งหลายกลับมาหาพระองค์ด้วยสุดจิตสุดใจของเขาในแผ่นดินแห่งศัตรูทั้งหลายของเขาผู้ซึ่งจับเขาไปเป็นเชลย และอธิษฐานต่อพระองค์ตรงต่อแผ่นดินของเขา ซึ่งพระองค์ทรงประทานแก่บรรพบุรุษของเขาทั้งหลาย คือเมืองซึ่งพระองค์ได้ทรงเลือกสรรไว้ และพระนิเวศซึ่งข้าพระองค์ได้สร้างไว้เพื่อพระนามของพระองค์
2พศด. 6:38 ถ้าเขาทั้งหลายกลับมาหาพระองค์ด้วยสุดจิตสุดใจของเขา ในแผ่นดินที่เขาไปเป็นเชลย ที่ซึ่งศัตรูกวาดเขาไปเป็นเชลย และอธิษฐานต่อพระองค์ตรงต่อแผ่นดินของเขา ซึ่งพระองค์พระราชทานแก่บรรพบุรุษของเขาทั้งหลาย คือเมืองซึ่งพระองค์ได้ทรงเลือกสรรไว้ และพระนิเวศซึ่งข้าพระองค์ได้สร้างไว้ในพระนามของพระองค์
2พศด. 15:12 และเขาก็เข้าทำพันธสัญญาที่จะแสวงหาพระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของเขา ด้วยสุดจิตสุดใจของเขา
ยรม. 32:41 เออ เราจะเปรมปรีดิ์ในการที่จะกระทำความดีแก่เขา และเราจะปลูกเขาไว้ในแผ่นดินนี้ด้วยความหมั่นมั่น ด้วยสุดใจของเราและสุดจิตของเรา
มธ. 22:37 พระเยซูทรงตอบเขาว่า “จงรักพระองค์ผู้เป็นพระเจ้าของเจ้าด้วยสุดใจสุดจิตของเจ้า และด้วยสิ้นสุดความคิดของเจ้า
มัทธิว 22:38-39 THSV11 นั่นแหละเป็นพระบัญญัติข้อสำคัญอันดับแรก ข้อที่สองก็เหมือนกัน คือ ‘จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง’
มก. 12:30 และพวกท่านจงรักพระเจ้าด้วยสุดจิตสุดใจของท่าน ด้วยสุดความคิดและด้วยสิ้นสุดกำลังของท่าน
มาระโก 12:31 THSV11 ส่วนพระบัญญัติที่สำคัญอันดับสองคือ จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง ไม่มีพระบัญญัติอื่นใดที่สำคัญยิ่งกว่าพระบัญญัติเหล่านี้”
ลก. 10:27 เขาทูลตอบว่า “จงรักพระองค์ผู้เป็นพระเจ้าของเจ้าด้วยสุดจิตสุดใจของเจ้า ด้วยสุดกำลังและสิ้นสุดความคิดของเจ้า และจงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง ”
วันพุธที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2567
ประกาศด้วยความเชื่อ
- ประกาศข่าวประเสริฐ
- ทุกคน กลับใจใหม่ ทิ้งบาป
- อาชีพ การงาน ได้รับพระพร
- พระเจ้าเป็นผู้เลี้ยงดู เจริญขึ้นตามเวลาของพระเจ้า
- สุขภาพ ได้รับการอัศจรรย์จากพระเจ้า หายโรค
- มีอำนาจเหนือผี
- ใช้ชีวิต ประกาศความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า
- หลุดจากบาป ชนะอำนาจผี
- พร้อมรับสิ่งใหม่ ที่พระเจ้าจะอวยพระพร
- มีชีวิตที่ถวายเกียรติพระเจ้าได้
- จะได้รับพระพรใหญ่
- ได้รับพระพรแล้ว ส่งต่อไปถึงผู้อื่น เป็นคนแห่งพระพร
- เป็นที่โปรดปราน
- ทะลุทะลวง
- บ้านใหม่
- รถป้ายแดง
- เศรษฐี
- เป็นแสงสว่าง ในชุมชน
- รับการรักษาโรค มีการอัศจรรย์
- มีความเขื่อเพิ่ม
- มีการเจิมเพิ่ม รับใช้ได้มากขึ้น
- ความรอดมั่นคง
- หน้าที่การงาน
- คำเผยพระวจนะ สำเร็จ คำอธิษฐาน ได้รับคำตอบ
- ได้รับการอัศจรรย์ ทุกวัน
- ใช้ความเชื่อ เห็นการอัศจรรย์
- เติบโตขึ้น ในความเชื่อ
- การเลี้ยงดูจากพระเจ้า
- ประกาศข่าวประเสริฐ ในครอบครัว
- ความโปรดปราน ไหลล้นไปทั่วทุกครอบครัว การเจิม การรับใช้ การเลี้ยงดู
- ให้เชื่อในคำเผยพระวจนะ คำเตือน
- พระเจ้าแยกเราออกจากความมืด มาอยู่ในความสว่างของพระเจ้า แล้ว