1 ยอห์น 3:1 THSV11 ลองคิดดู พระบิดาได้ประทานความรักแก่เราเพียงไรที่เราได้ชื่อว่าเป็นลูกของพระเจ้า และเราก็เป็นอย่างนั้น เหตุที่ชาวโลกไม่รู้จักเรา ก็เพราะเขาไม่รู้จักพระองค์
1 ยอห์น 3:5 THSV11 พวกท่านรู้อยู่แล้วว่าพระองค์ทรงปรากฏเพื่อกำจัดบาปของเราให้หมดไป และไม่มีบาปอยู่ในพระองค์เลย
1 ยอห์น 3:6 THSV11 ผู้ที่อยู่ในพระองค์ไม่ทำบาปอีกต่อไป ส่วนผู้ที่ทำบาปอยู่เรื่อยๆ คนนั้นยังไม่เห็นพระองค์และยังไม่รู้จักพระองค์
1 ยอห์น 3:8 THSV11 ผู้ที่ทำบาปก็มาจากมาร เพราะว่ามารก็ทำบาปตั้งแต่เริ่มแรก พระบุตรของพระเจ้าได้เสด็จมาปรากฏก็เพราะเหตุนี้ คือเพื่อทำลายกิจการของมาร
มาระโก 16:14 THSV11 หลังจากนั้นพระองค์ทรงปรากฏกับสาวกสิบเอ็ดคน ขณะพวกเขากำลังนั่งรับประทานอาหารอยู่ พระองค์ทรงตำหนิพวกเขาในเรื่องความสงสัยและใจดื้อดึง เพราะว่าพวกเขาไม่เชื่อคนที่ได้เห็นพระองค์ เมื่อพระองค์ทรงเป็นขึ้นมาแล้ว
1 ยอห์น 3:9 THSV11 ผู้ที่เกิดจากพระเจ้าไม่ทำบาป เพราะเชื้อของพระเจ้าอยู่ในคนนั้นและเขาทำบาปไม่ได้ เพราะเขาเกิดจากพระเจ้า
จงรักกันและกัน (ไม่ทำลาย ทำร้าย)
1 ยอห์น 3:11 THSV11 นี่เป็นคำสั่งสอนที่ท่านทั้งหลายได้ยินได้ฟังมาตั้งแต่เริ่มแรก คือให้เรารักกันและกัน
เริ่มที่ครอบครัว
1 ยอห์น 3:12 THSV11 อย่าเป็นเหมือนอย่างคาอินที่มาจากมารและฆ่าน้องของตนเอง ทำไมเขาถึงฆ่าน้อง? ก็เพราะการกระทำของเขาชั่วและการกระทำของน้องนั้นชอบธรรม
รัก
รับความรักจากพระเจ้าก่อน แล้วค่อยรักคนอื่น
1ยน. 4:19 เราทั้งหลายรัก ก็เพราะพระองค์ทรงรักเราก่อน
1 ยอห์น 3:14 THSV11 เรารู้ว่าเราได้พ้นจากความตายไปสู่ชีวิตแล้ว ก็เพราะเรารักพี่น้อง ผู้ที่ไม่รักก็ยังอยู่ในความตาย
1 ยอห์น 3:16 THSV11 เช่นนี้แหละเราจึงรู้จักความรัก โดยที่พระองค์ได้ยอมสละพระชนม์ของพระองค์เพื่อเรา และเราก็ควรจะสละชีวิตของเราเพื่อพี่น้อง
มั่นใจ
2 โครินธ์ 9:9 ตามที่เขียนไว้ว่า "เขาแจกจ่าย เขาให้แก่บรรดาคนยากจน ความชอบธรรมของเขาดำรงอยู่เป็นนิตย์"
อสย. 7:9 และเศียรของเอฟราอิมคือสะมาเรีย และเศียรของสะมาเรียคือโอรสของเรมาลิยาห์ ถ้าเจ้าไม่มั่นใจ แน่ละ ก็จะตั้งมั่นเจ้าไว้ไม่ได้”
รม. 2:19 และถ้าท่านมั่นใจว่าท่านเป็นผู้จูงคนตาบอด เป็นความสว่างให้แก่คนทั้งหลายที่อยู่ในความมืด
2คร. 5:6 เหตุฉะนั้นเรามั่นใจอยู่เสมอ รู้อยู่แล้วว่า ขณะที่เราอยู่ในร่างกายนี้ เราอยู่ห่างจากองค์พระผู้เป็นเจ้า
2คร. 5:8 เรามีความมั่นใจ และเราปรารถนาจะอยู่กับองค์พระผู้เป็นเจ้ามากกว่าอยู่ในร่างกายนี้
2คร. 10:7 ท่านจงดูสิ่งที่ปรากฏกับตา ถ้าผู้ใดมั่นใจว่าตนเป็นคนของพระคริสต์ ก็ให้ผู้นั้นคำนึงถึงตนเองว่า เมื่อเขาเป็นคนของพระคริสต์ เราก็เป็นคนของพระคริสต์เหมือนกัน
ฟม. 1:21 ข้าพเจ้ามั่นใจว่าท่านจะเชื่อฟัง จึงได้เขียนจดหมายถึงท่าน เพราะรู้ว่าท่านจะกระทำยิ่งกว่าที่ข้าพเจ้าขอ
ฮบ. 11:1 ความเชื่อคือความแน่ใจในสิ่งที่เราหวังไว้ เป็นความรู้สึกมั่นใจว่า สิ่งที่ยังไม่ได้เห็นนั้นมีจริง
ฮบ. 11:27 เพราะความเชื่อ ท่านได้ออกจากประเทศอียิปต์ โดยมิได้เกรงกลัวความกริ้วของกษัตริย์ เพราะท่านมั่นใจประหนึ่งได้เห็นพระองค์ผู้ไม่ทรงปรากฏแก่ตา
1ยน. 2:3 เราจะมั่นใจได้ว่าเราคุ้นกับพระองค์โดยข้อนี้ คือถ้าเราประพฤติตามพระบัญญัติของพระองค์
1ยน. 3:21 ท่านที่รักทั้งหลาย ถ้าใจของเราไม่ได้กล่าวโทษเรา เราก็มีความมั่นใจที่จะเข้าเฝ้าพระเจ้า
1ยน. 4:17 ในข้อนี้แหละ ความรักของเราจึงสมบูรณ์ เพื่อเราทั้งหลายจะได้มีความมั่นใจในวันพิพากษา เพราะว่าพระองค์ทรงเป็นเช่นไรเราทั้งหลายในโลกนี้ก็เป็นเช่นนั้น
1ยน. 5:14 และนี่คือความมั่นใจที่เรามีต่อพระองค์ คือถ้าเราทูลขอสิ่งใดที่เป็นพระประสงค์ของพระองค์ พระองค์ก็ทรงโปรดฟังเรา
ถวายสองเหรียญ
มก. 12:42 แต่มีหญิงม่ายยากจนคนหนึ่งเดินมา นางเอาเหรียญทองแดงสองอัน มีค่าประมาณโคดรันเทสหนึ่งมาใส่ไว้
มก. 12:43 พระองค์จึงทรงเรียกพวกสาวกมาตรัสกับพวกเขาว่า “เราบอกความจริงกับท่านทั้งหลายว่า หญิงม่ายยากจนคนนี้ใส่ในตู้เก็บเงินถวายมากกว่าทุกคนที่ใส่ไว้นั้น
มก. 12:44 เพราะว่าทุกคนได้เอาเงินเหลือใช้ของพวกเขามาใส่ แต่หญิงคนนี้ในสภาพที่ยากจน เอาเงินเลี้ยงชีพทั้งสิ้นของนางใส่ลงไปจนหมด”
ลก. 21:2 และพระองค์ทอดพระเนตรเห็นหญิงม่ายคนหนึ่งซึ่งเป็นคนขัดสน นำเหรียญทองแดงสองอันมาใส่ด้วย
ลก. 21:3 พระองค์ตรัสว่า “เราบอกท่านทั้งหลายจริงๆ ว่า หญิงม่ายยากจนคนนี้เป็นคนที่ใส่ไว้มากกว่าเพื่อน
ลก. 21:4 เพราะว่าทุกคนเอาเงินเหลือใช้มาใส่เพื่อถวาย แต่ผู้หญิงคนนี้ขาดแคลนที่สุด ยังเอาเงินที่มีอยู่สำหรับเลี้ยงชีวิตมาใส่จนหมด”
อับราฮัม กับโลท
แยกไปแล้ว พระเจ้า พบอับราฮัม
ปฐก. 13:11 โลทจึงเลือกที่ลุ่มทั้งหมดของแม่น้ำจอร์แดน โลทออกเดินทางไปทิศตะวันออก ญาติสนิททั้งสองจึงแยกกันไป
ปฐก. 13:12 อับรามอาศัยอยู่ในแผ่นดินคานาอัน ส่วนโลทอาศัยอยู่ท่ามกลางเมืองต่างๆ ในที่ราบ และย้ายเต็นท์ไปตั้งถึงเมืองโสโดม
ปฐก. 13:13 ผู้ชายเมืองโสโดมเป็นคนชั่วร้าย ทำผิดบาปต่อพระยาห์เวห์มาก
ปฐก. 13:14 เมื่อโลทจากอับรามไปแล้ว พระยาห์เวห์ตรัสแก่อับรามว่า “จงเงยหน้าดูสถานที่ตั้งแต่เจ้าอยู่นี้ไปทางทิศเหนือ ทิศใต้ ทิศตะวันออก และทิศตะวันตก
ปฐก. 13:15 เพราะดินแดนทั้งหมดที่เจ้าแลเห็นนี้ เราจะยกให้เจ้าและเชื้อสายของเจ้าตลอดนิรันดร์
ปฐก. 13:16 เราจะทำให้เชื้อสายของเจ้ามากเหมือนผงคลีดิน ใครนับผงคลีดินได้ก็จะนับเชื้อสายของเจ้าได้
ปฐก. 13:17 จงลุกขึ้นเดินให้ทั่วดินแดนนี้ ทั้งด้านยาวและด้านกว้าง เพราะว่าเราจะยกดินแดนนี้ให้เจ้า”
ปฐก. 13:18 อับรามจึงย้ายเต็นท์มาอาศัยอยู่ที่หมู่ต้นโอ๊กของมัมเร ซึ่งอยู่ที่เฮโบรน แล้วสร้างแท่นบูชาถวายพระยาห์เวห์ที่นั่น
หว่านรอการเก็บเกี่ยว
เน่าเปื่อย งอกใหม่
อสย. 5:24 ดังนั้น เปลวไฟเผาผลาญตอข้าวเช่นไร และหญ้าแห้งยุบลงในเปลวเพลิงเช่นไร รากของพวกเขาก็จะเป็นเหมือนความเปื่อยเน่า และความเบ่งบานของเขาจะฟุ้งกระจายไปเหมือนผงคลีเช่นนั้น เพราะเขาทั้งหลายได้ละทิ้งธรรมบัญญัติของพระยาห์เวห์จอมทัพ และดูหมิ่นพระวจนะขององค์บริสุทธิ์ของอิสราเอล
กจ. 2:27 เพราะพระองค์จะไม่ทรงละข้าพระองค์ไว้ในแดนคนตาย ทั้งจะไม่ทรงให้องค์บริสุทธิ์ของพระองค์เปื่อยเน่าไป
กจ. 2:31 ท่านก็ล่วงรู้เหตุการณ์นี้ก่อน จึงกล่าวถึงการคืนพระชนม์ของพระคริสต์ว่า ‘พระเจ้าไม่ทรงละพระองค์ไว้ในแดนคนตาย ทั้งพระกายของพระองค์ ก็ไม่ทรงเปื่อยเน่าไป’
กจ. 13:35 เพราะฉะนั้นพระองค์ตรัสไว้ที่อื่นอีกว่า ‘พระองค์จะไม่ให้องค์บริสุทธิ์ของพระองค์ ประสบความเปื่อยเน่า’
กจ. 13:36 เพราะว่าแม้แต่ดาวิดหลังจากที่ปรนนิบัติตามพระทัยพระเจ้าในชั่วอายุของท่านแล้ว ท่านล่วงหลับไป และถูกฝังไว้กับบรรดาบรรพบุรุษของท่านแล้วก็เปื่อยเน่าไป
กจ. 13:37 ส่วนพระองค์ผู้ซึ่งพระเจ้าทรงให้เป็นขึ้นมานั้นไม่ได้ประสบความเปื่อยเน่าเลย
กท. 6:8 คนที่หว่านสิ่งที่ตอบสนองเนื้อหนังของตน ก็จะเก็บเกี่ยวความเปื่อยเน่าจากเนื้อหนังนั้น แต่คนที่หว่านสิ่งที่ตอบสนองพระวิญญาณ ก็จะเก็บเกี่ยวชีวิตนิรันดร์จากพระวิญญาณนั้น
มั่นคงในพระเจ้า
ปฐก. 24:12 เขาอธิษฐานว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของอับราฮัมนายของข้าพระองค์ ขอประทานความสำเร็จแก่ข้าพระองค์ในวันนี้ และขอทรงสำแดงความรักมั่นคงแก่อับราฮัมนายของข้าพระองค์
ปฐก. 24:27 และอธิษฐานว่า “สรรเสริญพระยาห์เวห์พระเจ้าของอับราฮัมนายของข้าพระองค์ ผู้ไม่ได้ทรงทอดทิ้งความรักมั่นคง และความซื่อสัตย์ของพระองค์ต่อนายของข้าพระองค์ ส่วนข้าพระองค์นั้นพระเจ้าทรงนำมาตามทางจนถึงบ้านหมู่ญาติของนายข้าพระองค์”
อพย. 34:6 แล้วพระยาห์เวห์เสด็จผ่านไปข้างหน้าท่าน ตรัสว่า “พระยาห์เวห์ พระยาห์เวห์ เป็นพระเจ้าผู้เปี่ยมด้วยพระกรุณาและพระคุณ พระองค์กริ้วช้า ทรงบริบูรณ์ด้วยความรักมั่นคง และความสัตย์จริง
ฉธบ. 4:4 แต่ท่านทั้งหลายผู้ยึดพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านอย่างมั่นคง ยังมีชีวิตอยู่ถึงวันนี้ทุกคน
ฉธบ. 7:9 ฉะนั้นจงทราบเถิดว่า พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านเป็นพระเจ้า เป็นพระเจ้าซื่อสัตย์ผู้ทรงรักษาพันธสัญญาและความรักมั่นคง ต่อบรรดาผู้ที่รักพระองค์และรักษาบัญญัติของพระองค์ถึงพันชั่วอายุคน
ฉธบ. 7:12 “และเพราะท่านทั้งหลายเชื่อฟังกฎหมายเหล่านี้ โดยรักษาและทำตาม พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะทรงรักษาพันธสัญญาและความรักมั่นคงกับท่าน ซึ่งทรงปฏิญาณไว้กับบรรพบุรุษของท่าน
นรธ. 2:20 นาโอมีจึงพูดกับบุตรสะใภ้ว่า “ขอพระยาห์เวห์ทรงอวยพรเขาเถิด ความรักมั่นคงของพระเจ้าไม่ขาดจากผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่หรือผู้ที่สิ้นชีวิตไปแล้ว” นาโอมีกล่าวแก่นางด้วยว่า “ชายคนนั้นเป็นญาติของเรา เขาเป็นญาติสนิทคนหนึ่งของเรา”
2ซมอ. 7:24 และพระองค์ทรงตั้งอิสราเอลประชากรของพระองค์ให้มั่นคง ให้เป็นประชากรของพระองค์ตลอดนิรันดร์ ข้าแต่พระยาห์เวห์ และพระองค์เองก็ทรงเป็นพระเจ้าของพวกเขา
2ซมอ. 7:25 ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้า พระวจนะซึ่งพระองค์ตรัสเกี่ยวกับผู้รับใช้ของพระองค์ และเกี่ยวกับราชวงศ์ของเขา ขอพระวจนะนั้นมั่นคงอยู่เป็นนิตย์ และทรงทำดังที่พระองค์ตรัสไว้
2ซมอ. 7:26 ขอพระนามของพระองค์เป็นที่สรรเสริญตลอดนิรันดร์ว่า ‘พระยาห์เวห์จอมทัพทรงเป็นพระเจ้าเหนืออิสราเอล’ และราชวงศ์ดาวิดผู้รับใช้ของพระองค์จะตั้งมั่นคงอยู่เฉพาะพระพักตร์พระองค์
2ซมอ. 9:3 พระราชาจึงตรัสว่า “ไม่มีใครในพงศ์พันธุ์ซาอูลเหลืออยู่บ้าง เพื่อเราจะได้แสดงความรักมั่นคงของพระเจ้าต่อเขาหรือ?” ศิบากราบทูลพระราชาว่า “ยังมีโอรสของโยนาธานเหลืออยู่คนหนึ่ง เท้าของเขาเป็นง่อย พ่ะย่ะค่ะ”
2ซมอ. 23:5 พงศ์พันธุ์ของข้าพเจ้าเป็นเช่นนั้นกับพระเจ้าไม่ใช่หรือ? เพราะพระองค์ทรงทำพันธสัญญานิรันดร์กับข้าพเจ้า อันเป็นระเบียบทุกอย่างและมั่นคง พระองค์จะไม่ทรงให้ความรอดทุกด้าน และความปรารถนาทุกอย่างของข้าพเจ้าสัมฤทธิ์ผลหรือ?
1พกษ. 8:23 และทูลว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้าแห่งอิสราเอล ไม่มีพระเจ้าองค์ไหนเหมือนพระองค์ ในฟ้าสวรรค์เบื้องบน หรือที่แผ่นดินเบื้องล่าง ผู้ทรงรักษาพันธสัญญา และสำแดงความรักมั่นคงแก่ผู้รับใช้ของพระองค์ ผู้ดำเนินอยู่เฉพาะพระพักตร์พระองค์ด้วยสุดใจ
2พกษ. 18:6 เพราะว่าพระองค์ทรงยึดพระยาห์เวห์อย่างมั่นคง พระองค์ไม่ทรงหันจากการติดตามพระเจ้าเลย แต่ได้รักษาพระบัญญัติซึ่งพระยาห์เวห์ทรงบัญชาโมเสส
1พศด. 17:24 และขอพระนามของพระองค์ดำรงมั่นคงและเกรียงไกรตลอดนิรันดร์ว่า “พระยาห์เวห์จอมทัพ พระเจ้าแห่งอิสราเอลคือพระเจ้าของอิสราเอล” และราชวงศ์ของดาวิดผู้รับใช้ของพระองค์จะถูกสถาปนาไว้เฉพาะพระพักตร์ของพระองค์
1พศด. 29:18 ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของอับราฮัม อิสอัคและอิสราเอลบรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลาย ขอทรงรักษาความประสงค์ และความคิดในใจของประชากรของพระองค์ให้เป็นเช่นนี้เสมอไป และขอทรงทำจิตใจของเขาทั้งหลายให้มั่นคงในพระองค์
2พศด. 1:8 ซาโลมอนก็ทูลพระเจ้าว่า “พระองค์ได้ทรงสำแดงความรักมั่นคงที่ยิ่งใหญ่แก่ดาวิดเสด็จพ่อของข้าพระองค์ และทรงทำให้ข้าพระองค์เป็นกษัตริย์แทน
2พศด. 6:14 แล้วพระองค์ทูลว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้าของอิสราเอล ไม่มีพระเจ้าองค์ไหนเหมือนพระองค์ ทั้งในฟ้าสวรรค์ และบนแผ่นดินโลก พระองค์ทรงรักษาพันธสัญญาและทรงสำแดงความรักมั่นคงแก่ผู้รับใช้ของพระองค์ ผู้ดำเนินอยู่เฉพาะพระพักตร์พระองค์ด้วยสุดใจ
2พศด. 6:42 ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้า ขออย่าเมินพระพักตร์จากผู้ที่พระองค์ทรงเจิมไว้นั้น ขอทรงระลึกถึงความรักมั่นคงต่อดาวิดผู้รับใช้ของพระองค์”
2พศด. 7:3 เมื่อคนอิสราเอลทั้งหมดเห็นไฟลงมาและพระสิริของพระยาห์เวห์อยู่บนพระนิเวศ เขาทั้งหลายก็กราบซบหน้าติดพื้นบนทางเดิน และนมัสการทั้งสรรเสริญพระเจ้าว่า “เพราะพระองค์ประเสริฐ เพราะความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่เป็นนิตย์”
2พศด. 20:20 เขาทั้งหลายลุกขึ้นแต่เช้าและออกไปยังถิ่นทุรกันดารเทโคอา และเมื่อเขาออกไป เยโฮชาฟัททรงยืนและตรัสว่า “ยูดาห์และชาวเยรูซาเล็มเอ๋ย จงฟังข้าพเจ้า จงวางใจในพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทั้งหลาย แล้วท่านจะได้รับความมั่นคง จงเชื่อบรรดาผู้เผยพระวจนะของพระองค์ แล้วท่านจะได้รับความสำเร็จ”
2พศด. 27:6 โยธามจึงทรงมีกำลังมากขึ้น เพราะพระองค์ทรงดำเนินอย่างมั่นคงเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์พระเจ้าของพระองค์
อสร. 6:3 ในปีแรกแห่งรัชกาลกษัตริย์ไซรัส กษัตริย์ไซรัสทรงออกกฤษฎีกาว่า เรื่องพระนิเวศของพระเจ้าที่เยรูซาเล็ม ให้สร้างพระนิเวศนั้นขึ้นใหม่ คือที่ซึ่งเขานำเครื่องสัตวบูชามาถวาย ให้ลงรากมั่นคง ให้พระนิเวศสูง 27 เมตร และกว้าง 27 เมตร
อสร. 7:28 และโดยความรักมั่นคงของพระองค์ทรงบันดาลให้ข้าพเจ้ามีความชอบต่อพระพักตร์กษัตริย์ และที่ปรึกษาของพระองค์ และต่อหน้าพวกเจ้านายผู้ทรงอำนาจของกษัตริย์ และข้าพเจ้าก็มีใจกล้าขึ้น เพราะพระหัตถ์ของพระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพเจ้าอยู่กับข้าพเจ้า และข้าพเจ้าได้รวบรวมบุคคลชั้นผู้นำจากอิสราเอลขึ้นไปกับข้าพเจ้า
อสร. 9:9 เพราะว่าพวกข้าพระองค์เป็นทาส แต่พระเจ้าของข้าพระองค์ไม่ได้ทรงละทิ้งข้าพระองค์ไว้ในความเป็นทาส แต่โดยความรักมั่นคงของพระองค์ ทรงบันดาลให้ข้าพระองค์มีความชอบต่อพระพักตร์บรรดากษัตริย์แห่งเปอร์เซีย เพื่อประทานการฟื้นใจแก่ข้าพระองค์ เพื่อจะตั้งพระนิเวศของพระเจ้าของข้าพระองค์ขึ้นไว้ เพื่อจะซ่อมที่ปรักหักพังและเพื่อจะประทานกำแพงแก่พวกข้าพระองค์ในยูดาห์ และในเยรูซาเล็ม
นหม. 1:5 ข้าพเจ้าทูลว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์ พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ และน่ายำเกรง ผู้ทรงรักษาพันธสัญญาและความรักมั่นคงต่อผู้ที่รักพระองค์ และรักษาพระบัญญัติของพระองค์
นหม. 9:17 เขาทั้งหลายปฏิเสธไม่เชื่อฟัง และไม่เอาใจใส่ในการอัศจรรย์ซึ่งพระองค์ทรงประกอบขึ้นท่ามกลางพวกเขา แต่เขาแข็งคอของเขา และได้แต่งตั้งหัวหน้าเพื่อจะกลับไปสู่ความเป็นทาสของเขาในอียิปต์ แต่พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าพร้อมที่จะทรงให้อภัย ทรงมีพระคุณและพระกรุณา ทรงพระพิโรธช้า และทรงอุดมด้วยความรักมั่นคง และไม่ได้ทรงละทิ้งพวกเขา
นหม. 9:32 “ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย ซึ่งเป็นพระเจ้ายิ่งใหญ่ ทรงฤทธิ์และน่าเกรงกลัว ผู้ทรงรักษาพันธสัญญาและความรักมั่นคง ฉะนั้นขอพระองค์อย่าทรงเห็นว่า ความทุกข์ยากลำบากทั้งสิ้นนั้นเป็นแต่สิ่งเล็กน้อย ซึ่งบังเกิดขึ้นกับข้าพระองค์ทั้งหลาย กับบรรดากษัตริย์ของข้าพระองค์กับบรรดาเจ้านาย บรรดาปุโรหิต บรรดาผู้เผยพระวจนะ บรรพบุรุษและชนชาติของพระองค์ทั้งสิ้น ตั้งแต่สมัยกษัตริย์อัสซีเรีย จนถึงวันนี้
นหม. 13:22 และข้าพเจ้าสั่งคนเลวีให้ชำระตัวและมาเฝ้าประตูเมือง เพื่อรักษาวันสะบาโตให้บริสุทธิ์ ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอพระองค์ทรงระลึกถึงข้าพระองค์ในเรื่องนี้ และขอทรงพระกรุณาข้าพระองค์ตามความยิ่งใหญ่แห่งความรักมั่นคงของพระองค์
สดด. 21:7 เพราะพระราชาวางใจในพระยาห์เวห์ ด้วยความรักมั่นคงของพระเจ้าผู้สูงสุด ท่านจะไม่หวั่นไหวเลย
สดด. 36:7 ข้าแต่พระเจ้า ความรักมั่นคงของพระองค์ล้ำเลิศยิ่งนัก มนุษย์ทั้งหลายเข้าลี้ภัยอยู่ใต้ร่มปีกพระองค์
สดด. 42:8 กลางวัน พระยาห์เวห์ทรงบัญชาความรักมั่นคงของพระองค์ และกลางคืน เพลงของพระองค์อยู่กับข้าพเจ้า เป็นคำอธิษฐานต่อพระเจ้าแห่งชีวิตของข้าพเจ้า
สดด. 48:9 ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์ทั้งหลายไตร่ตรองถึงความรักมั่นคงของพระองค์ เมื่ออยู่กลางพระวิหารของพระองค์
สดด. 51:1 ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงพระเมตตาข้าพระองค์ ตามความรักมั่นคงของพระองค์ ตามพระกรุณาอันอุดมของพระองค์ ขอทรงลบบรรดาการละเมิดของข้าพระองค์
สดด. 52:1 เจ้าผู้มีอำนาจเต็มประดา ไฉนจึงโอ้อวดในการชั่ว? อ้างความรักมั่นคงของพระเจ้าวันยังค่ำ
สดด. 52:8 ส่วนข้าพเจ้าเป็นเหมือนต้นมะกอกเขียวสดในพระนิเวศของพระเจ้า ข้าพเจ้าวางใจในความรักมั่นคงของพระเจ้าเป็นนิตย์นิรันดร์
สดด. 57:3 พระองค์จะทรงส่งความช่วยเหลือ มาจากฟ้าสวรรค์และช่วยข้าพเจ้าให้รอด พระองค์จะทรงให้ผู้เหยียบย่ำข้าพเจ้าอับอาย เส-ลาห์ พระเจ้าจะทรงส่งความรักมั่นคงและความซื่อสัตย์ลงมา
สดด. 57:7 ข้าแต่พระเจ้า ใจของข้าพระองค์มั่นคง ใจของข้าพระองค์มั่นคง ข้าพระองค์จะร้องเพลง ข้าพระองค์จะเล่นดนตรีสดุดี
สดด. 59:10 พระเจ้าของข้าพเจ้าจะพบข้าพเจ้าด้วยความรักมั่นคงของพระองค์ พระเจ้าจะทรงให้ข้าพเจ้ามองเห็นพวกศัตรูของข้าพเจ้าแพ้
สดด. 59:17 ข้าแต่พระกำลังของข้าพระองค์ ข้าพระองค์จะร้องเพลงสดุดีพระองค์ ข้าแต่พระเจ้า เพราะพระองค์ทรงเป็นป้อมปราการของข้าพระองค์ พระเจ้าผู้ทรงสำแดงความรักมั่นคงแก่ข้าพระองค์
สดด. 61:7 ขอให้ท่านได้ประทับบนบัลลังก์ เฉพาะพระพักตร์พระเจ้าเป็นนิตย์ ขอทรงตั้งความรักมั่นคงและความซื่อสัตย์ไว้ปกป้องท่าน
สดด. 66:20 สาธุการแด่พระเจ้า เพราะว่าพระองค์ไม่ทรงปฏิเสธคำอธิษฐานของข้าพเจ้า และไม่ทรงเอาความรักมั่นคงของพระองค์ไปจากข้าพเจ้า
สดด. 69:13 ข้าแต่พระยาห์เวห์ แต่ส่วนข้าพระองค์ ข้าพระองค์อธิษฐานต่อพระองค์ ข้าแต่พระเจ้า ในเวลาอันเหมาะสม โดยความรักมั่นคงอันอุดมของพระองค์ ขอทรงตอบข้าพระองค์โดยการช่วยกู้ที่แน่นอนของพระองค์
สดด. 78:8 และเพื่อพวกเขาจะมิได้เหมือนบรรพบุรุษ ซึ่งเป็นชาติพันธุ์ที่ดื้อดึงและมักกบฏ ชาติพันธุ์ที่จิตใจไม่มั่นคง ผู้ซึ่งจิตวิญญาณของเขาไม่ซื่อตรงต่อพระเจ้า
สดด. 86:15 ข้าแต่องค์เจ้านาย แต่พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าแห่งพระกรุณาและพระคุณ กริ้วช้า และอุดมด้วยความรักมั่นคงและความซื่อสัตย์
สดด. 98:3 พระองค์ทรงระลึกถึงความรักมั่นคงและความซื่อสัตย์ของพระองค์ ต่อวงศ์วานอิสราเอล ที่สุดปลายแผ่นดินโลกทั้งสิ้นได้เห็นชัยชนะของพระเจ้าของเรา
สดด. 108:1 ข้าแต่พระเจ้า ใจของข้าพระองค์มั่นคง ข้าพระองค์จะร้องเพลง ข้าพระองค์จะเล่นดนตรีสดุดี ด้วยจิตใจของข้าพระองค์
สดด. 109:26 ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอทรงช่วยข้าพระองค์ ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้รอดตามความรักมั่นคงของพระองค์
สดด. 136:26 จงขอบพระคุณพระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์ เพราะความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงเป็นนิตย์
ยรม. 32:18 พระองค์ทรงสำแดงความรักมั่นคงต่อคนเป็นพันๆ แต่ทรงตอบสนองความผิดบาปของบิดาให้ตกถึงลูกหลานสืบต่อมา พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่และทรงฤทธิ์ พระนามของพระองค์คือพระยาห์เวห์จอมทัพ
ดนล. 9:4 ข้าพเจ้าได้อธิษฐานต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพเจ้า และสารภาพว่า “ข้าแต่องค์เจ้านาย พระเจ้าผู้ใหญ่ยิ่งและน่าเกรงขาม ผู้ทรงรักษาพันธสัญญาและความรักมั่นคงต่อผู้ที่รักพระองค์และปฏิบัติตามพระบัญญัติของพระองค์
ยอล. 2:13 จงฉีกใจของพวกเจ้า ไม่ใช่ฉีกเสื้อของเจ้า” จงกลับมาหาพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่าน เพราะว่าพระองค์ทรงเปี่ยมด้วยพระคุณและพระกรุณา พระองค์กริ้วช้าและบริบูรณ์ด้วยความรักมั่นคง และเปลี่ยนพระทัยไม่ลงโทษ
ยนา. 4:2 ท่านจึงอธิษฐานต่อพระยาห์เวห์ว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์ เมื่อข้าพระองค์ยังอยู่ในประเทศของข้าพระองค์ ข้าพระองค์พูดแล้วว่าจะเป็นเช่นนี้ไม่ใช่หรือ? นี่เป็นเหตุให้ข้าพระองค์รีบหนีไปเมืองทารชิช เพราะข้าพระองค์ทราบว่า พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงเปี่ยมด้วยพระคุณ และพระกรุณา กริ้วช้า และบริบูรณ์ด้วยความรักมั่นคง และเปลี่ยนพระทัยไม่ลงโทษ
มคา. 7:18 ใครเล่าจะเป็นพระเจ้าเหมือนพระองค์ผู้ทรงอภัยบาป และทรงมองข้ามการทรยศ ของคนที่เหลืออยู่อันเป็นมรดกของพระองค์ท่าน? พระองค์ท่านมิได้ทรงพระพิโรธเป็นนิตย์ เพราะพระองค์ท่านพอพระทัยในความรักมั่นคง
กจ. 11:23 เมื่อบารนาบัสไปถึงและได้เห็นพระคุณของพระเจ้าก็ปีติยินดี จึงเตือนคนเหล่านั้นให้ตั้งจิตใจมั่นคงในองค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยสิ้นสุดใจ
กจ. 13:34 ส่วนข้อที่ว่า พระเจ้าทรงให้พระองค์เป็นขึ้นจากตาย ไม่ให้เน่าเปื่อยอีกนั้น พระองค์ตรัสดังนี้ว่า ‘เราจะให้พรอันบริสุทธิ์และมั่นคงที่เราสัญญาไว้กับดาวิดแก่พวกท่าน’
รม. 4:20 ท่านไม่ได้หวั่นไหวแคลงใจในพระสัญญาของพระเจ้า แต่ท่านมีความเชื่อมั่นคง จึงถวายเกียรติแด่พระเจ้า
รม. 9:11 แม้ก่อนบุตรนั้นเกิดมา และยังไม่ได้ทำดีหรือชั่ว (เพื่อพระประสงค์ของพระเจ้าในการทรงเลือกนั้นจะตั้งมั่นคงอยู่
คส. 4:12 เอปาฟรัส ซึ่งเป็นคนหนึ่งในท่านและเป็นผู้รับใช้ของพระเยซูคริสต์ ก็ฝากคำทักทายมายังพวกท่านเช่นกัน เขาเพียรพยายามอธิษฐานเผื่อท่านอยู่เสมอ เพื่อว่าพวกท่านจะมั่นคง เป็นผู้ใหญ่และมีความมั่นใจในพระประสงค์ของพระเจ้าทั้งหมด
1ปต. 5:10 และหลังจากพวกท่านทนทุกข์ชั่วเวลาหนึ่งแล้ว พระเจ้าแห่งพระคุณทั้งสิ้น ผู้ได้ทรงเรียกให้พวกท่านเข้าในศักดิ์ศรีนิรันดร์ของพระองค์ในพระเยซู คริสต์ พระองค์เองก็จะทรงฟื้นฟู จะทรงค้ำจุนให้มั่นคง จะทรงเสริมเรี่ยวแรง และจะทรงให้พวกท่านตั้งมั่นอยู่
1ปต. 5:12 ข้าพเจ้าได้เขียนอย่างย่อๆ มาถึงพวกท่านผ่านทางสิลวานัส ซึ่งข้าพเจ้าถือว่าเป็นพี่น้องที่ซื่อสัตย์คนหนึ่ง ข้าพเจ้าหนุนใจและเป็นพยานแก่พวกท่านว่า นี่เป็นพระคุณแท้ของพระเจ้า จงตั้งมั่นคงอยู่ในพระคุณนั้น
พระวิญญาณสำคัญที่สุด
1ธส. 1:4 พี่น้องทั้งหลาย ผู้เป็นที่รักของพระเจ้า เราทราบแน่ว่าพระเจ้าได้ทรงเลือกสรรท่านทั้งหลายไว้แล้ว
1ธส. 1:5 และข่าวประเสริฐของเราที่มาถึงท่านไม่ได้มาด้วยถ้อยคำเท่านั้น แต่ด้วยฤทธิ์เดช ด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ และด้วยความมั่นใจอันเต็มเปี่ยม ท่านทั้งหลายรู้อยู่แล้วว่า เราเป็นคนอย่างไรในหมู่พวกท่านเพราะเห็นแก่ท่าน
1ธส. 1:6 และท่านก็ทำตามอย่างของเรา และขององค์พระผู้เป็นเจ้า โดยที่ท่านได้รับคำสอนนั้นด้วยความยากลำบากมาก แต่ท่านยังมีความชื่นชมยินดีซึ่งเกิดจากพระวิญญาณบริสุทธิ์
1ธส. 4:3 พระประสงค์ของพระเจ้าเป็นอย่างนี้คือ ให้พวกท่านเป็นคนบริสุทธิ์ คือให้เว้นจากการล่วงประเวณี
1ธส. 4:4 ให้ท่านทุกคนรู้จักบังคับร่างกายของตนในทางบริสุทธิ์ และในทางที่มีเกียรติ
1ธส. 4:5 ไม่ใช่ด้วยราคะตัณหาเหมือนอย่างคนต่างชาติที่ไม่รู้จักพระเจ้า
1ธส. 4:6 อย่าล่วงเกินและทำผิดต่อพี่น้องในเรื่องนี้เลย เพราะว่าองค์พระผู้เป็นเจ้า เป็นผู้ทรงลงโทษคนที่ทำผิดอย่างนั้น เหมือนอย่างที่เราได้เตือนสอนและบอกไว้ก่อนแล้ว
1ธส. 4:7 เพราะพระเจ้าไม่ได้ทรงเรียกเราให้เป็นคนลามก แต่ทรงเรียกให้เป็นคนบริสุทธิ์
1ธส. 4:8 เหตุฉะนั้นคนที่ปฏิเสธคำสอนนี้ไม่ได้ปฏิเสธมนุษย์เท่านั้น แต่ได้ปฏิเสธพระเจ้า ผู้ประทานพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์ให้แก่ท่าน
มัทธิว 24:12 THSV11 ความรักของคนจำนวนมากจะเยือกเย็นลงเพราะความอธรรมแผ่กว้างออกไป
ยุทธภัณฑ์ทั้งชุดของพระเจ้า
ผลพระวิญญาณ
กท. 5:16 แต่ข้าพเจ้าขอบอกว่าจงดำเนินชีวิตตามพระวิญญาณ แล้วท่านจะไม่สนองความต้องการของเนื้อหนัง
กท. 5:17 เพราะว่าความต้องการของเนื้อหนังขัดแย้งพระวิญญาณ และพระวิญญาณก็ขัดแย้งเนื้อหนัง เพราะทั้งสองฝ่ายต่อสู้กัน ดังนั้นท่านทั้งหลายจึงไม่สามารถทำสิ่งที่ท่านปรารถนาจะทำ
กท. 5:18 แต่ถ้าท่านทั้งหลายได้รับการทรงนำโดยพระวิญญาณ ท่านก็ไม่อยู่ใต้ธรรมบัญญัติ
กท. 5:19 การงานของเนื้อหนังนั้นเห็นได้ชัด คือการล่วงประเวณี การโสโครก การเสเพล
กท. 5:20 การนับถือรูปเคารพ การถือวิทยาคม การเป็นศัตรูกัน การวิวาทกัน การริษยากัน การฉุนเฉียวกัน การใฝ่สูง การทุ่มเถียงกัน การแตกก๊กกัน
กท. 5:21 การอิจฉากัน การเมาเหล้า การเล่นเป็นพาลเกเร และการอื่นๆ ในทำนองนี้ซึ่งข้าพเจ้าเคยเตือนพวกท่านมาก่อนว่า คนที่ประพฤติเช่นนั้นจะไม่มีส่วนในแผ่นดินของพระเจ้า
กท. 5:22 ส่วนผลของพระวิญญาณนั้น คือความรัก ความยินดี สันติสุข ความอดทน ความกรุณา ความดี ความซื่อสัตย์
กท. 5:23 ความสุภาพอ่อนโยน การรู้จักบังคับตน เรื่องอย่างนี้ไม่มีธรรมบัญญัติห้ามไว้เลย
กท. 5:24 ผู้ที่อยู่ฝ่ายพระเยซูคริสต์ได้ตรึงเนื้อหนังไว้ที่กางเขนพร้อมกับราคะและตัณหาแล้ว
กท. 5:25 ถ้าเรามีชีวิตอยู่โดยพระวิญญาณ ก็จงดำเนินชีวิตตามพระวิญญาณด้วย
กท. 5:26 เราอย่าอวดตัว อย่ายั่วโทสะกัน และอย่าอิจฉากันเลย
อสย. 32:15 จนกว่าจะทรงเทพระวิญญาณจากเบื้องบนลงมาบนเรา แล้วถิ่นทุรกันดารจะกลายเป็นสวนผลไม้ และสวนผลไม้นั้นจะถือเสมือนว่าเป็นป่า
กจ. 4:25 พระองค์ตรัสไว้โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ ด้วยปากของดาวิดบรรพบุรุษของเรา ผู้รับใช้ของพระองค์ ว่า ‘ทำไมคนต่างชาติจึงหยิ่งยโส และชนชาติทั้งหลายปองร้ายกันแต่ไม่เป็นผล
รม. 8:23 และไม่ใช่เท่านั้น แต่เราเองด้วย ผู้ได้รับพระวิญญาณเป็นผลแรก ตัวเราเองก็ยังคร่ำครวญคอยการที่พระเจ้าจะทรงให้มีฐานะเป็นบุตร คือที่จะทรงไถ่กายของเรา
วว. 2:7 ใครมีหูก็ให้ฟังข้อความที่พระวิญญาณตรัสกับคริสตจักรทั้งหลาย คนที่ชนะ เราจะให้เขากินผลจากต้นไม้ที่ให้ชีวิต ที่อยู่ในเมืองบรมสุขเกษมของพระเจ้า” ’
รักแบบนี้ก็มีที่ว่า พระเจ้าทรงเป็นความรัก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น