ทั้งหมด 294 ข้อ ใหม่ 141 ข้อ เดิม 153 ข้อ
มัทธิว
มธ. 6:5 “เมื่อท่านทั้งหลายอธิษฐาน อย่าเป็นเหมือนพวกหน้าซื่อใจคด เพราะพวกเขาชอบยืนอธิษฐานในธรรมศาลาและตามมุมถนนต่างๆ เพื่อจะให้คนทั้งปวงเห็น เราบอกความจริงกับพวกท่านว่าพวกเขาได้รับบำเหน็จของเขาแล้ว
มธ. 6:6 ส่วนท่านเมื่ออธิษฐานจงเข้าในห้องชั้นใน และเมื่อปิดประตูแล้ว จงอธิษฐานต่อพระบิดาของท่านผู้สถิตในที่ลี้ลับ และพระบิดาของท่านผู้ทอดพระเนตรเห็นในที่ลี้ลับจะประทานบำเหน็จแก่ท่าน
มธ. 6:7 “แต่เมื่อพวกท่านอธิษฐาน อย่าพูดพล่อยๆ ซ้ำซาก เหมือนบรรดาคนต่างชาติเพราะเขาคิดว่าพูดมากหลายคำ พระจึงจะโปรดฟัง
มธ. 6:8 อย่าทำเหมือนพวกเขาเลย เพราะว่าสิ่งไรซึ่งพวกท่านจำเป็น พระบิดาของท่านทรงทราบก่อนที่ท่านจะทูลขอต่อพระองค์
มธ. 6:9 เพราะฉะนั้นพวกท่านจงอธิษฐานเช่นนี้ว่า ‘ข้าแต่พระบิดาของข้าพระองค์ทั้งหลาย ผู้สถิตในสวรรค์ ขอให้พระนามของพระองค์เป็นที่เคารพสักการะ
มธ. 6:10 ขอให้แผ่นดินของพระองค์มาตั้งอยู่ ขอให้เป็นไปตามพระทัยของพระองค์ ในสวรรค์เป็นอย่างไรก็ให้เป็นไปอย่างนั้นในแผ่นดินโลก
มธ. 6:11 ขอประทานอาหารประจำวันแก่พวกข้าพระองค์ในวันนี้
มธ. 6:12 และขอทรงยกบาปผิดของพวกข้าพระองค์ เหมือนพวกข้าพระองค์ยกโทษบรรดาคนที่ทำผิดต่อข้าพระองค์
มธ. 6:13 และขออย่าทรงนำพวกข้าพระองค์เข้าไปในการทดลอง แต่ขอให้พวกข้าพระองค์พ้นจากความชั่วร้าย
มธ. 6:14 “เพราะว่าถ้าพวกท่านให้อภัยการล่วงละเมิดของเพื่อนมนุษย์ พระบิดาของท่านผู้สถิตในสวรรค์จะทรงให้อภัยการล่วงละเมิดของพวกท่านด้วย
ลูกา
ลก. 18:9 สำหรับบางคนที่เชื่อมั่นในตัวเองว่าเป็นคนชอบธรรมและดูหมิ่นคนอื่นนั้น พระองค์ตรัสอุปมานี้ว่า
ลก. 18:10 “มีสองคนขึ้นไปอธิษฐานในบริเวณพระวิหาร คนหนึ่งเป็นฟาริสีและคนหนึ่งเป็นคนเก็บภาษี
ลก. 18:11 คนที่เป็นฟาริสีนั้นยืนอยู่คนเดียวอธิษฐานว่า ‘ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์ขอบพระคุณพระองค์ที่ข้าพระองค์ไม่เหมือนคนอื่นที่เป็นคนฉ้อโกง เป็นคนอธรรม และเป็นคนล่วงประเวณี และไม่เหมือนคนเก็บภาษีคนนี้
ลก. 18:12 ข้าพระองค์ถืออดอาหารสองวันต่อสัปดาห์ และสิ่งสารพัดที่ข้าพระองค์หาได้ ข้าพระองค์ก็เอาทศางค์มาถวายเสมอ’
ลก. 18:13 ส่วนคนเก็บภาษีนั้นยืนอยู่แต่ไกล ไม่ยอมแม้แต่แหงนหน้าดูฟ้า แต่ตีอกชกตัวกล่าวว่า ‘ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงเมตตาแก่ข้าพระองค์ผู้เป็นคนบาปเถิด’
ลก. 18:14 เราบอกพวกท่านว่า คนนี้แหละเมื่อกลับลงไปถึงบ้านของตนก็ถูกนับว่าเป็นคนชอบธรรม ไม่ใช่อีกคนหนึ่งนั้น เพราะว่าทุกคนที่ยกตัวขึ้นจะต้องถูกเหยียดลง แต่ทุกคนที่ถ่อมตัวลงจะได้รับการยกขึ้น”
ดาเนียล
ดนล. 6:10 เมื่อดาเนียลทราบว่ากษัตริย์ลงพระนามในหนังสือสำคัญนั้นแล้ว ท่านก็กลับบ้าน ซึ่งมีหน้าต่างห้องชั้นบนเปิดตรงไปยังกรุงเยรูซาเล็ม และท่านก็คุกเข่าลงวันละ 3 ครั้ง อธิษฐานและขอบพระคุณพระเจ้าของท่านอย่างที่เคยทำเสมอ
ดนล. 6:11 เมื่อพวกที่สมรู้ร่วมคิดพากันมาพบดาเนียลกำลังอธิษฐานและวิงวอนต่อพระเจ้าของท่าน
ดนล. 6:12 เขาทั้งหลายก็ไปเข้าเฝ้า และทูลกษัตริย์เกี่ยวกับประกาศห้ามว่า “ข้าแต่พระราชา ฝ่าพระบาทได้ลงพระนามในหนังสือสำคัญฉบับหนึ่งไม่ใช่หรือว่า ถ้ามีใครทูลขอต่อพระหรือมนุษย์นอกเหนือจากพระองค์ ในสามสิบวันนี้ ข้าแต่พระราชา ก็ให้โยนคนนั้นลงในถ้ำสิงโต?” กษัตริย์ตรัสตอบว่า “เรื่องนั้นยังคงอยู่ ตามกฎหมายของคนมีเดียและคนเปอร์เซีย ซึ่งจะแก้ไขไม่ได้เป็นอันขาด”
ดนล. 6:13 แล้วเขาจึงทูลต่อกษัตริย์ว่า “ดาเนียลผู้เป็นคนหนึ่งในพวกที่ถูกกวาดเป็นเชลยจากยูดาห์ ไม่ได้เชื่อฟังฝ่าพระบาท ข้าแต่พระราชา และไม่เชื่อฟังคำประกาศในหนังสือสำคัญซึ่งฝ่าพระบาทลงพระนามไว้ แต่ได้ทูลขอต่อพระของเขาวันละ 3 ครั้ง”
ดนล. 6:14 เมื่อกษัตริย์ทรงสดับถ้อยคำเหล่านี้แล้ว ก็ทรงโทมนัสยิ่งนัก และตั้งพระทัยหาทางช่วยกู้ดาเนียล ทรงพยายามหาทางช่วยจนถึงเวลาดวงอาทิตย์ตก
ดนล. 6:15 แล้วคนเหล่านั้นที่สมรู้ร่วมคิดกันก็พากันมาเข้าเฝ้ากษัตริย์และทูลว่า “ข้าแต่พระราชา ขอฝ่าพระบาททรงทราบว่ากฎหมายของคนมีเดียและคนเปอร์เซียที่ประกาศห้ามก็ดี หรือ กฎหมายก็ดี ซึ่งพระราชาทรงประทับตราแล้วย่อมเปลี่ยนแปลงไม่ได้”
ดนล. 6:16 แล้วกษัตริย์ทรงบัญชา ดาเนียลก็ถูกโยนในถ้ำสิงโต กษัตริย์ตรัสแก่ดาเนียลว่า “ขอพระเจ้าของท่านผู้ที่ท่านปรนนิบัติอยู่ตลอดมานั้น ทรงช่วยกู้ท่านเถิด”
ดนล. 6:17 แล้วเขานำศิลาก้อนหนึ่งมาปิดปากถ้ำไว้ กษัตริย์ก็ทรงประทับตราของพระองค์ และตราของบรรดาข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของพระองค์ เพื่อว่าจะไม่มีใครมาเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ของดาเนียลได้
ดนล. 6:18 แล้วกษัตริย์ก็เสด็จกลับพระราชวัง ทรงอดอาหารตลอดคืนนั้น ไม่ให้นำสิ่งบันเทิงมาถวายพระองค์ และบรรทมไม่หลับ
ดนล. 6:19 พอเช้าตรู่ กษัตริย์ก็ตื่นบรรทม รีบเสด็จไปยังถ้ำสิงโต
ดนล. 6:20 เมื่อพระองค์เสด็จมาใกล้ถ้ำที่ดาเนียลอยู่ พระองค์ก็ตรัสเรียกดาเนียลด้วยเสียงโทมนัสว่า “โอ ดาเนียลผู้รับใช้ของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่ พระเจ้าของท่านซึ่งท่านปรนนิบัติอยู่เนืองนิตย์นั้น ทรงสามารถช่วยกู้ท่านจากสิงโตได้แล้วหรือ?”
ดนล. 6:21 แล้วดาเนียลทูลกษัตริย์ว่า “ข้าแต่พระราชา ขอทรงพระเจริญเป็นนิตย์
ดนล. 6:22 พระเจ้าของข้าพระบาททรงใช้ทูตสวรรค์มาปิดปากสิงโตไว้ มันไม่ได้ทำอันตรายแก่ข้าพระบาท เพราะพระองค์ทรงเห็นว่า ข้าพระบาทไร้ความผิดต่อพระพักตร์พระองค์ ข้าแต่พระราชา ข้าพระบาทไม่ได้ทำผิดประการใดต่อพระพักตร์ฝ่าพระบาทด้วย”
ดนล. 6:23 ฝ่ายพระราชาก็ทรงโสมนัสยิ่งนัก และทรงบัญชาให้นำดาเนียลออกมาจากถ้ำ เขาจึงเอาดาเนียลออกจากถ้ำ ไม่ปรากฏว่ามีอันตรายอย่างใดที่ตัวท่านเลย เพราะท่านได้วางใจในพระเจ้าของท่าน
ดนล. 6:24 แล้วกษัตริย์ทรงบัญชาให้นำคนเหล่านั้นที่ใส่ร้ายดาเนียลมาโยนทิ้งในถ้ำสิงโต ทั้งตัวเขา บุตรทั้งหลาย และภรรยาของพวกเขาด้วย ยังไม่ทันตกไปถึงพื้นถ้ำ พวกสิงโตก็ขย้ำพวกเขา และหักกระดูกของเขาทั้งหลายจนแหลก
ดนล. 6:25 แล้วกษัตริย์ดาริอัสมีพระราชสาสน์ไปถึงชนทุกชาติทุกเผ่าทุกภาษาที่อาศัยอยู่ในพิภพทั้งสิ้นว่า “สันติสุขจงมีแก่ท่านทั้งหลายอย่างทวีคูณ
ดนล. 6:26 เราออกกฤษฎีกาว่า ให้คนทั้งหลายในราชอาณาจักรทั้งหมดของเรากลัวและยำเกรงพระเจ้าของดาเนียล เพราะพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่ ทรงดำรงอยู่เป็นนิตย์ ราชอาณาจักรของพระองค์จะไม่ถูกทำลาย และการปกครองของพระองค์จะดำรงจนถึงที่สุด
ดนล. 6:27 พระองค์ทรงช่วยกู้และช่วยให้พ้นภัย พระองค์ทรงทำหมายสำคัญและการอัศจรรย์ ในฟ้าสวรรค์และบนพื้นพิภพ พระองค์คือพระผู้ช่วยดาเนียลให้รอด จากอำนาจของสิงโต”
ดนล. 6:28 ดังนั้น ดาเนียลผู้นี้จึงได้เจริญก้าวหน้าในรัชสมัยของดาริอัส และในรัชสมัยของไซรัสชาวเปอร์เซีย
วิงวอน ในพระคริสตธรรมคัมภีร์ จำนวน 116 ข้อ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น