อพย. 12:1 พระยาห์เวห์ตรัสกับโมเสสและอาโรนในแผ่นดินอียิปต์ว่า
อพย. 12:2 “ให้เดือนนี้เป็นเดือนเริ่มต้นสำหรับพวกเจ้า ให้เป็นเดือนแรกในปีสำหรับพวกเจ้า
อพย. 12:3 จงสั่งชุมนุมชนอิสราเอลทั้งสิ้นว่า ในวันที่สิบเดือนนี้ ให้แต่ละคนเตรียมลูกแกะตัวหนึ่งให้ตนเองตามสกุล บ้านละหนึ่งตัว
อพย. 12:4 ถ้าครอบครัวไหนมีคนน้อยและกินลูกแกะตัวหนึ่งไม่หมด ก็ให้รวมกับเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียงเตรียมลูกแกะตัวหนึ่ง แล้วให้แบ่งลูกแกะนั้นตามจำนวนคนที่จะกินได้
อพย. 12:5 ลูกแกะของเจ้าต้องปราศจากตำหนิ เป็นตัวผู้อายุหนึ่งปี เจ้าจงเอามาจากฝูงแกะหรือฝูงแพะ
อพย. 12:6 จงเก็บไว้ให้ดีถึงวันที่สิบสี่เดือนนี้ แล้วในเย็นวันนั้น ให้ที่ประชุมของชุมนุมชนอิสราเอลทั้งหมดฆ่าลูกแกะนั้น
อพย. 12:7 แล้วเอาเลือดทาที่วงกบประตูทั้งด้านบนและด้านข้างทั้งสองข้างของบ้านที่พวกเขาเลี้ยงกันนั้นด้วย
อพย. 12:8 ในคืนวันนั้นให้พวกเขากินเนื้อปิ้งกับขนมปังไร้เชื้อและผักรสขม
อพย. 12:9 อย่ากินเนื้อที่ยังดิบหรือเนื้อต้มเลย แต่จงปิ้งทั้งหัวและขาและเครื่องในด้วย
อพย. 12:10 จงกินให้หมดห้ามมีเศษเหลือจนถึงเวลาเช้า แต่ถ้ายังมีเศษเหลือถึงเวลาเช้าก็ให้เผาเสีย
อพย. 12:11 เจ้าจงเลี้ยงกันดังนี้คือ ให้คาดเอว สวมรองเท้า และถือไม้เท้าไว้ในมือ และรีบกินโดยเร็ว การเลี้ยงนี้เป็นปัสกาของพระยาห์เวห์
อพย. 12:12 เพราะในคืนวันนั้น เราจะผ่านไปในแผ่นดินอียิปต์ และเราจะประหารลูกหัวปีทั้งหมดในแผ่นดินอียิปต์ทั้งของมนุษย์และของสัตว์ และเราจะพิพากษาลงโทษพระทั้งหมดของอียิปต์ เราคือพระยาห์เวห์
อพย. 12:13 แต่เลือดตามบ้านที่เจ้าทั้งหลายอยู่นั้น จะเป็นหมายสำคัญสำหรับพวกเจ้า เมื่อเราเห็นเลือดนั้น เราจะผ่านเว้นพวกเจ้าไป จะไม่มีภัยพิบัติเกิดแก่พวกเจ้า ขณะที่เราโจมตีแผ่นดินอียิปต์
อพย. 12:14 “วันนี้จะเป็นวันที่ระลึกสำหรับพวกเจ้า ให้เจ้าทั้งหลายฉลองเป็นเทศกาลเลี้ยงถวายเกียรติพระยาห์เวห์ชั่วชาติพันธุ์ของพวกเจ้า พวกเจ้าจงฉลองเทศกาลเลี้ยงนี้และถือเป็นกฎถาวร
อพย. 12:15 พวกเจ้าจงกินขนมปังไร้เชื้อให้ครบเจ็ดวัน วันแรกจงขจัดเชื้อให้สิ้นจากบ้านของพวกเจ้า ถ้าผู้ใดกินขนมปังใส่เชื้อตั้งแต่วันแรกจนถึงวันที่เจ็ด จะต้องถูกตัดออกจากการเป็นคนอิสราเอล
อพย. 12:16 ในวันแรกนั้นให้มีการประชุมบริสุทธิ์ และในวันที่เจ็ดก็ให้มีการประชุมบริสุทธิ์ ห้ามทำงานใดๆ ในวันแรกและวันที่เจ็ด นอกจากการจัดเตรียมอาหารให้ทุกคนรับประทาน
อพย. 12:17 พวกเจ้าจงถือเทศกาลกินขนมปังไร้เชื้อ เพราะในวันนี้เอง เราได้นำไพร่พลของเจ้าออกจากแผ่นดินอียิปต์ เพราะฉะนั้น พวกเจ้าจงถือวันนี้เป็นกฎถาวรชั่วชาติพันธุ์ของเจ้า
อพย. 12:18 ในตอนเย็นวันที่สิบสี่เดือนแรก เจ้าทั้งหลายจงกินขนมปังไร้เชื้อจนถึงเวลาเย็นวันที่ยี่สิบเอ็ดของเดือนนั้น
อพย. 12:19 ตลอดเจ็ดวันนั้น ห้ามพบเชื้อในบ้านของพวกเจ้า เพราะถ้าผู้ใดที่เป็นคนต่างด้าวก็ดีหรือคนพื้นเมืองก็ดี กินขนมปังใส่เชื้อ ผู้นั้นจะต้องถูกตัดออกจากชุมนุมชนอิสราเอล
อพย. 12:20 ห้ามกินสิ่งใดที่ใส่เชื้อในที่อาศัยของพวกเจ้า เจ้าจงกินแต่ขนมปังไร้เชื้อเท่านั้น”
อพย. 12:21 แล้วโมเสสเรียกพวกผู้ใหญ่ของคนอิสราเอลมาพร้อมกัน สั่งว่า “จงไปเอาลูกแกะสำหรับครอบครัวของพวกท่านมาฆ่าเป็นลูกแกะปัสกา
อพย. 12:22 และเอาต้นหุสบกำหนึ่งจุ่มลงในเลือดที่อยู่ในอ่าง แล้วป้ายเลือดนั้นที่วงกบประตูทั้งด้านบนและด้านข้างทั้งสองข้าง ห้ามผู้ใดออกไปพ้นประตูบ้านของตนจนถึงรุ่งเช้า
อพย. 12:23 เพราะพระยาห์เวห์จะเสด็จผ่านไปเพื่อจะประหารคนอียิปต์ เมื่อพระองค์ทอดพระเนตรเห็นเลือดที่วงกบประตูทั้งด้านบนและด้านข้างทั้งสองข้าง พระยาห์เวห์จะทรงผ่านเว้นประตูนั้น และจะไม่ทรงให้ผู้สังหารเข้าไปในบ้านพวกท่านเพื่อจะประหารท่าน
อพย. 12:24 ท่านทั้งหลายจงถือคำสั่งนี้ให้เป็นกฎถาวรของพวกท่านและของลูกหลานพวกท่าน
อพย. 12:25 เมื่อพวกท่านไปถึงแผ่นดินซึ่งพระยาห์เวห์จะประทานแก่พวกท่านตามที่ตรัสไว้แล้ว พวกท่านจงถือพิธีนี้ไว้
อพย. 12:26 เมื่อลูกหลานของพวกท่านถามว่า ‘พิธีนี้หมายความว่าอะไร?’
อพย. 12:27 พวกท่านจงตอบว่า ‘เป็นการถวายสัตวบูชาปัสกาแด่พระยาห์เวห์ผู้ทรงผ่านเว้นบ้านของชนชาติอิสราเอลในอียิปต์ เมื่อพระองค์ทรงประหารคนอียิปต์ แต่โปรดไว้ชีวิตครอบครัวของพวกเรา’ ” ประชากรก็กราบลงนมัสการ
อพย. 12:28 แล้วชนชาติอิสราเอลก็ไปทำตามที่พระยาห์เวห์ทรงบัญชากับโมเสสและอาโรน
อพย. 12:29 ในเวลาเที่ยงคืน พระยาห์เวห์ทรงประหารบุตรหัวปีทุกคนในแผ่นดินอียิปต์์ ตั้งแต่พระราชบุตรหัวปีของฟาโรห์ผู้ประทับบนบัลลังก์ จนถึงบุตรหัวปีของนักโทษที่อยู่ในคุกมืด ทั้งลูกหัวปีของสัตว์เลี้ยงทุกตัว
อพย. 12:30 ฟาโรห์กับพวกข้าราชการ และคนอียิปต์ทั้งหมดตื่นขึ้นในตอนกลางคืน มีเสียงร้องไห้คร่ำครวญดังมากในอียิปต์ เพราะไม่มีบ้านไหนเลยที่ไม่มีคนตาย
อพย. 12:31 ฟาโรห์จึงตรัสเรียกโมเสสกับอาโรนให้มาเข้าเฝ้าในคืนนั้น ตรัสว่า “เจ้าทั้งสองกับชนชาติอิสราเอล จงลุกขึ้นและออกไปจากประชากรของเรา ไปนมัสการพระยาห์เวห์ตามที่ขอไว้นั้น
อพย. 12:32 เอาฝูงแพะแกะและฝูงโคของพวกเจ้าไปด้วยตามที่ขอไว้แล้ว จงไป และอวยพรเราด้วย”
อพย. 12:33 คนอียิปต์ก็เร่งรัดให้ชนชาตินั้นออกจากแผ่นดินโดยเร็ว เพราะพวกเขาพูดว่า “พวกเราจะตายกันหมดแล้ว”
อพย. 12:34 คนอิสราเอลเอาก้อนแป้งดิบที่ไม่ได้ใส่เชื้อกับอ่างขยำแป้ง ห่อผ้าใส่บ่าแบกไป
อพย. 12:35 ชนชาติอิสราเอลทำตามที่โมเสสสั่งไว้ คือขอเครื่องเงิน เครื่องทอง และเครื่องนุ่งห่มจากคนอียิปต์
อพย. 12:36 และพระยาห์เวห์ทรงบันดาลให้ประชากรเป็นที่โปรดปรานในสายตาของคนอียิปต์ คนอียิปต์จึงให้สิ่งของตามที่ขอ ดังนั้นคนอิสราเอลจึงริบเอาสิ่งของต่างๆ จากคนอียิปต์
อพย. 12:37 ชนชาติอิสราเอลออกจากเมืองราเมเสสไปถึงเมืองสุคคท นับเฉพาะผู้ชายเดินเท้าได้ประมาณ 600,000 คน ไม่รวมเด็ก
อพย. 12:38 มีคนชาติอื่นจำนวนมากติดตามไปด้วย พร้อมทั้งฝูงปศุสัตว์มหาศาล คือฝูงแพะแกะและฝูงโค
อพย. 12:39 พวกเขาเอาก้อนแป้งดิบซึ่งนำมาจากอียิปต์ปิ้งเป็นแผ่นขนมปังไร้เชื้อ เหตุที่เขาไม่ใส่เชื้อก็เพราะถูกเร่งรัดให้ออกจากอียิปต์ จึงไม่ทันเตรียมเสบียง
อพย. 12:40 ชนชาติอิสราเอลอยู่ในอียิปต์เป็นเวลา 430 ปี
อพย. 12:41 เมื่อครบ 430 ปีแล้ว ในวันนั้นเอง ประชากรทั้งหมดของพระยาห์เวห์ก็เคลื่อนออกจากแผ่นดินอียิปต์
อพย. 12:42 คืนวันนั้นเป็นคืนของพระยาห์เวห์ที่ทรงเฝ้าดู เพื่อนำพวกเขาออกจากแผ่นดินอียิปต์ และเป็นคืนที่ชนชาติอิสราเอลทั้งสิ้นถือเป็นที่ระลึกถึงพระยาห์เวห์ตลอดชั่วชาติพันธุ์ของพวกเขา
อพย. 12:43 พระยาห์เวห์ตรัสกับโมเสสและอาโรนว่า “กฎเกณฑ์พิธีปัสกาเป็นดังนี้ คือห้ามคนต่างชาติกิน
อพย. 12:44 ส่วนทาสซึ่งนายเอาเงินซื้อมา เมื่อให้ทาสนั้นเข้าสุหนัตแล้วก็ให้เขากินได้
อพย. 12:45 ส่วนคนอาศัยหรือลูกจ้างห้ามกิน
อพย. 12:46 ปัสกานั้นให้กินแต่ในบ้าน ห้ามเอาเนื้อไปนอกบ้าน และห้ามหักกระดูกของมัน
อพย. 12:47 ให้ชุมนุมชนอิสราเอลทั้งสิ้นปฏิบัติตามพิธีนี้
อพย. 12:48 ถ้ามีคนต่างด้าวมาอาศัยอยู่กับเจ้า และต้องการจะปฏิบัติตามพิธีปัสกาถวายพระยาห์เวห์ ก็ให้ชายพวกนั้นทุกคนเข้าสุหนัตก่อนแล้วจึงให้เขามาใกล้และปฏิบัติตามพิธีนั้นได้ เขาจะเป็นเหมือนคนที่เกิดในแผ่นดินนั้น แต่ทุกคนที่ไม่ได้เข้าสุหนัต จะกินปัสกาไม่ได้
อพย. 12:49 บทบัญญัติสำหรับคนพื้นเมืองและคนต่างด้าวซึ่งอาศัยอยู่ท่ามกลางพวกเจ้าจะต้องเป็นอย่างเดียวกัน”
อพย. 12:50 ชนชาติอิสราเอลทั้งสิ้นก็ปฏิบัติตามที่พระยาห์เวห์มีรับสั่งแก่โมเสสและอาโรน
อพย. 12:51 ในวันนั้นเองพระยาห์เวห์ทรงนำชนชาติอิสราเอลออกจากแผ่นดินอียิปต์โดยแยกเป็นขบวนๆ
อพย. 12:11 เจ้าจงเลี้ยงกันดังนี้คือ ให้คาดเอว สวมรองเท้า และถือไม้เท้าไว้ในมือ และรีบกินโดยเร็ว การเลี้ยงนี้เป็นปัสกาของพระยาห์เวห์
อพย. 12:27 พวกท่านจงตอบว่า ‘เป็นการถวายสัตวบูชาปัสกาแด่พระยาห์เวห์ผู้ทรงผ่านเว้นบ้านของชนชาติอิสราเอลในอียิปต์ เมื่อพระองค์ทรงประหารคนอียิปต์ แต่โปรดไว้ชีวิตครอบครัวของพวกเรา’ ” ประชากรก็กราบลงนมัสการ
อพย. 12:43 พระยาห์เวห์ตรัสกับโมเสสและอาโรนว่า “กฎเกณฑ์พิธีปัสกาเป็นดังนี้ คือห้ามคนต่างชาติกิน
อพย. 12:46 ปัสกานั้นให้กินแต่ในบ้าน ห้ามเอาเนื้อไปนอกบ้าน และห้ามหักกระดูกของมัน
อพย. 12:48 ถ้ามีคนต่างด้าวมาอาศัยอยู่กับเจ้า และต้องการจะปฏิบัติตามพิธีปัสกาถวายพระยาห์เวห์ ก็ให้ชายพวกนั้นทุกคนเข้าสุหนัตก่อนแล้วจึงให้เขามาใกล้และปฏิบัติตามพิธีนั้นได้ เขาจะเป็นเหมือนคนที่เกิดในแผ่นดินนั้น แต่ทุกคนที่ไม่ได้เข้าสุหนัต จะกินปัสกาไม่ได้
อพย. 34:25 “ห้ามถวายเลือดจากเครื่องสัตวบูชาของเรา พร้อมกับขนมปังใส่เชื้อ และห้ามเหลือเครื่องสัตวบูชาในเทศกาลปัสกาไว้จนถึงวันรุ่งขึ้น
ลนต. 23:5 ในเวลาเย็นวันที่สิบสี่เดือนที่หนึ่งเป็นวันเทศกาลปัสกาของพระยาห์เวห์
กดว. 9:2 “จงให้คนอิสราเอลถือเทศกาลปัสกาตามเวลาที่กำหนดไว้
กดว. 9:3 คือในวันที่สิบสี่เวลาเย็นของเดือนนี้ เจ้าทั้งหลายจงถือเทศกาลปัสกาตามเวลาที่กำหนดนั้น เจ้าจงทำตามกฎเกณฑ์และกฎหมายทั้งสิ้นของเทศกาลเลี้ยงนั้น”
กดว. 9:4 โมเสสจึงบอกคนอิสราเอลให้ถือเทศกาลปัสกา
กดว. 9:5 เขาทั้งหลายถือเทศกาลปัสกาในเวลาเย็นของวันที่สิบสี่เดือนที่หนึ่งที่ถิ่นทุรกันดารซีนาย และคนอิสราเอลก็ทำทุกอย่างตามที่พระยาห์เวห์ตรัสสั่งโมเสส
กดว. 9:6 แต่มีผู้ชายบางคนเป็นมลทินเพราะแตะต้องศพ จึงถือปัสกาในวันนั้นไม่ได้ พวกเขาจึงมาหาโมเสสและอาโรนในวันนั้น
กดว. 9:10 “จงกล่าวกับคนอิสราเอลว่า ถ้ามีใครในพวกเจ้าหรือในชาติพันธุ์ของเจ้ามีมลทินเพราะแตะต้องศพหรือไปทางไกล ผู้นั้นสามารถถือปัสกาแด่พระยาห์เวห์ได้
กดว. 9:11 แต่ให้ถือปัสกาในเวลาเย็นของวันที่สิบสี่เดือนที่สอง ให้เขากินขนมไร้เชื้อและผักรสขม
กดว. 9:12 เขาทั้งหลายต้องไม่ให้อะไรเหลือไว้จนวันรุ่งขึ้น และไม่ให้หักกระดูกแกะปัสกา ให้เขาทำตามกฎเกณฑ์ในเรื่องเทศกาลปัสกาทุกประการ
กดว. 9:13 ส่วนคนที่สะอาดและไม่ได้เดินทาง แต่ไม่ยอมถือเทศกาลปัสกา ก็ให้คนนั้นถูกตัดออกจากท่ามกลางชนชาติของเขา เพราะเขาไม่ได้นำเครื่องบูชาของพระยาห์เวห์มาถวายตามเวลากำหนด เขาต้องรับโทษของเขา
กดว. 9:14 ถ้าคนต่างด้าวที่มาอาศัยอยู่ท่ามกลางเจ้าทั้งหลายจะถือเทศกาลปัสกาแด่พระยาห์เวห์ ก็ให้เขาถือตามกฎเกณฑ์และกฎหมายของเทศกาลปัสกา เจ้าจงมีกฎเกณฑ์อย่างเดียวกันสำหรับคนต่างด้าวและคนพื้นเมือง”
กดว. 28:16 “และวันที่สิบสี่ของเดือนที่หนึ่งนั้นเป็นปัสกาแด่พระยาห์เวห์
กดว. 33:3 เขาทั้งหลายออกเดินทางจากราเมเสสในเดือนแรก คือในวันที่สิบห้าของเดือนแรกนั้น หลังวันปัสกาหนึ่งวัน คนอิสราเอลออกมาอย่างอาจหาญต่อหน้าต่อตาชาวอียิปต์ทั้งหมด
ฉธบ. 16:1 “ท่านจงถือเดือนอาบีบโดยถือปัสกาแด่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน เพราะว่าในเดือนอาบีบนั้น พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงนำท่านออกจากอียิปต์ในเวลากลางคืน
ฉธบ. 16:2 และจงถวายปัสกาเป็นเครื่องบูชาแด่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจากฝูงแพะแกะหรือฝูงโค ณ ที่ซึ่งพระยาห์เวห์จะทรงเลือกไว้ให้พระนามของพระองค์ประทับที่นั่น
ฉธบ. 16:3 ห้ามรับประทานขนมปังมีเชื้อกับปัสกา ตลอดเจ็ดวันท่านจงรับประทานขนมปังไร้เชื้อกับปัสกา เป็นขนมปังแห่งความทุกข์ใจ เพราะท่านออกมาจากแผ่นดินอียิปต์อย่างรีบเร่ง เพื่อท่านจะระลึกถึงวันที่ท่านออกจากแผ่นดินอียิปต์นั้นตลอดชีวิตของท่าน
ฉธบ. 16:5 ห้ามถวายปัสกาภายในเมืองซึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านประทานแก่ท่าน
ฉธบ. 16:6 แต่จงถวายปัสกา ณ สถานที่ซึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะทรงเลือกไว้ให้พระนามของพระองค์ประทับที่นั่น ท่านจงถวายปัสกาในเวลาเย็นเมื่อดวงอาทิตย์ตกแล้ว คือเวลาเดียวกับที่ท่านออกจากอียิปต์
ยชว. 5:10 ประชาชนอิสราเอลได้ตั้งค่ายที่กิลกาล และถือเทศกาลปัสกาในวันที่สิบสี่เวลาเย็น ณ ที่ราบเมืองเยรีโค
ยชว. 5:11 วันรุ่งขึ้นหลังวันเทศกาลปัสกา วันนั้นเองพวกเขาก็รับประทานผลจากแผ่นดิน คือขนมไร้เชื้อและข้าวคั่ว
2พกษ. 23:21 พระราชาทรงบัญชาประชาชนทั้งหมดว่า “จงถือเทศกาลปัสกาถวายแด่พระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเจ้า ดังที่เขียนไว้ในหนังสือพันธสัญญานี้”
2พกษ. 23:22 เพราะว่าเทศกาลปัสกาเหมือนอย่างนี้ไม่เคยถือกันมาตั้งแต่สมัยผู้วินิจฉัยปกครองอิสราเอล จนถึงสมัยบรรดาพระราชาแห่งอิสราเอลและพระราชาแห่งยูดาห์
2พกษ. 23:23 แต่ในปีที่ 18 แห่งรัชกาลกษัตริย์โยสิยาห์ มีการถือเทศกาลปัสกาอย่างนี้ถวายแด่พระยาห์เวห์ในกรุงเยรูซาเล็ม
2พศด. 30:1 เฮเซคียาห์ทรงส่งคนไปถึงอิสราเอลและยูดาห์ทั้งหมด และทรงพระอักษรถึงเอฟราอิมกับมนัสเสห์ด้วย ว่าเขาทั้งหลายควรจะมายังพระนิเวศของพระยาห์เวห์ที่กรุงเยรูซาเล็ม เพื่อถือเทศกาลปัสกาถวายแด่พระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอล
2พศด. 30:2 เพราะว่าพระราชา พวกเจ้านายของพระองค์และชุมนุมชนทั้งหมดในกรุงเยรูซาเล็มได้ปรึกษากัน ที่จะถือเทศกาลปัสกาในเดือนที่สอง
2พศด. 30:3 เนื่องจากเขาทั้งหลายไม่สามารถถือปัสกาได้ตามกำหนด เพราะพวกปุโรหิตยังไม่สามารถชำระตัวให้บริสุทธิ์จนได้จำนวนพอเพียง และประชาชนก็ไม่ได้ชุมนุมกันในกรุงเยรูซาเล็ม
2พศด. 30:5 เขาทั้งหลายจึงจัดทำคำประกาศออกไปทั่วอิสราเอล ตั้งแต่เบเออร์เชบาถึงดาน เรียกร้องประชาชนให้มาถือปัสกาถวายแด่พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลที่กรุงเยรูซาเล็ม เพราะพวกเขาไม่ได้ถือกันด้วยจำนวนคนมากๆ ตามที่เขียนไว้
2พศด. 30:15 และเขาทั้งหลายฆ่าแกะปัสกาในวันที่สิบสี่ของเดือนที่สอง บรรดาปุโรหิตและคนเลวีรู้สึกละอายใจ เพราะฉะนั้นพวกเขาจึงชำระตัวให้บริสุทธิ์ และนำเครื่องบูชาเผาทั้งตัวมาในพระนิเวศของพระยาห์เวห์
2พศด. 30:17 เพราะคนจำนวนมากในชุมนุมชนนั้นยังไม่ได้ชำระตัวให้บริสุทธิ์ ฉะนั้นคนเลวีจึงต้องฆ่าแกะปัสกาแทนทุกคนที่ไม่บริสุทธิ์ เพื่อถวายเป็นสิ่งบริสุทธิ์แด่พระยาห์เวห์
2พศด. 30:18 เพราะว่าในคนจำนวนมากมายนั้น มีคนมากซึ่งมาจากเอฟราอิม มนัสเสห์ อิสสาคาร์ และเศบูลุนที่ยังไม่ได้ชำระตัวให้บริสุทธิ์ แต่พวกเขาก็รับประทานปัสกาแม้ขัดต่อข้อบัญญัติ ดังนั้นเฮเซคียาห์ทรงอธิษฐานเผื่อพวกเขาว่า “ขอพระยาห์เวห์ผู้ประเสริฐทรงให้อภัยแก่ทุกๆ คน
2พศด. 35:1 โยสิยาห์ทรงถือเทศกาลปัสกาถวายแด่พระยาห์เวห์ในกรุงเยรูซาเล็ม พวกเขาฆ่าแกะปัสกาในวันที่สิบสี่เดือนที่หนึ่ง
2พศด. 35:6 จงฆ่าแกะปัสกา จงชำระตัวให้บริสุทธิ์ และจงตระเตรียมไว้ให้พี่น้องของเจ้า ให้ทำตามพระวจนะของพระยาห์เวห์ที่มาทางโมเสสนั้น
2พศด. 35:7 แล้วโยสิยาห์ประทานเครื่องปัสกาบูชาแก่ประชาชนสำหรับทุกคนซึ่งอยู่ที่นั่น คือแกะและลูกแพะจำนวน 30,000 ตัวจากฝูงแพะแกะ และวัวผู้ 3,000 ตัว สัตว์พวกนี้มาจากพระราชทรัพย์ของพระราชา
2พศด. 35:8 และบรรดาเจ้านายของพระองค์ก็บริจาคด้วยความเต็มใจแก่ประชาชน แก่ปุโรหิตและแก่คนเลวี ฮิลคียาห์ เศคาริยาห์และเยฮีเอล ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับหัวหน้าแห่งพระนิเวศของพระเจ้ามอบลูกแพะลูกแกะ 2,600 ตัวกับวัวผู้ 300 ตัวแก่พวกปุโรหิตให้เป็นเครื่องปัสกาบูชา
2พศด. 35:9 ส่วนโคนานิยาห์และเชไมอาห์กับเนธันเอล น้องชายของเขา และฮาชาบิยาห์และเยอีเอล กับโยซาบาด หัวหน้าของคนเลวีมอบแพะแกะ 5,000 ตัวกับวัวผู้ 500 ตัวแก่คนเลวีเป็นเครื่องปัสกาบูชา
2พศด. 35:11 แล้วพวกคนเลวีก็ฆ่าแกะปัสกา และปุโรหิตก็เอาเลือดแกะจากมือของพวกเขามาประพรม ส่วนคนเลวีก็ถลกหนังสัตว์
2พศด. 35:13 เขาทั้งหลายปิ้งแกะปัสกาด้วยไฟตามกฎหมาย และเขาทั้งหลายต้มเครื่องบูชาบริสุทธิ์ในหม้อ ในหม้อทะนน และในกระทะ แล้วรีบนำไปให้ประชาชนทั้งหมด
2พศด. 35:16 เขาทั้งหลายจึงเตรียมการปรนนิบัติทุกอย่างต่อพระยาห์เวห์ภายในวันเดียวนั้นเอง เพื่อถือปัสกาและถวายเครื่องบูชาเผาทั้งตัวบนแท่นบูชาของพระยาห์เวห์ ตามพระบัญชาของกษัตริย์โยสิยาห์
2พศด. 35:17 และประชาชนอิสราเอลผู้อยู่ที่นั่นก็ถือปัสกาในเวลานั้น และถือเทศกาลกินขนมปังไร้เชื้อเจ็ดวัน
2พศด. 35:18 ตั้งแต่สมัยของซามูเอลผู้เผยพระวจนะมา ไม่มีการถือปัสกาเหมือนอย่างนี้ในอิสราเอลเลย ไม่มีพระราชาองค์ใดในอิสราเอลซึ่งถือปัสกาเหมือนอย่างที่โยสิยาห์ทรงถือร่วมกับบรรดาปุโรหิต คนเลวี คนยูดาห์และอิสราเอลทั้งหมดซึ่งอยู่ที่นั่น รวมทั้งชาวกรุงเยรูซาเล็ม
2พศด. 35:19 เขาทั้งหลายถือเทศกาลปัสกานี้ในปีที่สิบแปดของรัชกาลโยสิยาห์
อสร. 6:19 ในวันที่สิบสี่ของเดือนที่หนึ่ง พวกที่ถูกกวาดไปเป็นเชลย และได้กลับมาได้ถือเทศกาลปัสกา
อสร. 6:20 เพราะบรรดาปุโรหิตและคนเลวีได้ชำระตนด้วยกัน พวกเขาบริสุทธิ์หมดทุกคน เขาจึงฆ่าแกะปัสกาสำหรับผู้ถูกกวาดไปเป็นเชลยซึ่งกลับมาทั้งหมด สำหรับพวกพี่น้องที่เป็นปุโรหิต และสำหรับตัวพวกเขาเอง
อสค. 45:21 “ในวันที่ 14 ของเดือนแรก เจ้าจงฉลองเทศกาลปัสกา จงกินขนมปังไร้เชื้อตลอดเทศกาล 7 วัน
มธ. 26:2 “พวกท่านรู้อยู่ว่าอีกสองวันจะถึงเทศกาลปัสกา และบุตรมนุษย์จะถูกมอบตัวให้เอาไปตรึงที่กางเขน”
มธ. 26:17 ในวันแรกของเทศกาลกินขนมปังไร้เชื้อบรรดาสาวกมาทูลถามพระเยซูว่า “จะให้พวกข้าพระองค์เตรียมปัสกาให้พระองค์เสวยที่ไหน?”
มธ. 26:18 พระองค์ตรัสตอบว่า “จงเข้าไปในเมืองหาคนผู้หนึ่ง แล้วบอกเขาว่า ‘อาจารย์พูดว่า “กำหนดเวลาของเรามาใกล้แล้ว เราจะถือปัสกาที่บ้านของท่านพร้อมกับสาวกทั้งหลายของเรา” ’ ”
มธ. 26:19 พวกสาวกจึงทำตามที่พระเยซูตรัสสั่ง และเตรียมปัสกาไว้พร้อม
มก. 14:1 ก่อนเทศกาลปัสกา และเทศกาลกินขนมปังไร้เชื้อสองวัน พวกหัวหน้าปุโรหิตและพวกธรรมาจารย์วางอุบายที่จะจับพระองค์ประหารเสีย
มก. 14:12 เมื่อถึงวันแรกของเทศกาลกินขนมปังไร้เชื้อ ซึ่งเป็นเวลาที่พวกเขาฆ่าลูกแกะสำหรับปัสกานั้น พวกสาวกมาทูลถามพระองค์ว่า “จะให้พวกข้าพระองค์ไปจัดเตรียมปัสกาให้พระองค์เสวยที่ไหน?”
มก. 14:14 เขาเข้าไปที่ไหน ก็ให้บอกเจ้าของบ้านนั้นว่า พระอาจารย์ถามว่า ‘ห้องที่เราจะกินปัสกากับเหล่าสาวกของเรานั้นอยู่ที่ไหน?’
มก. 14:16 สาวกสองคนนั้นจึงออกไป เดินเข้าไปในเมือง และพบทุกอย่างเหมือนถ้อยคำที่พระองค์ตรัสแก่พวกเขา แล้วพวกเขาก็จัดเตรียมปัสกาไว้พร้อม
ลก. 2:41 บิดามารดานั้นเคยขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็มในเทศกาลปัสกาทุกๆ ปี
ลก. 22:1 เทศกาลกินขนมปังไร้เชื้อที่เรียกว่าปัสกามาใกล้แล้ว
ลก. 22:7 พอถึงวันกินขนมปังไร้เชื้อ เมื่อเขาต้องฆ่าลูกแกะสำหรับปัสกา
ลก. 22:8 พระองค์ทรงใช้เปโตรและยอห์นไป สั่งเขาว่า “จงไปจัดเตรียมปัสกาให้พวกเรารับประทาน”
ลก. 22:11 และจงพูดกับเจ้าของบ้านว่า ‘พระอาจารย์ให้ถามท่านว่า “ห้องที่เราจะรับประทานปัสกากับพวกสาวกของเรานั้นอยู่ที่ไหน?” ’
ลก. 22:13 เขาทั้งสองจึงไปและพบเหมือนอย่างที่พระองค์ตรัสกับเขา แล้วก็จัดเตรียมปัสกาไว้พร้อม
ลก. 22:15 พระองค์ตรัสกับเขาทั้งหลายว่า “เรามีความปรารถนาอย่างยิ่งที่จะรับประทานปัสกานี้กับท่านก่อนที่เราจะต้องทนทุกข์
ลก. 22:16 เราบอกท่านทั้งหลายว่า เราจะไม่รับประทานปัสกานี้อีกจนกว่าจะสำเร็จความหมายของปัสกานั้นในแผ่นดินของพระเจ้า”
ยน. 2:13 เทศกาลปัสกา ของพวกยิวใกล้เข้ามาแล้ว พระเยซูเสด็จขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็ม
ยน. 2:23 ขณะพระองค์ประทับที่กรุงเยรูซาเล็มในเทศกาลปัสกานั้น มีคนจำนวนมากวางใจในพระนามของพระองค์ เพราะพวกเขาเห็นหมายสำคัญที่พระองค์ทรงทำ
ยน. 6:4 ขณะนั้นใกล้จะถึงปัสกาซึ่งเป็นเทศกาลของพวกยิว
ยน. 11:55 ขณะนั้นใกล้จะถึงเทศกาลปัสกาของพวกยิวแล้ว มีชาวชนบทจำนวนมากขึ้นไปที่กรุงเยรูซาเล็มก่อนเทศกาลปัสกาเพื่อชำระตัว
ยน. 12:1 ก่อนปัสกาหกวัน พระเยซูเสด็จมาถึงหมู่บ้านเบธานีซึ่งเป็นที่อยู่ของลาซารัสผู้ที่พระองค์ทรงให้เป็นขึ้นจากตาย
ยน. 13:1 ก่อนถึงงานเทศกาลปัสกา พระเยซูทรงทราบว่าถึงเวลาแล้วที่พระองค์จะทรงจากโลกนี้ไปหาพระบิดา พระองค์ทรงรักบรรดาคนของพระองค์ที่อยู่ในโลกนี้ พระองค์ทรงรักเขาทั้งหลายจนถึงที่สุด
ยน. 18:28 แล้วพวกเขาก็พาพระเยซูออกจากบ้านของคายาฟาสไปยังกองบัญชาการปรีโทเรียม ขณะนั้นเป็นเวลาเช้าตรู่ พวกเขาเองไม่ได้เข้าไปในกองบัญชาการปรีโทเรียมนั้น เพื่อไม่ให้เป็นมลทินและจะได้กินปัสกาได้
ยน. 18:39 แต่พวกท่านมีธรรมเนียมให้เราปล่อยคนหนึ่งให้แก่ท่านในเทศกาลปัสกา ท่านอยากให้เราปล่อยกษัตริย์ของพวกยิวหรือ?”
ยน. 19:14 วันนั้นเป็นวันเตรียมปัสกา เวลาประมาณเที่ยง ท่านพูดกับพวกยิวว่า “นี่คือกษัตริย์ของพวกท่าน”
กจ. 12:4 เมื่อจับเปโตรแล้ว จึงให้จำคุก และให้ทหารสี่หมู่ หมู่ละสี่คนคุมไว้ ตั้งใจว่าเมื่อสิ้นเทศกาลปัสกา แล้วจะพาออกมาให้ประชาชน
รม. 5:16 และของประทานนั้นก็ไม่เหมือนกับผลซึ่งเกิดจากบาปของคนเดียวนั้น เพราะว่าการพิพากษาที่เกิดขึ้นเนื่องจากการละเมิดเพียงครั้งเดียวนั้น ได้นำไปสู่การลงโทษ แต่ของประทานจากพระเจ้าภายหลังการละเมิดหลายครั้งนั้น นำไปสู่ความชอบธรรม
1คร. 5:7 จงชำระเชื้อเก่าเสีย เพื่อท่านทั้งหลายจะได้เป็นแป้งดิบก้อนใหม่ ดังเช่นที่ท่านเป็นพวกไร้เชื้อ เพราะพระคริสต์ผู้ทรงเป็นปัสกาของเราถูกถวายบูชาแล้ว
1คร. 5:8 เพราะฉะนั้นให้เราถือปัสกานั้น ไม่ใช่ด้วยเชื้อเก่าซึ่งเป็นเชื้อของความชั่วและความเลว แต่ด้วยขนมปังที่ไม่มีเชื้อ คือความจริงใจและสัจจะ
ยอห์น 14:6 'พระเยซูตรัสกับเขาว่า “เราเป็นทางนั้น เป็นความจริง และเป็นชีวิต ไม่มีใครมาถึงพระบิดาได้นอกจากจะมาทางเรา '
ยอห์น 17:17 ขอทรงแยกพวกเขาให้บริสุทธิ์ด้วยความจริง พระวจนะของพระองค์เป็นความจริง
2คร. 7:11 จงดูสิว่าความเสียใจตามพระประสงค์ของพระเจ้าเช่นนี้ นำไปสู่การเอาจริงเอาจังเพียงไร และยังทำให้เกิดการขวนขวายที่จะพิสูจน์ตัวเอง เกิดความขุ่นเคือง ความตื่นตัว ความอาลัย ความกระตือรือร้น และเกิดการลงโทษ พวกท่านพิสูจน์ตัวเองในทุกด้านแล้วว่าเป็นผู้ปราศจากความผิดในเรื่องนี้
1ทธ. 1:6 บางคนหันออกจากเป้าหมายเหล่านี้ไปสู่การพูดที่ไร้สาระ
1ทธ. 5:24 บาปของบางคนก็ปรากฏชัด และนำไปสู่การพิพากษาก่อนตัวพวกเขา ส่วนบาปของคนอื่นก็ย่อมจะตามไปภายหลัง
ฮบ. 11:28 โดยความเชื่อ ท่านถือปัสกาและพิธีประพรมเลือด เพื่อไม่ให้ทูตมรณะมาแตะต้องบุตรหัวปีของคนอิสราเอล
1ปต. 1:7 เพื่อการทดสอบความเชื่อของพวกท่าน (อันล้ำค่ายิ่งกว่าทองคำ ที่แม้ว่าจะเสื่อมสลายไปได้ก็ยังถูกทดสอบด้วยไฟ) จะนำไปสู่การสรรเสริญ ศักดิ์ศรี และเกียรติ ในเวลาที่พระเยซูคริสต์จะเสด็จมาปรากฏ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น