กล้าหาญ และ เข้มแข็ง
กดว. 13:20 ดูว่าแผ่นดินนั้นอุดมสมบูรณ์หรือไม่ มีป่าไม้ในนั้นหรือไม่ ท่านทั้งหลายจงมีใจกล้าหาญ และนำผลไม้ของแผ่นดินนั้นกลับมาบ้างด้วย” (เวลานั้นเป็นฤดูผลองุ่นรุ่นแรกกำลังสุก)
ฉธบ. 31:6 จงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด อย่ากลัวหรือครั่นคร้ามเขาเลย เพราะว่าผู้ที่ไปกับท่านคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน พระองค์จะไม่ทรงปล่อยท่านให้ล้มเหลวหรือทอดทิ้งท่าน”
ฉธบ. 31:7 แล้วโมเสสเรียกโยชูวาเข้ามา และกล่าวแก่ท่านต่อหน้าคนอิสราเอลว่า “จงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด เพราะท่านจะต้องไปกับชนชาตินี้ เข้าไปในแผ่นดินซึ่งพระยาห์เวห์ทรงปฏิญาณแก่บรรพบุรุษของพวกเขาว่า จะประทานแก่เขา ท่านจงให้เขาเข้ายึดครองแผ่นดินนั้นเป็นมรดก
ฉธบ. 31:23 พระองค์ตรัสสั่งโยชูวาบุตรนูนว่า “จงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด เพราะเจ้าจะนำคนอิสราเอลเข้าไปในแผ่นดินซึ่งเราปฏิญาณแก่เขา เราจะอยู่กับเจ้า”
ยชว. 1:6 จงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด เพราะเจ้าจะทำให้ชนชาตินี้ได้รับแผ่นดินนั้นเป็นมรดก ซึ่งเราปฏิญาณไว้กับบรรพบุรุษของพวกเขาว่าจะยกให้เขา
ยชว. 1:7 เพียงแต่จงเข้มแข็งและกล้าหาญยิ่งเถิด ระวังที่จะทำตามธรรมบัญญัติทั้งหมด ซึ่งโมเสสผู้รับใช้ของเราได้บัญชาเจ้าไว้นั้น อย่าหันเหจากธรรมบัญญัตินั้นไปทางขวาหรือทางซ้าย เพื่อเจ้าจะได้รับความสำเร็จอย่างดีในทุกแห่งที่เจ้าไป
ยชว. 1:9 เราสั่งเจ้าแล้วไม่ใช่หรือว่าจงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด อย่าครั่นคร้ามหรือตกใจเลย เพราะว่าพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าสถิตกับเจ้าทุกแห่งที่เจ้าไป”
ยชว. 1:14 ภรรยา ลูกเล็ก และฝูงปศุสัตว์ของพวกท่านจะอยู่ในแผ่นดินซึ่งโมเสสยกให้ที่ฟากตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน แต่พวกนักรบกล้าหาญในพวกท่านต้องถืออาวุธข้ามไปเป็นทัพหน้าเพื่อช่วยพี่น้องของตน
ยชว. 1:18 ใครขัดขืนคำบัญชาของท่าน และไม่เชื่อฟังถ้อยคำของท่านไม่ว่าท่านจะบัญชาเขาอย่างไร คนนั้นจะต้องตาย เพียงแต่จงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด”
ยชว. 2:11 เพราะเรื่องท่านนี้แหละ พอพวกเราได้ยินข่าวนี้ เราก็ใจเสีย ไม่มีความกล้าหาญเหลืออยู่ในสักคนหนึ่งเลย เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านเป็นพระเจ้าของสวรรค์เบื้องบนและโลกเบื้องล่าง
ยชว. 6:2 พระยาห์เวห์ตรัสกับโยชูวาว่า “ดูแน่ะ เราได้มอบเมืองเยรีโคไว้ในมือเจ้าแล้ว ทั้งกษัตริย์และพวกนักรบกล้าหาญ
ยชว. 8:3 โยชูวาจึงลุกขึ้นพร้อมกับทหารไปยังเมืองอัย และโยชูวาได้คัดนักรบกล้าหาญ 30,000 คน ให้ยกไปในเวลากลางคืน
ยชว. 10:2 พวกเขาก็กลัวมาก เพราะว่ากิเบโอนเป็นเมืองใหญ่เสมอเมืองหลวง และใหญ่กว่าเมืองอัย และบุรุษชาวเมืองนั้นก็ล้วนเป็นนักรบกล้าหาญ
ยชว. 10:7 โยชูวาจึงขึ้นไปจากกิลกาล ทั้งท่านและพวกทหารและนักรบกล้าหาญทุกคน
ยชว. 10:25 และโยชูวากล่าวแก่เขาว่า “อย่ากลัวหรือตกใจเลย จงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด เพราะว่าพระยาห์เวห์จะทรงทำต่อศัตรูทั้งหมดของท่านซึ่งท่านสู้รบด้วยอย่างนี้แหละ”
วนฉ. 6:12 ทูตของพระยาห์เวห์ทรงปรากฏแก่กิเดโอนตรัสกับเขาว่า “นักรบกล้าหาญเอ๋ย พระยาห์เวห์สถิตกับเจ้า”
วนฉ. 11:1 เยฟธาห์คนกิเลอาดเป็นนักรบผู้กล้าหาญ แต่ท่านเป็นบุตรของหญิงโสเภณี กิเลอาดเป็นบิดาของเยฟธาห์
วนฉ. 18:2 ดังนั้นคนดานจึงส่งคนกล้าหาญ 5 คนจากตระกูลทั้งสิ้นของตนจากเมืองโศราห์ และเมืองเอชทาโอลไปสอดแนมและสำรวจดูแผ่นดินนั้น และคนดานสั่งพวกเขาว่า “จงไปสำรวจดูแผ่นดินนั้น” พวกเขาก็มาถึงแดนเทือกเขาเอฟราอิม ยังบ้านของมีคาห์และค้างแรมที่นั่น
วนฉ. 20:44 คนเบนยามินล้มตาย 18,000 คน ทุกคนเป็นนักรบผู้กล้าหาญ
วนฉ. 20:46 คนเบนยามินที่ล้มตายในวันนั้น ล้วนเป็นทหารถือดาบ 25,000 คน ทุกคนเป็นนักรบผู้กล้าหาญ
วนฉ. 21:10 ดังนั้นชุมนุมชนจึงส่งทหารผู้กล้าหาญ 12,000 คน แล้วบัญชาพวกเขาว่า “จงไปฆ่าชาวยาเบชกิเลอาดเสียด้วยคมดาบทั้งผู้หญิงและเด็ก
1ซมอ. 4:9 โอ พวกฟีลิสเตียเอ๋ยจงกล้าหาญเถิด จงเป็นลูกผู้ชาย เพื่อพวกเจ้าจะไม่เป็นทาสของพวกฮีบรูดังที่พวกเขาเคยเป็นทาสพวกเจ้า จงเป็นลูกผู้ชายและเข้ารบ”
1ซมอ. 16:18 คนหนึ่งในพวกชายหนุ่มทูลว่า “ดูเถิด ข้าพระบาทเห็นบุตรคนหนึ่งของเจสซีชาวเบธเลเฮม เป็นผู้มีฝีมือในการดีดพิณ เป็นคนกล้าหาญ เป็นนักรบ พูดเก่ง และเป็นคนมีหน้าตาดี และพระยาห์เวห์สถิตกับเขา”
1ซมอ. 18:17 ซาอูลจึงรับสั่งกับดาวิดว่า “นี่คือบุตรสาวคนโตของเราชื่อเมราบ เราจะมอบนางให้เป็นภรรยาของเจ้า ขอแต่เจ้าเป็นคนกล้าหาญสำหรับเราและจงสู้ในสงครามของพระยาห์เวห์” เพราะซาอูลทรงดำริว่า “อย่าให้มือของเราต่อสู้เขาเลย แต่ให้มือคนฟีลิสเตียต่อสู้เขา”
1ซมอ. 31:12 ชายที่กล้าหาญทุกคนก็ลุกขึ้นเดินตลอดคืน ไปปลดพระศพของซาอูล และพระศพของราชโอรสทั้งสามจากกำแพงเมืองเบธชาน และนำมาที่เมืองยาเบช ถวายพระเพลิงพระศพที่นั่น
2ซมอ. 2:7 เพราะฉะนั้น ขอให้มือของพวกท่านเข้มแข็ง และขอให้พวกท่านกล้าหาญเถิด เพราะว่าซาอูลเจ้านายของพวกท่านสิ้นพระชนม์แล้ว และพงศ์พันธุ์ยูดาห์ได้เจิมตั้งข้าพเจ้าไว้เป็นกษัตริย์เหนือพวกเขา”
2ซมอ. 10:12 จงเข้มแข็ง ทำตนให้กล้าหาญเพื่อชนชาติของเรา และเพื่อบรรดาเมืองของพระเจ้าของเราและขอพระยาห์เวห์ทรงทำตามที่พระองค์ทรงเห็นชอบเถิด”
2ซมอ. 13:28 แล้วอับซาโลมบัญชาพวกมหาดเล็กของท่านว่า “จงคอยดูว่าจิตใจของอัมโนนเพลิดเพลินด้วยเหล้าองุ่นเมื่อไร เมื่อเราสั่งพวกเจ้าว่า ‘จงประหารอัมโนน’ พวกเจ้าจงฆ่าเขาเสีย อย่ากลัวเลย เราเองสั่งพวกเจ้าแล้วไม่ใช่หรือ? จงเข้มแข็งและเป็นคนกล้าหาญเถิด”
1พกษ. 11:28 เยโรโบอัมเป็นนักรบกล้าหาญ เมื่อซาโลมอนทรงเห็นว่าชายหนุ่มคนนั้นเป็นคนขยัน จึงตั้งให้ดูแลแรงงานทั้งสิ้นที่ถูกเกณฑ์มาจากพงศ์พันธุ์ของโยเซฟ
2พกษ. 5:1 นาอามานผู้บัญชาการกองทัพของพระราชาแห่งซีเรีย เป็นคนสำคัญมากของพระราชา เป็นคนมีเกียรติ เพราะว่าพระยาห์เวห์ประทานชัยชนะแก่ซีเรียโดยท่านนี้ ท่านเป็นนักรบกล้าหาญด้วย แต่ท่านเป็นโรคเรื้อน
2พกษ. 24:14 พระองค์ทรงกวาดต้อนชาวเยรูซาเล็มไปทั้งหมด คือเจ้านายทั้งหมด นักรบกล้าหาญทั้งหมดไปเป็นเชลย 10,000 คน รวมทั้งช่างฝีมือและช่างเหล็กทั้งหมด ไม่มีใครเหลือนอกจากประชาชนของแผ่นดินที่ยากจนที่สุด
1พศด. 5:24 ต่อไปนี้เป็นบรรดาหัวหน้าตระกูลบรรพบุรุษของพวกเขาคือเอเฟอร์ อิชอี เอลีเอล อัสรีเอล เยเรมีย์ โฮดาวิยาห์ และยาดีเอล เป็นเหล่านักรบกล้าหาญ เป็นพวกคนมีชื่อเสียงและเป็นเหล่าหัวหน้าตระกูลบรรพบุรุษของพวกเขา
1พศด. 7:2 บุตรของโทลาคืออุสซี เรไฟยาห์ เยรีเอล ยามัย ยิบสัม และเชมูเอล ซึ่งเป็นบรรดาหัวหน้าของตระกูลบิดาเขาคือของโทลาและเป็นนักรบกล้าหาญในสมัยของพวกเขา และจำนวนของคนเหล่านี้ในสมัยของดาวิดคือ 22,600 คน
1พศด. 7:5 ญาติพี่น้องของพวกเขาเป็นคนในตระกูลทั้งหมดของอิสสาคาร์ เป็นนักรบกล้าหาญจำนวน 87,000 คน ตามทะเบียนลำดับพงศ์
1พศด. 7:7 บุตรของเบลามี 5 คนคือเอสโบน อุสซี อุสซีเอล เยรีโมท และอิรี เป็นผู้นำของตระกูลบิดาเขา เป็นนักรบกล้าหาญจำนวน 22,034 คน ตามทะเบียนลำดับพงศ์
1พศด. 7:9 พวกเขาถูกบันทึกในทะเบียนลำดับพงศ์ เป็นผู้นำตระกูลบิดาของเขา เป็นนักรบกล้าหาญจำนวน 22,000 คน
1พศด. 7:11 ทั้งหมดนี้เป็นบุตรของเยดียาเอลเป็นพวกผู้นำตระกูลของเขา เป็นนักรบกล้าหาญจำนวน 17,200 คน พร้อมที่จะออกรบในสงคราม
1พศด. 7:40 ทั้งหมดนี้เป็นบุตรของอาเชอร์ เป็นผู้นำตระกูลของพวกเขา เป็นนักรบกล้าหาญที่ถูกคัดเลือกไว้เป็นผู้นำของเหล่าเจ้านาย จำนวนคนที่พร้อมรบในสงครามตามที่บันทึกไว้ในทะเบียนลำดับพงศ์คือ 26,000 คน
1พศด. 8:40 บุตรชายของอุลามเป็นเหล่านักรบกล้าหาญ เป็นพวกนักธนู มีบุตรหลานมากมายจำนวน 150 คน คนทั้งหมดนี้เป็นบุตรหลานของเบนยามิน
1พศด. 11:22 และเบไนยาห์บุตรเยโฮยาดา เป็นบุตรคนเก่งกล้าแห่งเมืองขับเซเอล เป็นผู้ทำการอย่างกล้าหาญหลายอย่าง เขาฆ่าสองผู้นำของโมอับ และเขาลงไปฆ่าสิงห์ที่ในบ่อในวันที่หิมะตกด้วย
1พศด. 11:26 เหล่านักรบกล้าหาญคืออาสาเฮล น้องชายของโยอาบ เอลฮานัน บุตรโดโด คนเบธเลเฮม
1พศด. 12:8 มีนักรบกล้าหาญพร้อมทำศึกสงครามจากคนกาดหนีไปหาดาวิด ณ ที่กำบังเข้มแข็งในถิ่นทุรกันดาร พวกเขาชำนาญโล่และหอก หน้าของพวกเขาเหมือนหน้าสิงห์ และพวกเขารวดเร็วเหมือนละมั่งบนภูเขา
1พศด. 12:21 เขาทั้งหลายช่วยเหลือดาวิดต่อสู้พวกปล้น เพราะเขาทั้งหลายเป็นนักรบกล้าหาญทั้งสิ้นและเป็นผู้บังคับบัญชาในกองทัพ
1พศด. 12:25 จากคนสิเมโอน มีนักรบกล้าหาญพร้อมทำสงคราม 7,100 คน
1พศด. 12:28 ศาโดกนักรบกล้าหาญหนุ่ม และคนจากตระกูลของเขาเองเป็นผู้บังคับบัญชา 22 คน
1พศด. 12:30 จากคนเอฟราอิม 20,800 คน เป็นนักรบกล้าหาญผู้มีชื่อเสียงในตระกูลของพวกเขา
1พศด. 19:13 จงกล้าหาญ และให้เราเข้มแข็งเพื่อชนชาติของเรา และเพื่อเมืองทั้งหลายของพระเจ้าของเรา และขอพระยาห์เวห์ทรงกระทำสิ่งที่พระองค์ทรงเห็นชอบ”
1พศด. 22:13 แล้วเจ้าจะประสบความสำเร็จ ถ้าเจ้าจะระมัดระวังที่จะปฏิบัติตามกฎเกณฑ์และกฎหมาย ซึ่งพระยาห์เวห์ทรงบัญชาโมเสสเกี่ยวกับอิสราเอล จงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด อย่ากลัวและอย่าหวาดหวั่นเลย
1พศด. 27:6 เบไนยาห์นี้คือนักรบกล้าหาญในสามสิบคน และอยู่เหนือสามสิบคนนั้น อัมมีซาบาดบุตรของเขาเป็นผู้ดูแลกองเวรของเขา
1พศด. 28:1 ดาวิดทรงเรียกประชุมบรรดาข้าราชการทั้งสิ้นของอิสราเอลที่เยรูซาเล็มคือผู้นำของเผ่า ผู้บัญชาการกองเวรที่รับราชการ นายพัน นายร้อย และเจ้าหน้าที่ทั้งสิ้นผู้ดูแลทรัพย์สมบัติ และฝูงปศุสัตว์ของพระราชา และบรรดาโอรสของพระองค์ พร้อมกับข้าราชสำนัก นักรบ และนักรบกล้าหาญทั้งสิ้น
1พศด. 28:20 แล้วดาวิดตรัสกับซาโลมอนโอรสของพระองค์ว่า “จงเข้มแข็งและกล้าหาญ และลงมือทำ อย่ากลัวเลย อย่าขยาด เพราะว่าพระยาห์เวห์พระเจ้าคือพระเจ้าของข้าสถิตกับเจ้า พระองค์จะไม่ทรงละจากเจ้าหรือทอดทิ้งเจ้า จนกว่างานทั้งสิ้นสำหรับงานปรนนิบัติแห่งพระนิเวศของพระยาห์เวห์จะสำเร็จ
2พศด. 13:3 อาบียาห์เสด็จออกรบ มีกองทัพเป็นนักรบกล้าหาญที่คัดเลือกแล้ว 400,000 คน ส่วนเยโรโบอัมตั้งแนวรบสู้กับพระองค์ด้วยนักรบกล้าหาญที่คัดเลือกแล้ว 800,000 คน
2พศด. 14:8 และอาสาทรงมีกองทัพจากยูดาห์ 300,000 คนที่มีโล่ใหญ่และหอก และ 280,000 คนจากเบนยามินที่มีโล่และธนู ทุกคนล้วนเป็นนักรบผู้กล้าหาญ
2พศด. 15:7 แต่ท่านทั้งหลายจงกล้าหาญ อย่าให้มือของท่านอ่อนลง เพราะว่าพวกท่านจะได้รับบำเหน็จในกิจการของท่าน”
2พศด. 15:8 เมื่ออาสาทรงสดับถ้อยคำเหล่านี้ คือคำเผยพระวจนะของอาซาริยาห์บุตรโอเดดก็ทรงมีพระทัยกล้าหาญขึ้น พระองค์ทรงขจัดสิ่งน่าสะอิดสะเอียนจากแผ่นดินยูดาห์และเบนยามินทั้งหมด และจากเมืองต่างๆ ที่พระองค์ทรงยึดมาในบริเวณเทือกเขาเอฟราอิม และพระองค์ทรงซ่อมแซมแท่นบูชาของพระยาห์เวห์ ที่อยู่หน้ามุขพระนิเวศของพระยาห์เวห์
2พศด. 17:13 และพระองค์ทรงสะสมเสบียงไว้มากมายในเมืองต่างๆ ของยูดาห์ พระองค์ทรงมีทหารเป็นนักรบกล้าหาญในกรุงเยรูซาเล็ม
2พศด. 17:14 ต่อไปนี้เป็นจำนวนตามสกุล คือของเผ่ายูดาห์ ผู้บังคับกองพันนั้นได้แก่ ผู้บัญชาการอัดนาห์ พร้อมกับนักรบกล้าหาญ 300,000 คน
2พศด. 17:16 และต่อจากเขา คือ อามัสยาห์ บุตรศิครีพร้อมกับนักรบกล้าหาญ 200,000 คน เขาเป็นอาสาสมัครเพื่อการปรนนิบัติพระยาห์เวห์
2พศด. 17:17 ส่วนของเผ่าเบนยามิน คือ เอลียาดา เป็นนักรบกล้าหาญพร้อมกับทหาร 200,000 คนที่มีธนูและโล่
2พศด. 19:11 ดูสิ อามาริยาห์มหาปุโรหิตก็อยู่เหนือท่านทั้งหลายในทุกเรื่องของพระยาห์เวห์ และเศบาดิยาห์บุตรอิชมาเอลเจ้านายของเชื้อวงศ์ยูดาห์ก็อยู่เหนือท่านในทุกเรื่องของพระราชา และพวกเลวีจะเป็นเจ้าหน้าที่ปรนนิบัติพวกท่าน จงทำด้วยความกล้าหาญ และขอพระยาห์เวห์สถิตกับผู้ที่ทำความดี”
2พศด. 25:6 นอกจากนั้นพระองค์ทรงจ้างนักรบผู้กล้าหาญจากอิสราเอล 100,000 คนด้วยเงิน 100 ตะลันต์
2พศด. 26:12 บรรดาหัวหน้าตระกูลของพวกนักรบกล้าหาญมีจำนวนทั้งหมด 2,600 คน
2พศด. 26:17 แต่อาซาริยาห์ปุโรหิตเข้าไปตามหลังพระองค์ พร้อมกับปุโรหิตของพระยาห์เวห์ที่กล้าหาญอีก 80 คน
2พศด. 32:5 พระองค์ทรงทำการอย่างกล้าหาญในการสร้างกำแพงทั้งหมดที่พังลงนั้นขึ้นใหม่ และสร้างหอคอยขึ้นรวมทั้งสร้างกำแพงชั้นนอกอีกชั้นหนึ่ง พระองค์ยังทรงเสริมกำแพงป้อมมิลโลที่นครดาวิด ทรงสร้างอาวุธและโล่จำนวนมาก
2พศด. 32:7 “จงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด อย่ากลัวหรือท้อแท้เพราะพระราชาอัสซีเรีย และกองทัพทั้งหมดที่อยู่กับเขา เพราะว่าผู้ที่อยู่กับพวกเรานั้นใหญ่กว่าผู้ที่อยู่กับเขา
2พศด. 32:21 แล้วพระยาห์เวห์ทรงใช้ทูตสวรรค์องค์หนึ่งไปทำลายนักรบกล้าหาญ ผู้บังคับกองและเจ้านายทั้งหมดในค่ายของพระราชาแห่งอัสซีเรีย ฉะนั้นพระองค์จึงเสด็จกลับไปยังแผ่นดินของพระองค์ด้วยความอับอายขายพระพักตร์ เมื่อพระองค์เสด็จเข้าในวิหารของพระของพระองค์ พระราชโอรสบางองค์ของพระองค์เองสังหารพระองค์ตรงนั้นด้วยดาบ
สดด. 27:14 จงรอคอยพระยาห์เวห์ จงเข้มแข็ง และให้จิตใจของท่านกล้าหาญเถิด เออ จงรอคอยพระยาห์เวห์
สดด. 31:24 จงเข้มแข็ง และให้ใจของพวกท่านกล้าหาญเถิด ท่านทุกคนผู้รอคอยพระยาห์เวห์
สดด. 138:3 ในวันที่ข้าพระองค์ร้องทูล พระองค์ได้ทรงตอบข้าพระองค์ พระองค์ทรงให้ข้าพระองค์กล้าหาญโดยประทานกำลังแก่จิตใจของข้าพระองค์
สภษ. 28:1 คนอธรรมหนีเมื่อไม่มีใครไล่ตาม แต่คนชอบธรรมกล้าหาญอย่างสิงห์หนุ่ม
ยรม. 48:14 “เจ้าพูดได้อย่างไรว่า ‘เราเป็นพวกวีรชนและนักรบกล้าหาญในสงคราม’
อสค. 32:12 เราจะทำให้ไพร่พลของเจ้าล้มลง ด้วยดาบของพวกผู้กล้าหาญ ทุกคนล้วนเป็นคนผู้โหดเหี้ยมที่สุดในบรรดาประชาชาติ เขาจะนำหายนะมายังความจองหองของอียิปต์ และไพร่พลทั้งหมดของมันจะถูกทำลาย
อสค. 32:21 พวกผู้นำที่กล้าหาญกับผู้ช่วยของเขาจะพูดถึงอียิปต์จากท่ามกลางแดนคนตายว่า ‘พวกเขาลงมาแล้ว พวกเขานอนนิ่งอยู่ พวกไม่เข้าสุหนัตที่ถูกฆ่าด้วยดาบ’
อสค. 32:27 เขาทั้งหลายนอนอยู่กับพวกผู้กล้าหาญของพวกไม่ได้เข้าสุหนัตที่ล้มลง ผู้ซึ่งลงไปยังแดนคนตายพร้อมกับอาวุธของพวกเขาไม่ใช่หรือ? พวกเขามีดาบวางไว้ใต้ศีรษะของเขา และความผิดบาปของพวกเขาก็อยู่บนกระดูกของเขา เพราะว่าพวกผู้กล้าหาญเคยทำให้เกิดความครั่นคร้ามในแผ่นดินของคนเป็น
อสค. 32:29 “เอโดมก็อยู่ที่นั่น ทั้งบรรดากษัตริย์และบรรดาเจ้านายทั้งหลายของมัน แม้ว่าเขาทั้งหลายมีความกล้าหาญ ก็ยังถูกนำมาวางไว้กับพวกถูกฆ่าด้วยดาบ พวกเขานอนอยู่กับพวกไม่ได้เข้าสุหนัต กับพวกที่ลงไปยังปากแดนคนตาย
อสค. 32:30 “เจ้านายทุกคนจากทางเหนือพร้อมทั้งคนไซดอนทั้งหมดก็อยู่ที่นั่น คือพวกที่ลงไปด้วยความขายหน้าพร้อมกับผู้ถูกฆ่า แม้ความกล้าหาญของพวกเขาเคยทำให้เกิดความครั่นคร้าม พวกเขาที่ไม่ได้เข้าสุหนัตนอนอยู่ที่นั่นกับพวกถูกฆ่าด้วยดาบ และทนรับความอับอายพร้อมกับบรรดาผู้ลงไปยังแดนคนตาย
อสค. 39:18 พวกเจ้าจะกินเนื้อของพวกผู้กล้าหาญ และดื่มเลือดของเจ้านายแห่งพิภพ เหมือนเลือดของแกะผู้ ของลูกแกะ และของแพะกับของโคผู้ ทั้งหมดนี้เป็นสัตว์อ้วนพีแห่งบาชาน
อสค. 39:20 และเจ้าจะอิ่มหนำที่โต๊ะอาหารของเราด้วยเนื้อม้าและเนื้อผู้ขี่ม้า ทั้งเนื้อของพวกผู้กล้าหาญและของนักรบทุกคน พระยาห์เวห์องค์เจ้านายตรัสดังนี้แหละ
ดนล. 11:25 และเขาจะปลุกปั่นกำลังของเขาและความกล้าหาญของเขาด้วยกองทัพมหึมา ยกไปสู้กับพระราชาแห่งถิ่นใต้ และพระราชาแห่งถิ่นใต้จะทำสงครามด้วยกองทัพเข้มแข็งมหึมายิ่งนัก แต่ท่านก็สู้ไม่ได้เพราะจะมีการปองร้ายท่าน
มก. 15:43 โยเซฟจากอาริมาเธียซึ่งเป็นสมาชิกสภาและเป็นที่นับถือของคนทั้งหลาย อีกทั้งยังเป็นคนที่กำลังคอยแผ่นดินของพระเจ้า ไปหาปีลาตด้วยความกล้าหาญเพื่อขอพระศพของพระเยซู
กจ. 4:13 เมื่อพวกเขาเห็นความกล้าหาญของเปโตรกับยอห์น และรู้ว่าท่านทั้งสองขาดการศึกษาและเป็นคนสามัญ ก็อัศจรรย์ใจ แล้วจำได้ว่าคนทั้งสองเคยอยู่กับพระเยซู
กจ. 4:31 เมื่อเขาทั้งหลายอธิษฐานแล้ว ที่ซึ่งพวกเขาประชุมอยู่นั้นก็หวั่นไหว แล้วพวกเขาเต็มเปี่ยมด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์และกล่าวพระวจนะของพระเจ้าด้วยใจกล้าหาญ
กจ. 9:27 แต่บารนาบัสพาท่านไปหาพวกอัครทูต และเล่าให้พวกเขาฟังว่าเซาโลเห็นองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ที่ตรัสกับท่านระหว่างทางอย่างไร และท่านประกาศออกพระนามพระเยซูด้วยใจกล้าหาญในเมืองดามัสกัสอย่างไร
กจ. 9:29 ประกาศออกพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยใจกล้าหาญ ท่านพูดและโต้แย้งกับพวกยิวที่พูดกรีก แต่พวกนั้นพยายามหาทางฆ่าท่านเสีย
กจ. 14:3 ฉะนั้นท่านทั้งสองจึงอยู่ที่นั่นเป็นเวลานาน ประกาศด้วยใจกล้าหาญเพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้า และพระองค์ทรงรับรองคำแห่งพระคุณของพระองค์ โดยทรงทำหมายสำคัญและการอัศจรรย์ด้วยมือของท่านทั้งสอง
กจ. 18:26 ท่านเข้าไปในธรรมศาลาสั่งสอนด้วยความกล้าหาญ แต่เมื่อปริสสิลลากับอาควิลลาฟังท่านแล้ว ก็รับท่านมาสั่งสอนให้รู้ทางของพระเจ้าให้ถูกต้องยิ่งขึ้น
กจ. 28:31 ทั้งประกาศแผ่นดินของพระเจ้าและสั่งสอนเรื่องพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยความกล้าหาญอย่างยิ่งโดยปราศจากการขัดขวาง
1คร. 16:13 ท่านทั้งหลายจงระมัดระวัง จงมั่นคงในความเชื่อ จงเป็นคนกล้าหาญจงเข้มแข็ง
2คร. 10:2 คือข้าพเจ้าขอร้องท่านว่าเมื่อมาอยู่กับพวกท่าน อย่าให้ข้าพเจ้าต้องห้าวหาญ ด้วยความมั่นใจที่ทำให้ข้าพเจ้าคิดว่า จะต้องกล้าหาญต่อบางคนซึ่งคิดว่าเราดำเนินชีวิตตามแบบมนุษย์ทั่วๆ ไป
อฟ. 6:19 และเผื่อข้าพเจ้าด้วย เพื่อว่าเมื่อข้าพเจ้าพูด พระองค์จะประทานถ้อยคำแก่ข้าพเจ้าที่จะสำแดงความล้ำลึกของข่าวประเสริฐอย่างกล้าหาญ
ฟป. 1:20 ข้าพเจ้าคาดหมายและหวังว่าจะไม่ได้รับความละอายใดๆ เลย แต่โดยความกล้าหาญอย่างยิ่ง พระคริสต์จะทรงได้รับการยกย่องสรรเสริญในร่างกายของข้าพเจ้าในเวลานี้ดังเช่นที่เคยได้ตลอดมา ไม่ว่าจะโดยชีวิตหรือความตาย
1ธส. 5:14 พี่น้องทั้งหลาย ขอให้พวกท่านตักเตือนคนที่เกียจคร้าน หนุนใจผู้ที่ขาดความกล้าหาญ ช่วยเหลือคนที่อ่อนกำลัง และมีความอดทนต่อทุกคน
1ทธ. 3:13 เพราะว่าคนที่ทำหน้าที่มัคนายกได้ดีก็มีชื่อเสียงดี และมีความกล้าหาญอย่างยิ่งในความเชื่อที่มีอยู่ในพระเยซูคริสต์