วันพุธที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

พระ​วจนะ​ การเผยพระวจนะ และลงมือทำ (พลังแห่งการเผยพระวจนะ)


โยบ 23:12 ข้า​มิ​ได้​พราก​จาก​พระ​บัญ​ญัติ​แห่ง​ไพร​พระ​โอษฐ์​ของ​พระ​องค์ ข้า​สะ​สม​พระ​วจนะ​แห่ง​พระ​โอษฐ์​ของ​พระ​องค์​ไว้​มาก​กว่า​กฎ​เกณฑ์​ของ​ข้า

สดด. 119:89 ​พระ​ยาห์​เวห์​ทรง​ดำรง​อยู่​เป็น​นิตย์ พระ​วจนะ​ของ​พระ​องค์​ตั้ง​มั่น​คง​ใน​สวรรค์

อสค. 37:1 พระ​หัตถ์​ของ​พระ​ยาห์​เวห์​มา​อยู่​เหนือ​ข้าพ​เจ้า แล้ว​พระ​องค์​ทรง​นำ​ข้าพ​เจ้า​ออก​มา​ด้วย​พระ​วิญ​ญาณ​ของ​พระ​ยาห์​เวห์ แล้ว​วาง​ข้าพ​เจ้า​ไว้​กลาง​หุบ​เขา​ที่​มี​กระ​ดูก​เต็ม​ไป​หมด อสค. 37:2 พระ​องค์​ทรง​พา​ข้าพ​เจ้า​ไป​รอบๆ กระ​ดูก​เหล่า​นั้น ดู​สิ มี​กระ​ดูก​มาก​มาย​เหลือ​เกิน​บน​พื้น​หุบ​เขา และ​นี่​แน่ะ เป็น​กระ​ดูก​แห้ง​มากๆ อสค. 37:3 แล้ว​พระ​องค์​ตรัส​กับ​ข้าพ​เจ้า​ว่า “บุตร​มนุษย์​เอ๋ย กระ​ดูก​เหล่า​นี้​จะ​มี​ชีวิต​ได้​ไหม?” และ​ข้าพ​เจ้า​ทูล​ตอบ​ว่า “ข้า​แต่​พระ​ยาห์​เวห์​องค์​เจ้า​นาย พระ​องค์​ทรง​ทราบ​อยู่​แล้ว” อสค. 37:4 พระ​องค์​ตรัส​กับ​ข้าพ​เจ้า​อีก​ว่า “จงเผย​พระ​วจนะ​ต่อ​กระ​ดูก​เหล่า​นี้ และ​กล่าว​กับ​พวก​มัน​ว่า กระ​ดูก​แห้ง​เอ๋ย จงฟัง​พระ​วจนะของ​พระ​ยาห์​เวห์” อสค. 37:5 พระ​ยาห์​เวห์​องค์​เจ้า​นาย​ตรัส​ดังนี้​แก่​กระ​ดูก​เหล่า​นี้​ว่า “ดู​สิ เรา​จะ​นำ​ลม​หาย​ใจ​เข้า​ไป​ใน​พวก​เจ้า และ​เจ้า​จะ​มี​ชีวิต อสค. 37:6 เรา​จะ​ใส่​เส้น​เอ็น​ไว้​บน​พวก​เจ้า​และ​จะ​ทำ​ให้​มีเนื้อ​ขึ้นมา​บน​เจ้า และ​เอา​หนัง​หุ้ม​เจ้า และ​บรรจุ​ลม​หาย​ใจ​ใน​เจ้า แล้ว​เจ้า​จะ​มี​ชีวิต แล้ว​พวก​เจ้า​จะ​รู้​ว่า เรา​คือ​ยาห์​เวห์” อสค. 37:7 ข้าพ​เจ้า​ก็​เผย​พระ​วจนะ​ตาม​ที่​ข้าพ​เจ้า​ได้​รับ​พระ​บัญ​ชา และ​เมื่อ​ข้าพ​เจ้า​เผย​พระ​วจนะ​อยู่​นั้น​ก็​มี​เสียง และ​ดู​สิ เป็น​เสียง​สั่น​รัว พวก​กระ​ดูก​นั้น​เข้า​มา​หา​กัน กระ​ดูก​กับ​กระ​ดูก อสค. 37:8 และ​เมื่อ​ข้าพ​เจ้า​มอง​ดู​ก็​เห็น​มี​เอ็น​บน​พวก​มัน เนื้อ​ก็​ขึ้น​มา​บน​กระ​ดูก และ​หนัง​ก็​มา​หุ้ม​มัน​ไว้ แต่ไม่​มี​ลม​หาย​ใจ​ใน​นั้น อสค. 37:9 แล้ว​พระ​องค์​ตรัส​กับ​ข้าพ​เจ้า​ว่า “จงเผย​พระ​วจนะ​แก่​ลม​หาย​ใจ บุตร​มนุษย์​เอ๋ย จง​เผย​พระ​วจนะ​เถิด จง​กล่าว​กับ​ลม​หาย​ใจ​ว่า พระ​ยาห์​เวห์​องค์​เจ้า​นาย​ตรัส​ดัง​นี้​ว่า ลม​หาย​ใจ​เอ๋ย จง​มา​จาก​ลม​ทั้ง​สี่ มา​หาย​ใจ​เข้า​ไป​ใน​คน​ที่​ถูก​ฆ่า​พวก​นี้​เพื่อ​ให้​เขา​มี​ชีวิต” อสค. 37:10 แล้ว​ข้าพ​เจ้า​ก็​เผย​พระ​วจนะ​ตาม​ที่​พระองค์ทรง​บัญ​ชา​ข้าพ​เจ้า และ​ลม​หาย​ใจ​ก็​เข้ามา​ใน​ร่าง​เหล่านั้น พวก​เขา​ก็​มี​ชีวิต แล้ว​ก็​ยืน​ขึ้น​ด้วย​เท้าเป็น​กอง​ทัพ​ใหญ่​โต​มาก​จริงๆ

กดว. 11:24 โมเสส​ก็​ออก​ไป​บอก​ประ​ชา​ชน ถึง​พระ​ดำรัส​ของ​พระ​ยาห์​เวห์ และ​ท่าน​รวบ​รวม​พวก​ผู้​ใหญ่​ใน​ประ​ชา​ชน​เจ็ด​สิบ​คน แล้ว​ให้​พวก​เขา​มา​ยืน​รอบๆ เต็นท์ กดว. 11:25 และ​พระ​ยาห์​เวห์​เสด็จ​ลง​มา​ใน​เมฆ​และ​ตรัส​กับ​โมเสส แล้ว​ทรง​เอา​จาก​วิญ​ญาณ​ที่​มี​อยู่​บน​โมเสส​ใส่บน​พวก​ผู้​ใหญ่​เจ็ด​สิบ​คน​นั้น​ด้วย เมื่อ​วิญ​ญาณ​มา​อยู่​บน​เขา​ทั้ง​หลาย​แล้ว เขา​ทั้ง​หลาย​ก็​เผย​พระ​วจนะ แต่ก็​ไม่​ได้​ทำ​อีกเลย กดว. 11:26 มี​สอง​คน​ที่​ยัง​อยู่​ใน​ค่าย คน​หนึ่ง​ชื่อ​เอล​ดาด อีก​คน​หนึ่ง​ชื่อ​เม​ดาด และ​วิญ​ญาณ​มาอยู่​บน​เขา​ทั้ง​สอง (เขา​ทั้ง​สอง​อยู่​ใน​กลุ่ม​คน​ที่​ถูก​จด​ชื่อ​ไว้​แต่​ไม่​ได้​มา​ที่เต็นท์) และ​เขา​ทั้ง​สอง​ก็​เผย​พระ​วจนะ​ใน​ค่าย กดว. 11:27 มี​ชาย​หนุ่ม​คน​หนึ่ง​วิ่ง​มา​บอก​โมเสส​ว่า “เอล​ดาด​และ​เม​ดาด​กำลัง​เผย​พระ​วจนะ​อยู่​ใน​ค่าย” กดว. 11:28 และ​โย​ชู​วา​บุตร​นูน​ซึ่ง​เป็น​ผู้​รับ​ใช้​ของ​โมเสส​ตั้ง​แต่​หนุ่มๆ กล่าว​ว่า “โมเสส​เจ้า​นาย​ของ​ข้าพ​เจ้า โปรด​ห้าม​เขา​ทั้ง​สอง​ด้วย”
กดว. 11:29 แต่​โมเสส​บอก​เขา​ว่า “ท่าน​เจ็บ​ร้อน​แทน​ข้าพ​เจ้า​หรือ? ข้าพ​เจ้า​อยาก​ให้​ประ​ชา​ชน​ของ​พระ​ยาห์​เวห์​เป็น​ผู้​เผย​พระ​วจนะ​ทุก​คน และ​ข้าพ​เจ้า​อยาก​ให้​พระ​ยาห์​เวห์​ทรง​ใส่​วิญ​ญาณ​ของ​พระ​องค์​ไว้​บน​พวก​เขา”
กดว. 11:30 โมเสส​และ​พวก​ผู้​ใหญ่​ของ​คน​อิส​รา​เอล​ก็​กลับ​ไป​ที่​ค่าย กดว. 11:31 แล้ว​มี​ลม​มา​จาก​พระ​ยาห์​เวห์​พัด​พา​ฝูง​นก​คุ่ม​จาก​ทะเล​มา​ตก​อยู่​ที่​ข้าง​ค่าย​โดย​อยู่​รอบๆ ทั้ง​ค่าย อยู่​ห่าง​ออก​ไป​จาก​ค่าย​เป็น​ระยะ​ทาง​เดิน​หนึ่ง​วัน และ​อยู่​สูง​จาก​พื้น​ดิน​ประ​มาณ​หนึ่ง​เมตร กดว. 11:32 วัน​นั้น​ประ​ชา​ชน​ก็​เที่ยว​จับ​นก​คุ่ม​กัน​ทั้ง​วัน​ทั้ง​คืน และ​ตลอด​วัน​ถัด​มา​ด้วย (คน​ที่​จับ​ได้​น้อย​ที่​สุด​ก็​ได้​ไม่​ต่ำ​กว่า​พัน​กิโล​กรัม) แล้ว​เขา​ทั้ง​หลาย​ก็​เอา​มา​กาง​ตาก​กัน​ทั่ว​โดย​อยู่​รอบๆ ค่าย

มก. 11:23 เรา​บอก​ความ​จริง​กับ​พวก​ท่าน​ว่า ถ้า​ใคร​สั่ง​ภูเขา​นี้​ว่า ‘จง​ลอย​ลง​ทะเล​ไป’ และใจ​ไม่​สง​สัย แต่​เชื่อ​ว่า​จะ​เป็น​ไป​ตาม​ที่​สั่ง​นั้น ก็​จะ​เป็น​ไป​ตาม​นั้น​จริงๆ

บทเรียนเรื่อง พลังแห่งการเผยพระวจนะ
จุดประสงค์:
  • เพื่อให้คริสเตียนเข้าใจถึงพลังแห่งพระวจนะของพระเจ้า และการเผยพระวจนะ
  • เพื่อให้คริสเตียนเห็นความสำคัญของการสะสมพระวจนะของพระเจ้าในชีวิต
  • เพื่อให้คริสเตียนกล้าที่จะประกาศพระวจนะของพระเจ้า และการเผยพระวจนะ

บทนำ:
พระวจนะของพระเจ้ายิ่งใหญ่และทรงพลังกว่าสิ่งใดๆ ดังที่โยบได้กล่าวไว้ว่า “ข้ามิได้พรากจากพระบัญญัติแห่งไพรพระโอษฐ์ของพระองค์ ข้าสะสมพระวจนะแห่งพระโอษฐ์ของพระองค์ไว้มากกว่ากฎเกณฑ์ของข้า” (โยบ 23:12) พระวจนะของพระเจ้าอยู่เหนือกาลเวลา(นิรันดร์กาล)และเป็นจริงเสมอ “พระยาห์เวห์ทรงดำรงอยู่เป็นนิตย์ พระวจนะของพระองค์ตั้งมั่นคงในสวรรค์” (สดด. 119:89) ในบทเรียนนี้ เราจะมาเรียนรู้ถึงพลังแห่งพระวจนะของพระเจ้าและการเผยพระวจนะ ผ่านเรื่องราวของเอเสเคียล และจะมาดูกันว่าพระวจนะนั้นสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตเราและผู้อื่นได้อย่างไร

เนื้อหา:
  1. พระวจนะของพระเจ้านำชีวิต: ในเอเสเคียล 37:1-10 พระเจ้าทรงพาเอเสเคียลไปยังหุบเขากระดูกแห้ง ซึ่งเป็นภาพเปรียบเทียบถึงความสิ้นหวัง แต่พระเจ้าทรงใช้เอเสเคียลเป็นกระบอกเสียงในการเผยพระวจนะ พระวจนะของพระเจ้าเท่านั้นที่สามารถนำชีวิตมาสู่สิ่งที่ตายไปแล้วได้ เช่นเดียวกัน พระวจนะของพระเจ้าสามารถนำชีวิตใหม่มาสู่จิตวิญญาณที่ตายแล้ว ธุรกิจฟื้นฟูอย่างอัศจรรย์มาสู่ะุรกิจที่วิกฤต นำความหวังมาสู่ผู้ที่สิ้นหวัง และนำการเยียวยารักษามาสู่ผู้ที่บาดเจ็บเป็นโรคภัยไข้เจ็บได้
  2. การเชื่อฟังพระวจนะของพระเจ้า: เอเสเคียลเชื่อฟังพระบัญชาของพระเจ้าอย่างไม่ลังเลใจแม้ว่าสิ่งที่พระเจ้าสั่งดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ เช่นเดียวกัน การที่เรามีชีวิตที่เต็มล้นด้วยฤทธิ์เดชของพระเจ้า เราต้องเต็มใจที่จะเชื่อฟังพระวจนะของพระเจ้า แม้ว่าบางครั้งเราอาจไม่เข้าใจ แต่เมื่อเราเชื่อฟัง ฤทธิ์เดชของพระเจ้าจะทำงานผ่านเราอย่างน่าอัศจรรย์
  3. การประกาศพระวจนะของพระเจ้า: พระเยซูตรัสว่า “เราบอกความจริงกับพวกท่านว่า ถ้าใครสั่งภูเขา นี้ว่า ‘จงลอยลงทะเลไป’ และใจไม่สงสัย แต่เชื่อว่า จะเป็นไปตามที่สั่งนั้น ก็จะเป็นไปตามนั้นจริงๆ” (มก. 11:23) คำพูดของเรามีพลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราพูดพระวจนะของพระเจ้าด้วยความเชื่อ ขอให้เรากล้าที่จะประกาศพระวจนะของพระเจ้าให้กับผู้คน เพราะเราไม่รู้ว่าพระวจนะนั้นจะสัมผัสชีวิตของพวกเขาอย่างไร
การตอบสนอง(ปฏิบัติ)
  • ให้เผยพระวจนะให้ตนเอง
  • ให้เผยพระวจนะให้คนในครอบครัว 1 คน
สรุป:
พระวจนะของพระเจ้าและการเผยพระวจนะ มีพลังที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิต นำความหวัง นำการฟื้นฟู นำการอัศจรรย์ และนำการเยียวยามาให้ ขอให้เราเป็นเหมือนโยบ ที่เก็บสะสมพระวจนะของพระเจ้าไว้ในใจ และเป็นเหมือนเอเสเคียล ที่เชื่อฟังและประกาศพระวจนะของพระเจ้าอย่างกล้าหาญ


คำถามสำหรับการอภิปราย:
  • คุณเคยประสบกับพลังแห่งพระวจนะของพระเจ้าและพลังการเผยพระวจนะในชีวิตของคุณหรือไม่? อย่างไร?
  • คุณจะนำบทเรียนนี้ไปใช้ในชีวิตประจำวันของคุณได้อย่างไร?
  • คุณจะทำอย่างไรเพื่อที่จะกล้าประกาศพระวจนะของพระเจ้าและการเผยพระวจนะ ให้กับผู้อื่นมากขึ้น?


บทเรียนฝึกอบรมศิษยาภิบาล : พลังแห่งการเผยพระวจนะ
พระคัมภีร์อ้างอิง: โยบ 23:12, สดด. 119:89, อสค. 37:1-10, กดว. 11:29, มก. 11:23
เป้าหมาย:
  • เพื่อให้ศิษยาภิบาลตระหนักถึงพลังอำนาจของพระวจนะของพระเจ้า
  • เพื่อให้ศิษยาภิบาลมีความมั่นใจและกล้าหาญในการประกาศพระวจนะ
  • เพื่อให้ศิษยาภิบาลเข้าใจถึงบทบาทของพระวิญญาณบริสุทธิ์ในการทำให้พระวจนะเกิดผล
โครงร่างบทเรียน:
1. การเตรียมใจ (10 นาที)
  • เริ่มต้นด้วยการอธิษฐานร่วมกัน ขอการทรงนำจากพระวิญญาณบริสุทธิ์
  • ร้องเพลงนมัสการที่เน้นย้ำถึงพลังอำนาจของพระวจนะของพระเจ้า
  • ถามคำถามนำเข้าสู่บทเรียน เช่น
    • ท่านคิดว่าพระวจนะของพระเจ้ามีพลังอำนาจอย่างไร?
    • ท่านเคยมีประสบการณ์ที่พระวจนะของพระเจ้าเข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตของท่านหรือไม่?
2. ศึกษาพระคัมภีร์ (20 นาที)
  • โยบ 23:12: โยบให้ความสำคัญกับพระวจนะของพระเจ้ามากกว่าอาหารของตน แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในพลังอำนาจของพระวจนะ
  • สดด. 119:89: เน้นย้ำถึงความคงทนถาวรของพระวจนะ พระวจนะของพระเจ้าไม่เปลี่ยนแปลง
  • อสค. 37:1-10: เรื่องราวของหุบเขากระดูกแห้ง
    • พระเจ้าทรงเรียกเอเสเคียลให้เผยพระวจนะ
    • พลังแห่งพระวจนะทำให้กระดูกแห้งกลับมามีชีวิต
    • บทเรียนสำหรับศิษยาภิบาล: พระเจ้าทรงเรียกให้เราเผยพระวจนะ ถึงแม้จะดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ก็ตาม พระวิญญาณบริสุทธิ์จะเป็นผู้ให้ชีวิต
  • กดว. 11:29: โมเสสปรารถนาให้ประชากรของพระเจ้าเป็นผู้เผยพระวจนะทุกคน
  • มก. 11:23: พระเยซูทรงสอนเกี่ยวกับความเชื่อและฤทธิ์อำนาจในการอธิษฐาน พระวจนะของพระเจ้าและความเชื่อทำงานร่วมกัน
3. การประยุกต์ใช้ (15 นาที)
  • แบ่งปันเป็นกลุ่มเล็ก ๆ
    • พระคัมภีร์ตอนใดที่ท้าทายท่านมากที่สุด
    • ท่านจะนำหลักการเหล่านี้ไปประยุกต์ใช้ในการเป็นศิษยาภิบาลอย่างไร?
  • อภิปรายร่วมกันทั้งกลุ่ม
4. การตอบสนองและบทสรุป (15 นาที)
  • ให้ศิษยาภิบาลแต่ละท่านตั้งปณิธานส่วนตัวในการศึกษาและประกาศพระวจนะของพระเจ้า
  • อธิษฐานเผื่อศิษยาภิบาลแต่ละท่าน ขอให้พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงทำให้พวกเขากล้าหาญในการประกาศพระวจนะ
กิจกรรมเสริม:
  • ให้ศิษยาภิบาลเตรียมคำเทศนาสั้นๆ โดยใช้เรื่องราวจากเอเสเคียล 37:1-10
  • ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับฤทธิ์อำนาจของพระวจนะของพระเจ้า
ข้อคิด:
บทเรียนนี้มุ่งเน้นให้ศิษยาภิบาลตระหนักถึงความสำคัญของพระวจนะของพระเจ้า พระวจนะมีพลังอำนาจที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิต ศิษยาภิบาลต้องมีชีวิตที่ยึดมั่นในพระวจนะ และประกาศออกไปด้วยความเชื่อมั่นในพระวิญญาณบริสุทธิ์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น