ลูกแห่งพระพร
บุรุษ สตรี(ยาเอล มารธา ฮันนาห์ มารีย์ ) ลูก(ซามูเอล อิสอัค ดาวิด)
1ซมอ. 1:1 มีชายคนหนึ่งเป็นชาวรามาธาอิมโซฟิม แห่งแดนเทือกเขาเอฟราอิมชื่อเอลคานาห์บุตรเยโรฮัม ผู้เป็นบุตรเอลีฮู ผู้เป็นบุตรโทหุ ผู้เป็นบุตรศูฟ คนเผ่าเอฟราอิม
1ซมอ. 1:2 เขามีภรรยาสองคน คนหนึ่งชื่อฮันนาห์ อีกคนหนึ่งชื่อเปนินนาห์ เปนินนาห์มีบุตรแต่ฮันนาห์ไม่มี
1ซมอ. 1:3 ชายผู้นี้เคยขึ้นไปจากเมืองของเขาทุกปี ไปนมัสการและถวายสัตวบูชาแด่พระยาห์เวห์จอมทัพที่เมืองชิโลห์ ที่นั่นมีบุตรชายสองคนของเอลีชื่อโฮฟนีและฟีเนหัส เป็นพวกปุโรหิตของพระยาห์เวห์
1ซมอ. 1:4 ในวันที่เอลคานาห์ถวายสัตวบูชา ท่านให้ส่วนแบ่งแก่เปนินนาห์ภรรยาของท่าน และแก่พวกบุตรชายบุตรหญิงทุกคนของนาง
1ซมอ. 1:5 ท่านแบ่งให้ฮันนาห์สองส่วน เพราะท่านรักนางมาก แม้ว่าพระยาห์เวห์ทรงปิดครรภ์ของนางเสีย
1ซมอ. 1:6 เมียคู่กับนางก็ยั่วเย้านางอย่างรุนแรงทำให้นางระคายเคือง เพราะเหตุที่พระยาห์เวห์ทรงปิดครรภ์ของนาง
1ซมอ. 1:7 เหตุการณ์ก็เป็นอยู่ดังนี้ปีแล้วปีเล่า เมื่อนางขึ้นไปยังพระนิเวศของพระยาห์เวห์ครั้งไหน เมียคู่ของนางก็เคยยั่วเย้านาง ดังนั้นนางฮันนาห์จึงร้องไห้ไม่รับประทานอาหาร
1ซมอ. 1:8 เอลคานาห์สามีของนางจึงถามนางว่า “ฮันนาห์ทำไมเธอร้องไห้? ทำไมเธอจึงไม่รับประทานอาหาร? ทำไมจิตใจของเธอจึงโศกเศร้า? สำหรับเธอ ฉันไม่ดีกว่าบุตรชายสิบคนหรือ?”
1ซมอ. 1:9 หลังจากที่ได้รับประทานอาหารและดื่มที่เมืองชิโลห์แล้ว ฮันนาห์ก็ลุกขึ้น เอลีปุโรหิตนั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างเสาประตูพระวิหารของพระยาห์เวห์
1ซมอ. 1:10 นางขมขื่นใจมากจึงอธิษฐานต่อพระยาห์เวห์และร้องไห้อย่างหนัก
1ซมอ. 1:11 นางบนไว้ว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์จอมทัพ ถ้าพระองค์จะทอดพระเนตรความทุกข์ใจของผู้รับใช้ของพระองค์จริงๆ ทรงระลึกถึงข้าพระองค์ และไม่ทรงลืมผู้รับใช้ของพระองค์ แต่จะประทานบุตรชายแก่ผู้รับใช้ของพระองค์สักคน แล้วข้าพระองค์จะถวายเขาแด่พระยาห์เวห์ตลอดชีวิตของเขา และมีดโกนจะไม่แตะต้องศีรษะของเขาเลย”
1ซมอ. 1:12 อยู่มาเมื่อนางยังวิงวอนเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์อยู่นั้น เอลีก็สังเกตดูปากของนาง
1ซมอ. 1:13 ฮันนาห์นั้นนางพูดแต่ในใจ ริมฝีปากของนางขยับอยู่เท่านั้น ไม่ได้ยินเสียงของนาง เพราะเหตุนี้เอลีจึงคิดว่านางเมา
1ซมอ. 1:14 เอลีจึงพูดกับนางว่า “เธอจะเมาไปนานสักเท่าใด? จงทิ้งเหล้าองุ่นเถอะ”
1ซมอ. 1:15 แต่ฮันนาห์ตอบว่า “ไม่ใช่เช่นนั้นค่ะเจ้านายของดิฉัน ดิฉันเป็นหญิงที่ทุกข์ใจยิ่งนัก ดิฉันไม่ได้ดื่มเหล้าองุ่นหรือของมึนเมา แต่ดิฉันระบายความในใจของดิฉันออกเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์
1ซมอ. 1:16 ขออย่าถือว่าหญิงผู้รับใช้ของท่านเป็นหญิงเลว ที่ดิฉันพูดตลอดมานั้น ก็พูดด้วยความกระวนกระวายและความเศร้าใจมาก”
1ซมอ. 1:17 แล้วเอลีก็ตอบว่า “จงกลับไปเป็นสุขเถิด ขอพระเจ้าแห่งอิสราเอลโปรดประทานตามคำขอที่เจ้าได้ทูลขอจากพระองค์”
1ซมอ. 1:18 และนางก็ตอบว่า “ขอหญิงผู้รับใช้ของท่านได้รับความโปรดปรานจากท่านเถิด” แล้วหญิงนั้นก็ไปตามทางของนาง รับประทานอาหาร และใบหน้าของนางก็ไม่โศกเศร้าอีกต่อไป
1ซมอ. 1:19 พวกเขาลุกขึ้นแต่เช้าตรู่ นมัสการพระยาห์เวห์ แล้วก็กลับไปบ้านที่รามาห์ และเอลคานาห์มีเพศสัมพันธ์กับฮันนาห์ภรรยาของเขา และพระยาห์เวห์ทรงระลึกถึงนาง
1ซมอ. 1:20 และต่อมาเมื่อถึงเวลาที่กำหนด ฮันนาห์ก็ตั้งครรภ์คลอดบุตรชายคนหนึ่ง และนางให้ชื่อเด็กนั้นว่าซามูเอล เพราะนางกล่าวว่า “ดิฉันทูลขอมาจากพระยาห์เวห์”
1ซมอ. 1:21 เอลคานาห์สามีและทุกคนในครอบครัวของเขาจะขึ้นไปถวายสัตวบูชาประจำปีแด่พระยาห์เวห์ และแก้บนของเขา
1ซมอ. 1:22 แต่ฮันนาห์ไม่ได้ขึ้นไปด้วย เพราะนางบอกสามีว่า “ฉันจะไม่ไปจนกว่าเด็กคนนี้หย่านม แล้วฉันจะพาเขาขึ้นไป เพื่อเขาจะได้ปรากฏตัวเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ และอยู่ที่นั่นตลอดไป”
1ซมอ. 1:23 เอลคานาห์สามีบอกนางว่า “จงทำตามที่เธอเห็นว่าดีเถิด รออยู่จนให้เขาหย่านม ขอเพียงให้พระดำรัสของพระยาห์เวห์สำเร็จเถิด” นางนั้นก็คอยอยู่และให้บุตรกินนมของเธอ จนนางให้เขาหย่านม
1ซมอ. 1:24 และเมื่อนางให้เขาหย่านมแล้ว นางก็พาเขาขึ้นไปพร้อมกับวัวผู้อายุสามปีหนึ่งตัว แป้ง 10 กิโลกรัมและเหล้าองุ่นหนึ่งถุงหนัง และนางก็นำเขามาที่พระนิเวศของพระยาห์เวห์ที่เมืองชิโลห์ และเด็กนั้นก็ยังเล็กอยู่
1ซมอ. 1:25 แล้วพวกเขาก็ฆ่าวัวผู้ตัวนั้นและนำเด็กมาหาเอลี
1ซมอ. 1:26 นางก็กล่าวว่า “เจ้านายของดิฉันมีชีวิตอยู่แน่ฉันใด ท่านเจ้าข้า ดิฉันเองคือผู้หญิงที่เคยยืนอยู่ที่นี่ต่อหน้าท่าน และทูลวิงวอนต่อพระยาห์เวห์
1ซมอ. 1:27 ดิฉันทูลวิงวอนขอเด็กคนนี้ และพระยาห์เวห์ประทานตามคำทูลขอของดิฉันตามที่ได้ทูลวิงวอนต่อพระองค์
1ซมอ. 1:28 เพราะฉะนั้นดิฉันเองถวายเขาแด่พระยาห์เวห์ เขาถูกถวายแด่พระยาห์เวห์ตลอดชีวิตของเขา” และเขาก็นมัสการพระยาห์เวห์ที่นั่น
1ซมอ. 2:18 แต่ซามูเอลปรนนิบัติอยู่เฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ เป็นเด็กคนที่คาดเอวด้วยเอโฟดผ้าป่าน
1ซมอ. 2:19 มารดาเคยเย็บเสื้อคลุมตัวเล็กๆ นำมาให้เขาทุกปี เมื่อนางขึ้นไปพร้อมกับสามีเพื่อถวายเครื่องสัตวบูชาประจำปี
1ซมอ. 2:20 แล้วเอลีอวยพรเอลคานาห์และภรรยาของเขากล่าวว่า “ขอพระยาห์เวห์ประทานลูกๆ แก่ท่านโดยหญิงคนนี้ แทนคนที่นางเคยทูลขอและถวายไว้ปรนนิบัติพระยาห์เวห์” แล้วพวกเขาก็กลับไปยังที่อยู่ของพวกเขา
1ซมอ. 2:21 และพระยาห์เวห์ทรงเยี่ยมเยียนฮันนาห์ และนางก็ตั้งครรภ์คลอดบุตรเป็นชายสามหญิงสอง ส่วนกุมารซามูเอลก็เติบโตขึ้นเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์
สภษ. 3:9 จงถวายพระเกียรติแด่พระยาห์เวห์ด้วยทรัพย์สินของเจ้า และด้วยผลแรกแห่งผลิตผลทุกอย่างของเจ้า
สภษ. 3:10 แล้วยุ้งของเจ้าจะเต็มบริบูรณ์ และบ่อเก็บของเจ้าจะล้นด้วยเหล้าองุ่นหมักใหม่
สภษ. 3:11 ลูกเอ๋ย อย่าดูหมิ่นพระดำรัสสอนของพระยาห์เวห์ และอย่าเบื่อหน่ายพระดำรัสเตือนของพระองค์
สภษ. 3:12 เพราะพระยาห์เวห์ทรงตักเตือนผู้ที่พระองค์ทรงรัก ดังบิดาตักเตือนบุตรที่เขาโปรดปราน
อิสอัค
ปฐก. 22:1 ต่อมาพระเจ้าทรงทดลองอับราฮัม และตรัสกับท่านว่า “อับราฮัม” ท่านทูลว่า “ข้าพระองค์อยู่ที่นี่”
ปฐก. 22:2 พระองค์ตรัสว่า “จงพาบุตรของเจ้าคืออิสอัค บุตรคนเดียวของเจ้าผู้ที่เจ้ารัก ไปยังดินแดนโมริยาห์ และถวายเขาที่นั่นเป็นเครื่องบูชา บนภูเขาลูกหนึ่งซึ่งเราจะบอกแก่เจ้า”
ปฐก. 22:3 อับราฮัมจึงลุกขึ้นแต่เช้ามืด ผูกอานลาของท่านพาคนใช้หนุ่มไปกับท่านด้วยสองคนกับอิสอัคบุตรของท่าน ท่านตัดฟืนสำหรับเครื่องบูชา แล้วเดินทางไปยังที่ซึ่งพระเจ้าทรงบอกแก่ท่าน
ปฐก. 22:4 พอถึงวันที่สามอับราฮัมเงยหน้าขึ้นมองเห็นที่นั้นแต่ไกล.
ปฐก. 22:5 อับราฮัมจึงพูดกับคนใช้ทั้งสองของท่านว่า “อยู่กับลาที่นี่เถิด เรากับลูกจะเดินไปที่โน้นนมัสการพระเจ้า แล้วจะกลับมาหาพวกเจ้า”
ปฐก. 22:6 อับราฮัมเอาฟืนสำหรับเครื่องบูชาใส่บ่าอิสอัคบุตรชาย มือถือไฟและมีด แล้วพ่อลูกไปด้วยกัน
ปฐก. 22:7 อิสอัคพูดกับอับราฮัมบิดาว่า “พ่อ” และท่านตอบว่า “ลูกเอ๋ย พ่ออยู่นี่” ลูกจึงว่า “นี่ไฟและฟืน แต่ลูกแกะสำหรับเครื่องบูชาอยู่ที่ไหน?”
ปฐก. 22:8 อับราฮัมตอบว่า “ลูกเอ๋ย พระเจ้าจะทรงจัดหาลูกแกะสำหรับพระองค์เองเป็นเครื่องบูชา” ทั้งสองก็เดินต่อไปด้วยกัน
ปฐก. 22:9 เมื่อเขาทั้งสองมาถึงที่ซึ่งพระเจ้าตรัสบอกเขาไว้ อับราฮัมก็สร้างแท่นบูชาที่นั่น เรียงฟืนเป็นระเบียบ แล้วมัดอิสอัคบุตรชายวางไว้บนแท่นบูชาบนฟืน
ปฐก. 22:10 แล้วอับราฮัมก็ยื่นมือจับมีดจะฆ่าบุตรชาย
ปฐก. 22:11 แต่ทูตของพระยาห์เวห์เรียกเขาจากฟ้าสวรรค์ว่า “อับราฮัม อับราฮัม” และท่านตอบว่า “ข้าพระองค์อยู่ที่นี่”
ปฐก. 22:12 ทูตสวรรค์ว่า “อย่าแตะต้องเด็กนั้น อย่าทำอะไรเขาเลย เพราะบัดนี้เรารู้แล้วว่าเจ้ายำเกรงพระเจ้า และเจ้าไม่ได้หวงบุตรชายคือบุตรชายคนเดียวของเจ้าไว้จากเรา”
ปฐก. 22:13 อับราฮัมเงยหน้าขึ้นมองดู เห็นข้างหลังท่านมีแกะผู้ตัวหนึ่ง เขาของมันติดอยู่ในพุ่มไม้ทึบ อับราฮัมก็ไปจับแกะตัวนั้นมาถวายเป็นเครื่องบูชาแทนบุตรชาย
ปฐก. 22:14 อับราฮัมจึงเรียกสถานที่นั้นว่า ยาห์เวห์ยิเรห์ อย่างที่เขาพูดกันทุกวันนี้ว่า “ทรงจัดไว้ให้บนภูเขาของพระยาห์เวห์”
ปฐก. 22:15 ทูตของพระยาห์เวห์เรียกอับราฮัมครั้งที่สองมาจากฟ้าสวรรค์ว่า
ปฐก. 22:16 “พระยาห์เวห์ตรัสว่า เราเองปฏิญาณว่า เพราะเจ้าทำอย่างนี้และไม่ได้หวงบุตรชายของเจ้า คือบุตรชายคนเดียวของเจ้า
ปฐก. 22:17 ดังนั้นเราจะอวยพรเจ้าแน่ เราจะทวีเชื้อสายของเจ้าให้มากขึ้น ดังดวงดาวในท้องฟ้า และดังเม็ดทรายบนฝั่งทะเล เชื้อสายของเจ้าจะได้ประตูเมืองศัตรูทั้งหลายของเจ้าเป็นกรรมสิทธิ์
ปฐก. 22:18 ประชาชาติทั้งหมดในโลกจะได้พรเพราะเชื้อสายของเจ้า เพราะว่าเจ้าเชื่อฟังเรา”
ปฐก. 24:1 ฝ่ายอับราฮัมก็ชราแล้ว มีอายุมากทีเดียว และพระยาห์เวห์ทรงอวยพรอับราฮัมทุกประการ
ปฐก. 25:5 อับราฮัมมอบทุกสิ่งที่ท่านมีแก่อิสอัค
(ปฐก. 26:23 อิสอัคก็ออกจากที่นั่นไปยังเบเออร์เชบา
ปฐก. 26:24 พระยาห์เวห์ทรงปรากฏแก่ท่านในคืนนั้น ตรัสว่า “เราเป็นพระเจ้าของอับราฮัมบิดาของเจ้า อย่ากลัวเลย เพราะเราอยู่กับเจ้าและจะอวยพรเจ้า และทวีเชื้อสายของเจ้าให้มากขึ้น เพราะเห็นแก่อับราฮัมผู้รับใช้ของเรา”
ปฐก. 26:25 ท่านจึงสร้างแท่นบูชาที่นั่น และนมัสการออกพระนามพระยาห์เวห์ และตั้งเต็นท์ของท่านที่นั่น คนใช้ของอิสอัคขุดบ่อน้ำบ่อหนึ่งที่นั่นด้วย
ปฐก. 26:26 ฝ่ายอาบีเมเลคออกจากเก-ราร์พร้อมกับอาหุสซัทพระสหายของพระองค์ กับฟีโคล์ผู้บัญชาการทหารของพระองค์ไปหาอิสอัค
ปฐก. 26:27 อิสอัคถามเขาทั้งหลายว่า “ทำไมท่านจึงมาหาข้าพเจ้า? เมื่อท่านเกลียดชังข้าพเจ้า และขับไล่ข้าพเจ้าไปจากท่าน”
ปฐก. 26:28 พวกเขาตอบว่า “เราเห็นชัดเจนแล้วว่าพระยาห์เวห์ทรงอยู่กับท่าน เราจึงว่า ขอให้มีสัตย์สาบานระหว่างท่านกับเราทั้งหลาย และขอให้เราทำพันธสัญญากับท่าน
ปฐก. 26:29 เพื่อว่าท่านจะไม่ทำอันตรายแก่เรา ดังที่เราไม่ได้แตะต้องท่าน และไม่ได้ทำสิ่งใดแก่ท่านเว้นแต่ความดี และได้ส่งท่านไปอย่างสันติ บัดนี้ท่านเป็นผู้ที่พระยาห์เวห์ทรงอวยพร”)
ดาวิด
(1 ซามูเอล 17:34-37 THSV11) แต่ดาวิดทูลซาอูลว่า “ผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทเคยเลี้ยงฝูงแกะของบิดา และเมื่อมีสิงโตหรือหมีมาเอาลูกแกะตัวหนึ่งไปจากฝูง ข้าพระบาทก็ตามไปฆ่ามัน และช่วยกู้ลูกแกะนั้นมาจากปากของมัน ถ้ามันลุกขึ้นต่อสู้ข้าพระบาท ข้าพระบาทก็จับคางของมัน และทุบตีมันจนตาย ผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทได้ฆ่าสิงโตและหมีนั้นมาแล้ว คนฟีลิสเตียผู้ไม่ได้เข้าสุหนัตนี้ก็เป็นเหมือนสัตว์เหล่านั้นตัวหนึ่ง ด้วยเขาได้ท้าทายกองทัพของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่” และดาวิดทูลต่อไปว่า “พระยาห์เวห์ผู้ทรงช่วยกู้ข้าพระบาทจากอุ้งเท้าของสิงโต และจากอุ้งเท้าของหมี จะทรงช่วยกู้ข้าพระบาทจากมือของคนฟีลิสเตียนี้” และซาอูลจึงตรัสแก่ดาวิดว่า “จงไปเถอะ และพระยาห์เวห์จะสถิตอยู่กับเจ้า”
(1 ซามูเอล 16:18 THSV11) คนหนึ่งในพวกชายหนุ่มทูลว่า “ดูเถิด ข้าพระบาทเห็นบุตรคนหนึ่งของเจสซีชาวเบธเลเฮม เป็นผู้มีฝีมือในการดีดพิณ เป็นคนกล้าหาญ เป็นนักรบ พูดเก่ง และเป็นคนมีหน้าตาดี และพระยาห์เวห์สถิตกับเขา”
1ซมอ. 16:14 พระวิญญาณของพระยาห์เวห์ทรงละจากซาอูล และวิญญาณชั่วจากพระยาห์เวห์ก็ทรมานซาอูล
(1 ซามูเอล 16:23 THSV11) ต่อมาเมื่อวิญญาณจากพระเจ้ามาเหนือซาอูลเมื่อไร ดาวิดก็หยิบพิณใช้มือดีดถวาย ซาอูลก็ทรงรู้สึกบรรเทาลงและทรงดีขึ้น และวิญญาณชั่วก็ละจากพระองค์ไป
(1 ซามูเอล 18:14 THSV11) ดาวิดประสบความสำเร็จในทุกทาง เพราะพระยาห์เวห์สถิตกับเขา
(2 ซามูเอล 5:10 THSV11) และดาวิดทรงเจริญยิ่งๆ ขึ้นไป เพราะว่าพระยาห์เวห์พระเจ้าจอมทัพสถิตกับพระองค์
1ซมอ. 22:3 ดาวิดก็ออกจากที่นั่นไปยังเมืองมิสปาห์ในโมอับ และท่านทูลพระราชาแห่งโมอับว่า “ขอโปรดให้บิดามารดาของข้าพเจ้าออกมาอยู่กับพวกพระองค์เถิด จนกว่าข้าพเจ้าจะทราบว่าพระเจ้าจะทรงกระทำประการใดเพื่อข้าพเจ้า”
1ซมอ. 22:4 และท่านก็นำบิดามารดามาฝากไว้กับพระราชาแห่งโมอับ และพวกท่านก็อาศัยอยู่กับพระราชาตลอดเวลาที่ดาวิดอยู่ในที่กำบังเข้มแข็ง
1ซมอ. 22:5 แล้วผู้เผยพระวจนะกาดพูดกับดาวิดว่า “ท่านอย่าอยู่ในที่กำบังเข้มแข็งนี้เลย จงเข้าไปในแผ่นดินยูดาห์เถิด” ดาวิดก็ไปและมาอยู่ในป่าเฮเรท
(กิจการ 13:22 THSV11) เมื่อทรงถอดซาอูลแล้ว พระองค์ทรงตั้งดาวิดขึ้นเป็นกษัตริย์ของพวกเขา และทรงเป็นพยานกล่าวถึงดาวิดดังนี้ ‘เราพบว่าดาวิดบุตรของเจสซีเป็นคนที่ใจเราชื่นชอบ เป็นคนที่จะทำให้ความประสงค์ของเราสำเร็จทุกประการ’