รม. 8:28 เรารู้ว่าเหตุการณ์ทุกอย่างร่วมกันก่อผลดีแก่คนที่รักพระเจ้า คือแก่คนทั้งหลายที่พระองค์ทรงเรียกตามพระประสงค์ของพระองค์
1คร. 8:3 แต่ถ้าใครรักพระเจ้า พระเจ้าก็ทรงรู้จักผู้นั้น
1ยน. 4:10 ความรักที่ข้าพเจ้าพูดถึงนี้ไม่ใช่ที่เรารักพระเจ้า แต่ที่พระองค์ทรงรักเรา และทรงใช้พระบุตรของพระองค์มา เพื่อเป็นเครื่องบูชาลบบาปของเรา
1ยน. 4:20 ถ้าใครกล่าวว่า “ข้าพเจ้ารักพระเจ้า” แต่ใจยังเกลียดชังพี่น้องของตน เขาเป็นคนพูดมุสา เพราะว่าผู้ที่ไม่รักพี่น้องของตนที่มองเห็นแล้ว จะรักพระเจ้าที่มองไม่เห็นไม่ได้
1ยน. 4:21 พระบัญญัตินี้เราได้มาจากพระองค์ คือให้คนที่รักพระเจ้านั้นรักพี่น้องของตนด้วย
1ยน. 5:2 โดยข้อนี้ เราจึงรู้ว่าเรารักคนทั้งหลายที่เป็นลูกของพระเจ้า คือเมื่อเรารักพระเจ้า และประพฤติตามพระบัญญัติของพระองค์
ฉธบ. 6:5 ท่านจงรักพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านด้วยสุดจิตสุดใจและสุดกำลังของท่าน
ฉธบ. 11:1 “ฉะนั้นท่านจงรักพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน จงรักษาพระดำรัสสั่ง กฎเกณฑ์ กฎหมาย และพระบัญญัติของพระองค์อยู่เสมอ
ฉธบ. 11:13 “ถ้าท่านจะตั้งใจเชื่อฟังตามบัญญัติของข้าพเจ้าซึ่งข้าพเจ้าบัญชาท่านไว้ในวันนี้ ให้รักพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทั้งหลายและปรนนิบัติพระองค์ด้วยสุดจิตสุดใจของท่าน
ฉธบ. 11:22 เพราะถ้าพวกท่านระวังที่จะทำตามพระบัญญัติทั้งปวงซึ่งข้าพเจ้าได้บัญชาท่าน คือรักพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ดำเนินในทางทั้งสิ้นของพระองค์ และติดสนิทกับพระองค์แล้ว
ฉธบ. 19:9 เมื่อท่านรักษาพระบัญญัติทั้งสิ้นซึ่งข้าพเจ้าบัญชาท่านในวันนี้และทำตาม ให้ท่านรักพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน และดำเนินอยู่ในพระมรรคาของพระองค์เสมอ แล้วท่านจงเพิ่มเมืองอีกสามเมืองนอกจากสามเมืองเหล่านั้น
ฉธบ. 30:6 แล้วพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะประทานใจเชื่อฟังแก่ท่านและแก่บุตรหลานของท่าน เพื่อท่านจะได้รักพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านด้วยสุดจิตสุดใจของท่าน เพื่อท่านทั้งหลายจะมีชีวิตอยู่ได้
ฉธบ. 30:16 คือในการที่ข้าพเจ้าได้บัญชาท่านในวันนี้ ให้รักพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ให้ดำเนินในพระมรรคาทั้งหลายของพระองค์และให้รักษาพระบัญญัติ กฎเกณฑ์ และกฎหมายของพระองค์ แล้วท่านจะมีชีวิตอยู่และทวีมากขึ้น และพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะทรงอวยพรแก่ท่านในแผ่นดินซึ่งท่านเข้าไปยึดครองนั้น
ฉธบ. 30:20 เพื่อที่จะรักพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน เชื่อฟังพระสุรเสียงของพระองค์ และผูกพันกับพระองค์ ทำเช่นนั้นท่านจะได้ชีวิตและวันเวลาของท่านจะยืนนาน เพื่อท่านจะได้อยู่ในแผ่นดินซึ่งพระยาห์เวห์ทรงปฏิญาณแก่บรรพบุรุษของท่าน คือแก่อับราฮัม แก่อิสอัค และแก่ยาโคบว่าจะประทานแก่ท่านเหล่านั้น”
ยชว. 22:5 เพียงแต่จงระวังให้มากที่จะปฏิบัติตามพระบัญญัติ และกฎหมายซึ่งโมเสสผู้รับใช้ของพระยาห์เวห์บัญชาท่านไว้ คือให้รักพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน และดำเนินในพระมรรคาทั้งสิ้นของพระองค์ และรักษาพระบัญญัติของพระองค์ และยึดมั่นอยู่กับพระองค์ และปรนนิบัติพระองค์ด้วยสุดจิตสุดใจของท่าน”
ยชว. 23:11 จงรักษาตัวให้ดีที่จะรักพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน
1พกษ. 3:3 ซาโลมอนทรงรักพระยาห์เวห์ ทรงดำเนินตามกฎเกณฑ์ของดาวิดพระราชบิดาของพระองค์ เว้นแต่พระองค์ทรงถวายสัตวบูชาและทรงเผาเครื่องหอมที่ปูชนียสถานสูง
สดด. 31:23 ท่านผู้จงรักภักดีทั้งสิ้นของพระองค์ จงรักพระยาห์เวห์ พระยาห์เวห์ทรงปกป้องคนซื่อสัตย์ แต่ทรงตอบแทนผู้ทำการยโสอย่างเต็มขนาด
สดด. 97:10 บรรดาผู้รักพระยาห์เวห์เอ๋ย จงเกลียดชังความชั่ว พระองค์ทรงอารักขาชีวิตผู้จงรักภักดีของพระองค์ พระองค์ทรงช่วยกู้พวกเขาให้พ้นจากมือคนอธรรม
สดด. 116:1 ข้าพเจ้ารักพระยาห์เวห์ เพราะพระองค์ทรงฟังเสียงและคำวิงวอนของข้าพเจ้า
ยชว. 1:11 “จงไปในค่ายสั่งประชาชนว่า ‘จงเตรียมเสบียงอาหารไว้ เพราะว่าภายในสามวันพวกท่านจะต้องข้ามแม่น้ำจอร์แดนนี้ เพื่อเข้าไปยึดครองแผ่นดินซึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านประทานให้พวกท่านยึดครอง’ ”
อฟ. 6:17 จงเอาความรอดเป็นหมวกเหล็กป้องกันศีรษะ และจงถือพระแสงของพระวิญญาณคือพระวจนะของพระเจ้า
อฟ. 6:18 จงอธิษฐานในพระวิญญาณทุกเวลาโดยการอธิษฐานและการวิงวอนทุกๆ อย่าง เพราะเหตุนี้จงเฝ้าระวังด้วยความเพียรและด้วยการวิงวอนเผื่อธรรมิกชนทุกคนอยู่เสมอ
ยชว. 1:15 จนกว่าพระยาห์เวห์จะประทานที่พักแก่พี่น้องของท่านดังที่ประทานแก่ท่าน ทั้งให้เขาได้ยึดครองแผ่นดินซึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านประทานแก่เขา แล้วท่านจึงจะกลับไปยังแผ่นดินที่ท่านยึดครองและถือไว้เป็นกรรมสิทธิ์ คือแผ่นดินซึ่งโมเสสผู้รับใช้ของพระยาห์เวห์ได้ให้แก่พวกท่านที่ฟากแม่น้ำจอร์แดนข้างโน้นทางทิศตะวันออก”
ยชว. 12:1 ต่อไปนี้เป็นกษัตริย์ซึ่งประชาชนอิสราเอลได้ทำให้พ่ายแพ้ไป และได้ยึดครองแผ่นดินฟากตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน จากลุ่มน้ำอารโนนถึงภูเขาเฮอร์โมน และแถบที่ราบทั้งหมดด้านตะวันออก
ยชว. 13:1 เมื่อโยชูวาชราลงมีอายุมากแล้ว พระยาห์เวห์ตรัสกับท่านว่า “เจ้าชราลงมีอายุมากแล้ว แต่แผ่นดินที่จะต้องยึดครองนั้นยังมีอีกมาก
ยชว. 17:12 แต่คนมนัสเสห์ยังไม่สามารถยึดครองเมืองเหล่านั้นได้ และคนคานาอันยังคงอาศัยอยู่ในแผ่นดินนั้น
ยชว. 17:18 แต่แดนเทือกเขาก็เป็นของท่าน ถึงแม้ว่าเป็นป่าดอน ท่านจงแผ้วถางและยึดครองไปจนสุดเขตเถิด แม้ว่าคนคานาอันจะมีรถรบทำด้วยเหล็ก และเป็นคนเข้มแข็ง ท่านก็จะขับไล่เขาออกไปได้”
ยชว. 18:3 ดังนั้นโยชูวาจึงกล่าวแก่ประชาชนอิสราเอลว่า “พวกท่านจะรอช้าอยู่อีกนานเท่าใดจึงจะเข้าไปยึดครองที่ดินซึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของบรรพบุรุษของท่านประทานแก่พวกท่าน?
ยชว. 19:47 เมื่อดินแดนของพงศ์พันธุ์ดานหลุดมือเขาไป พงศ์พันธุ์ดานก็ขึ้นไปสู้รบกับเมืองเลเชม เมื่อยึดได้ก็ประหารเสียด้วยดาบ จึงยึดครองเมืองและตั้งอยู่ที่นั่น เรียกเมืองเลเชมว่าดาน ตามชื่อของดานบรรพบุรุษของตน
ยชว. 23:5 พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทั้งหลายจะทรงผลักดันพวกเขาออกไปให้พ้นหน้าท่าน และทรงขับไล่เขาออกไปให้พ้นสายตาของท่าน และท่านจะได้ยึดครองแผ่นดินของเขา ดังที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงสัญญาไว้ต่อท่าน
ยชว. 24:8 แล้วเราก็นำพวกเจ้ามาที่แผ่นดินของคนอาโมไรต์ ซึ่งอยู่ที่ฟากตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน พวกเขาสู้รบกับเจ้า และเราได้มอบเขาไว้ในมือของเจ้าและพวกเจ้ายึดครองแผ่นดินของเขา และเราก็ทำลายเขาให้พ้นหน้าเจ้า
วนฉ. 1:19 และพระยาห์เวห์สถิตกับยูดาห์ เขาจึงยึดครองแดนเทือกเขา แต่ไม่อาจขับไล่ผู้ที่อยู่ในหุบเขา เพราะพวกนั้นมีรถรบเหล็ก
วนฉ. 2:6 เมื่อโยชูวาให้ประชาชนแยกย้ายไป คนอิสราเอลต่างก็เข้าไปยึดครองที่ดินที่เป็นมรดกของตน
วนฉ. 18:9 พวกเขาตอบว่า “จงลุกขึ้น ให้เราขึ้นไปรบกับพวกนั้นเถิด เพราะเราได้เห็นแผ่นดินนั้นแล้ว นี่แน่ะ มันดีจริงๆ ท่านทั้งหลายจะเฉยอยู่ทำไม? อย่าชักช้าที่จะไปยึดครองแผ่นดินนั้นเลย
2ทธ. 3:4 ทรยศ มุทะลุ โอหัง รักความสนุกมากกว่ารักพระเจ้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น