ปญจ. 5:10 คนรักเงินย่อมไม่อิ่มเงิน และคนรักสมบัติก็ไม่อิ่มกับผลตอบแทน นี่ก็อนิจจังด้วย
ฮชย. 9:1 โอ อิสราเอลเอ๋ย อย่ายินดี อย่าเปรมปรีดิ์อย่างชนชาติทั้งหลายเลย เพราะเจ้าเล่นชู้นอกใจพระเจ้าของเจ้า เจ้ารักเงินค่าจ้างของหญิงโสเภณี ตามบรรดาลานนวดข้าว
กดว. 14:24 แต่ส่วนคาเลบผู้รับใช้ของเรา เนื่องจากเขามีจิตใจที่แตกต่างและได้ติดตามเราอย่างสุดใจ เราจะนำเขาไปถึงแผ่นดินที่เขาเข้าไปนั้น และพงศ์พันธุ์ของเขาจะได้เป็นกรรมสิทธิ์
ฉธบ. 4:29 แต่ ณ ที่นั่นแหละท่านทั้งหลายจะแสวงหาพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ถ้าท่านค้นหาพระองค์ด้วยสุดจิตและสุดใจ ท่านจะพบพระองค์
ฉธบ. 6:5 ท่านจงรักพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านด้วยสุดจิตสุดใจและสุดกำลังของท่าน
ฉธบ. 10:12 “และบัดนี้ คนอิสราเอล พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านมีพระประสงค์อะไรจากท่าน? นอกจากให้ยำเกรงพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ให้ดำเนินตามทางทั้งสิ้นของพระองค์ ให้รักพระองค์ ให้ปรนนิบัติพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านด้วยสุดจิตสุดใจของท่าน
ฉธบ. 30:6 แล้วพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะประทานใจเชื่อฟังแก่ท่านและแก่บุตรหลานของท่าน เพื่อท่านจะได้รักพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านด้วยสุดจิตสุดใจของท่าน เพื่อท่านทั้งหลายจะมีชีวิตอยู่ได้
มธ. 22:37 พระเยซูทรงตอบเขาว่า “ ‘จงรักองค์พระผู้เป็นเจ้าของท่านด้วยสุดใจของท่านด้วยสุดจิตของท่าน’ และด้วยสุดความคิดของท่าน
มก. 12:30 พวกท่านจงรักองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้เป็นพระเจ้าด้วยสุดใจของท่าน ด้วยสุดจิตของท่าน ด้วยสุดความคิดของท่านและด้วยสุดกำลังของท่าน
ลก. 10:27 เขาทูลตอบว่า “พวกท่านจงรักองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้เป็นพระเจ้าของท่านด้วยสุดใจของท่าน ด้วยสุดจิตของท่าน ด้วยสุดกำลังของท่าน และด้วยสุดความคิดของท่าน และจงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง ”
1ทธ. 6:10 เพราะว่าการรักเงินทองเป็นรากเหง้าของความชั่วทั้งหมด ความโลภเงินทองนี้ที่ทำให้บางคนหลงไปจากความเชื่อ และตรอมตรมด้วยความทุกข์มากมาย
2ทธ. 3:2 เพราะผู้คนจะเห็นแก่ตัว รักเงินทอง โอ้อวด หยิ่งยโส ชอบดูหมิ่น ไม่เชื่อฟังพ่อแม่ อกตัญญู ชั่วร้าย
ฉธบ. 11:13 “ถ้าท่านจะตั้งใจเชื่อฟังตามบัญญัติของข้าพเจ้าซึ่งข้าพเจ้าบัญชาท่านไว้ในวันนี้ ให้รักพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทั้งหลายและปรนนิบัติพระองค์ด้วยสุดจิตสุดใจของท่าน
สดด. 10:3 เพราะคนอธรรมอวดสิ่งที่จิตใจเขาปรารถนา และคนโลภแช่งด่าประณามพระยาห์เวห์
สภษ. 21:26 คนโลภก็โลภอยู่วันยังค่ำ แต่คนชอบธรรมให้อย่างไม่อั้น
ฉธบ. 7:25 ท่านทั้งหลายจงเผารูปแกะสลักซึ่งเป็นรูปพระทั้งหลายของพวกเขาด้วยไฟ ห้ามโลภเงินหรือทองซึ่งปิดรูปพระอยู่นั้น หรือนำไปเป็นของท่าน เกรงว่าท่านจะหลงสิ่งนั้น เพราะมันเป็นสิ่งพึงรังเกียจแด่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน
ยชว. 7:21 ท่ามกลางสิ่งของที่ริบมา ข้าพเจ้าเห็นเสื้อคลุมงามตัวหนึ่งของเมืองบาบิโลนกับเงินสองกิโลกรัม และทองคำแท่งหนึ่งหนักประมาณครึ่งกิโลกรัม ข้าพเจ้าก็โลภอยากได้ของเหล่านั้น ข้าพเจ้าจึงเอามา นี่แน่ะ ของเหล่านั้นซ่อนอยู่ใต้ดินในเต็นท์ของข้าพเจ้า เงินนั้นอยู่ข้างล่าง”
1คร. 6:10 พวกขโมย พวกที่โลภ พวกขี้เมา พวกชอบกล่าวร้าย พวกฉ้อโกง จะไม่มีส่วนในแผ่นดินของพระเจ้า
ทต. 1:7 เพราะว่าผู้ปกครองดูแล ซึ่งเป็นผู้รับมอบฉันทะของพระเจ้า ต้องไม่มีข้อตำหนิ ไม่เย่อหยิ่ง ไม่อารมณ์ร้อน ไม่ดื่มสุรามึนเมา ไม่ชอบความรุนแรง และไม่เป็นคนโลภมักได้
ยก. 4:2 ท่านทั้งหลายอยากได้แต่ไม่ได้ ท่านก็ฆ่ากัน พวกท่านโลภแต่ไม่ได้ ท่านก็ทะเลาะและทำสงครามกัน ท่านไม่มีเพราะไม่ได้ขอ
1ปต. 5:2 จงเลี้ยงฝูงแกะของพระเจ้าที่อยู่ท่ามกลางพวกท่าน โดยเอาใจใส่ดูแล ไม่ใช่ด้วยความฝืนใจ แต่ด้วยความเต็มใจ ตามพระประสงค์ของพระเจ้า ไม่ใช่ด้วยใจโลภในทรัพย์สิ่งของ แต่ด้วยใจกระตือรือร้น
สดด. 50:15 และจงร้องทูลเราในวันยากลำบาก เราจะช่วยกู้เจ้า และเจ้าจะถวายเกียรติแก่เรา”
มลค. 2:2 พระยาห์เวห์จอมทัพตรัสว่า ถ้าเจ้าไม่ฟัง และถ้าเจ้าไม่จำใส่ใจที่จะถวายเกียรติแก่นามของเรา เราจะส่งคำแช่งมาให้เจ้า และเราจะสาปแช่งพระพรซึ่งเคยมาถึงเจ้า เราได้สาปแช่งพระพรนั้นแล้วนะ เพราะเจ้าไม่จำใส่ใจไว้
รม. 4:20 ท่านไม่ได้หวั่นไหวแคลงใจในพระสัญญาของพระเจ้า แต่ท่านมีความเชื่อมั่นคง จึงถวายเกียรติแด่พระเจ้า
ฉธบ. 13:3 ท่านอย่าเชื่อฟังคำของผู้เผยพระวจนะหรือผู้ฝันเห็นเหตุการณ์คนนั้น เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่านทรงลองใจพวกท่านดู เพื่อจะได้ทรงทราบว่าพวกท่านรักพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านด้วยสุดจิตสุดใจของท่านหรือไม่?
ฉธบ. 26:16 “วันนี้พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงบัญชาท่านให้ทำตามกฎเกณฑ์และกฎหมายเหล่านี้ ฉะนั้นท่านจงระวังที่จะทำตามด้วยสุดจิตสุดใจของท่าน
ฉธบ. 30:2 และท่านก็หันกลับมาหาพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ทั้งตัวท่านและลูกหลานของท่าน และเชื่อฟังพระสุรเสียงของพระองค์ในทุกสิ่งทุกอย่างซึ่งข้าพเจ้าได้บัญชาท่านในวันนี้ด้วยสุดจิตสุดใจของท่าน
ฉธบ. 30:10 ถ้าท่านฟังพระสุรเสียงของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน โดยรักษาพระบัญญัติและกฎเกณฑ์ของพระองค์ ซึ่งจารึกไว้ในหนังสือแห่งธรรมบัญญัตินี้ ถ้าท่านทั้งหลายหันกลับมาหาพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านด้วยสุดจิตสุดใจของท่าน
ยชว. 22:5 เพียงแต่จงระวังให้มากที่จะปฏิบัติตามพระบัญญัติ และกฎหมายซึ่งโมเสสผู้รับใช้ของพระยาห์เวห์บัญชาท่านไว้ คือให้รักพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน และดำเนินในพระมรรคาทั้งสิ้นของพระองค์ และรักษาพระบัญญัติของพระองค์ และยึดมั่นอยู่กับพระองค์ และปรนนิบัติพระองค์ด้วยสุดจิตสุดใจของท่าน”
1พกษ. 2:4 เพื่อพระยาห์เวห์จะสถาปนาพระวจนะของพระองค์ ซึ่งพระองค์ตรัสเกี่ยวกับเราว่า ‘ถ้าลูกหลานของเจ้าระมัดระวังที่จะดำเนินในทางของเขาต่อหน้าเรา ด้วยความซื่อสัตย์ ด้วยสุดจิตสุดใจของเขาแล้ว เจ้าจะไม่ขาดทายาทที่จะนั่งบนบัลลังก์ของอิสราเอล’
1พกษ. 8:48 ถ้าเขาทั้งหลายกลับมาหาพระองค์ด้วยสุดจิตสุดใจ ในแผ่นดินแห่งศัตรูผู้จับเขาไปเป็นเชลย และอธิษฐานต่อพระองค์ตรงไปยังแผ่นดิน ซึ่งพระองค์ประทานแก่บรรพบุรุษของเขาทั้งหลาย คือเมืองซึ่งพระองค์ทรงเลือกสรรไว้ และพระนิเวศซึ่งข้าพระองค์ได้สร้างไว้เพื่อพระนามของพระองค์แล้ว
2พกษ. 23:3 พระราชาทรงยืนข้างเสา และทรงทำพันธสัญญาเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ ว่าจะดำเนินตามพระยาห์เวห์ และจะรักษาพระบัญญัติ พระโอวาท และกฎเกณฑ์ของพระองค์ ด้วยสุดจิตสุดใจ จะสถาปนาถ้อยคำของพันธสัญญานี้ที่เขียนไว้ในหนังสือนี้ แล้วประชาชนทั้งหมดก็เข้าร่วมในพันธสัญญานั้น
2พกษ. 23:25 ก่อนพระองค์ก็ไม่มีพระราชาองค์ใดเหมือนพระองค์ ผู้หันกลับมาหาพระยาห์เวห์ด้วยสุดจิตสุดใจและด้วยสุดกำลังตามธรรมบัญญัติทั้งสิ้นของโมเสส หลังพระองค์ก็ไม่มีพระราชาองค์ใดขึ้นมาเหมือนพระองค์
2พศด. 6:38 ถ้าเขาทั้งหลายกลับมาหาพระองค์ด้วยสุดจิตสุดใจของเขา ในแผ่นดินที่เขาไปเป็นเชลย ที่ซึ่งพวกเขาถูกจับไปเป็นเชลย และอธิษฐานต่อพระองค์ตรงต่อแผ่นดิน ซึ่งพระองค์ประทานแก่บรรพบุรุษของเขาทั้งหลาย คือเมืองซึ่งพระองค์ทรงเลือกสรรไว้ และพระนิเวศซึ่งข้าพระองค์ได้สร้างไว้เพื่อพระนามของพระองค์
2พศด. 15:12 และเขาทั้งหลายทำพันธสัญญาที่จะแสวงหาพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของเขา ด้วยสุดจิตสุดใจของพวกเขา
ยรม. 32:41 เราจะยินดีทำความดีแก่เขา และเราจะตั้งเขาไว้ในแผ่นดินนี้อย่างมั่นคง ด้วยสุดใจและสุดจิตของเรา
กจ. 11:23 เมื่อบารนาบัสไปถึงและได้เห็นพระคุณของพระเจ้าก็ปีติยินดี จึงเตือนคนเหล่านั้นให้ตั้งจิตใจมั่นคงในองค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยสิ้นสุดใจ
อพย. 20:17 “ห้ามโลภบ้านเรือนของเพื่อนบ้าน ห้ามโลภภรรยาของเพื่อนบ้าน หรือทาสทาสีของเขา หรือโค ลาของเขา หรือสิ่งใดๆ ซึ่งเป็นของของเพื่อนบ้าน”
ฉธบ. 5:21 ‘ห้ามโลภภรรยาของเพื่อนบ้าน และห้ามละโมบบ้านของเพื่อนบ้าน ไร่นาของเขา หรือทาสของเขา หรือทาสีของเขา โคของเขา หรือลาของเขา หรือสิ่งใดๆ ซึ่งเป็นของของเพื่อนบ้าน’
โยบ 20:20 “เพราะความโลภของเขาไม่รู้จักพอ เขาจะไม่ปล่อยสิ่งที่เขาปรารถนาไปเลย
ทต. 1:11 จำเป็นต้องให้เขาสงบปากสงบคำ เนื่องจากพวกเขาคว่ำทั้งครัวเรือน โดยสอนสิ่งที่ไม่ควรจะสอนเพราะโลภมักได้
สภษ. 28:25 คนโลภเร้าให้เกิดการวิวาท แต่ผู้ที่วางใจในพระยาห์เวห์จะเจริญรุ่งเรือง
อสย. 57:17 เราโกรธเนื่องด้วยบาปเรื่องความโลภของเขา เราตีเขา เราซ่อนหน้าด้วยความโกรธ แต่เขายังเดินกลับไปยังวิถีของใจเขาเอง
ยรม. 6:13 “เพราะว่า ตั้งแต่คนต่ำต้อยที่สุดจนถึงคนใหญ่โตที่สุด ทุกคนโลภอยากได้กำไรที่ไม่ยุติธรรม และทุกคนต่างฉ้อฉล ตั้งแต่ผู้เผยพระวจนะจนถึงปุโรหิต
ยรม. 8:10 เพราะฉะนั้น เราจะให้ภรรยาของพวกเขาตกไปเป็นของคนอื่น ให้ไร่นาของเขาตกแก่ผู้ที่จะยึดเอา เพราะว่าตั้งแต่คนต่ำต้อยที่สุดถึงคนใหญ่โตที่สุด ทุกคนโลภอยากได้กำไรที่ไม่ยุติธรรม ตั้งแต่ผู้เผยพระวจนะถึงปุโรหิต ทุกคนต่างฉ้อฉล
มคา. 2:2 พวกเขาโลภที่นา แล้วก็ยึดเอาไป พวกเขาโลภบ้านเรือนและก็ริบไปเสีย พวกเขากดขี่คนและครัวเรือนของเขา และกดขี่คนกับทรัพย์สินของเขา
มก. 4:19 แล้วความกังวลของโลก และความลุ่มหลงในทรัพย์สมบัติ และความโลภในสิ่งต่างๆ ประดังเข้ามา และรัดพระวจนะนั้น จึงไม่เกิดผล
มก. 7:22 การเป็นชู้ การโลภ การอธรรม การล่อลวง ราคะตัณหา การอิจฉา การใส่ร้าย ความเย่อหยิ่ง ความเขลา
ลก. 11:39 องค์พระผู้เป็นเจ้าจึงตรัสกับเขาว่า “พวกท่านซึ่งเป็นฟาริสีย่อมชำระถ้วยชามแต่เพียงภายนอก แต่ภายในพวกท่านเต็มไปด้วยความโลภและความชั่วร้าย
ลก. 12:15 แล้วพระองค์ตรัสกับพวกเขาว่า “ระวังให้ดี จงหลีกเลี่ยงจากความโลภทุกอย่าง เพราะว่าชีวิตของคนไม่ได้อยู่ที่การมีของฟุ่มเฟือย”
กจ. 20:33 ข้าพเจ้าไม่ได้โลภเงินหรือทองหรือเสื้อผ้าของใครเลย
รม. 1:29 พวกเขาเต็มด้วยการอธรรมทุกชนิด ความชั่วร้าย ความโลภ ความมุ่งร้าย ความอิจฉาริษยา การฆ่าฟัน การวิวาท การหลอกลวง การคิดร้าย พูดนินทา
รม. 7:7 ถ้าอย่างนั้นเราจะว่าอย่างไร? จะว่าธรรมบัญญัติคือบาปหรือ? เปล่าเลย แต่ว่าถ้าไม่มีธรรมบัญญัติแล้ว ข้าพเจ้าก็คงไม่รู้จักบาป เพราะว่าถ้าธรรมบัญญัติไม่ได้ห้ามว่า “ห้ามโลภ” ข้าพเจ้าก็คงไม่รู้ว่าอะไรคือความโลภ
รม. 7:8 แต่ว่าบาปได้ฉวยโอกาสใช้ข้อบัญญัตินั้น ทำให้ความโลภทุกอย่างเกิดขึ้นในตัวข้าพเจ้า เพราะว่าถ้าไม่มีธรรมบัญญัติ บาปเป็นสิ่งที่ตายแล้ว
รม. 13:9 ข้อที่ว่า “ห้ามล่วงประเวณีผัวเมียเขา ห้ามฆ่าคน ห้ามลักทรัพย์ ห้ามโลภ ” ทั้งพระบัญญัติอื่นๆ ก็รวมอยู่ในข้อนี้คือ “จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง”
1คร. 5:10 แต่ไม่ใช่ห้ามคบทุกคนในโลกนี้ที่เป็นคนล่วงประเวณี คนโลภ คนฉ้อโกงหรือคนไหว้รูปเคารพ ถ้าห้ามอย่างนั้นพวกท่านก็ต้องออกไปจากโลกนี้
1คร. 5:11 แต่บัดนี้ข้าพเจ้ากำลังเขียนบอกพวกท่านว่า จงอย่าคบคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพี่น้องแล้ว แต่ยังล่วงประเวณี โลภ ไหว้รูปเคารพ ชอบกล่าวร้าย เป็นคนขี้เมา และเป็นคนฉ้อโกง แม้จะกินด้วยก็อย่าเลย
คส. 3:5 เพราะฉะนั้นจงประหารโลกียวิสัยในตัวท่าน คือการล่วงประเวณี การโสโครก ราคะตัณหา ความปรารถนาชั่ว และความโลภ (ซึ่งเป็นการบูชารูปเคารพ)
1ธส. 2:5 ท่านก็รู้อยู่และพระเจ้าทรงเป็นพยานฝ่ายเราว่าเราไม่ได้ใช้คำยกยอใดๆ หรือคำพูดเคลือบคลุมเพื่อความโลภ
1ทธ. 3:8 พวกมัคนายกก็เหมือนกัน จะต้องเป็นคนน่านับถือ ไม่เป็นคนพูดจากลับกลอก ไม่ดื่มสุรามึนเมา ไม่เป็นคนโลภเห็นแก่ได้
1ทธ. 6:10 เพราะว่าการรักเงินทองเป็นรากเหง้าของความชั่วทั้งหมด ความโลภเงินทองนี้ที่ทำให้บางคนหลงไปจากความเชื่อ และตรอมตรมด้วยความทุกข์มากมาย
2ปต. 2:3 และพวกสอนเท็จจะหาผลประโยชน์จากท่านทั้งหลายด้วยนิยายที่แต่งขึ้นโดยใจโลภ การลงโทษคนเหล่านั้นที่ได้ประกาศไว้นานมาแล้วจะไม่เนิ่นช้า และความพินาศที่จะเกิดกับพวกเขาก็จะไม่นิ่งเฉย
2ปต. 2:14 ดวงตาของพวกเขามีแววที่เปี่ยมด้วยความใคร่ในการล่วงประเวณี ไม่สิ้นความกระหายในบาป พวกเขาล่อลวงคนที่ใจไม่มั่นคง ใจของพวกเขาชินกับความโลภ เขาเหล่านั้นเป็นพงศ์พันธุ์ที่ต้องคำสาป
อพย. 10:9 โมเสสทูลว่า “พวกข้าพระบาทจะพากันไปทั้งคนหนุ่มและผู้อาวุโส ทั้งบุตรชายและบุตรหญิง และฝูงแพะแกะและฝูงโค เพราะพวกข้าพระบาทมีเทศกาลเลี้ยงถวายเกียรติพระยาห์เวห์”
อพย. 12:14 “วันนี้จะเป็นวันที่ระลึกสำหรับพวกเจ้า ให้เจ้าทั้งหลายฉลองเป็นเทศกาลเลี้ยงถวายเกียรติพระยาห์เวห์ชั่วชาติพันธุ์ของพวกเจ้า พวกเจ้าจงฉลองเทศกาลเลี้ยงนี้และถือเป็นกฎถาวร
อพย. 13:6 จงกินขนมปังไร้เชื้อเป็นเวลาเจ็ดวัน และวันที่เจ็ดจงมีเทศกาลเลี้ยงถวายเกียรติพระยาห์เวห์
อพย. 32:5 เมื่ออาโรนเห็นดังนั้นแล้ว จึงสร้างแท่นบูชาไว้ ตรงหน้ารูปโคนั้น แล้วอาโรนประกาศว่า “พรุ่งนี้จะเป็นวันเทศกาลเลี้ยงถวายเกียรติพระยาห์เวห์”
วนฉ. 9:9 แต่ต้นมะกอกตอบว่า ‘จะให้ฉันหยุดผลิตน้ำมันซึ่งเขาใช้ถวายเกียรติแด่พระและแก่มนุษย์ เพื่อไปกวัดแกว่งอยู่เหนือต้นไม้ทั้งหลายหรือ?’
อสย. 24:15 เพราะฉะนั้น จงถวายเกียรติแด่พระยาห์เวห์จากตะวันออก แด่พระนามของพระยาห์เวห์ พระเจ้าของอิสราเอลจากแผ่นดินชายทะเล
ยน. 5:23 เพื่อทุกคนจะได้ถวายพระเกียรติแด่พระบุตรเหมือนที่พวกเขาถวายเกียรติแด่พระบิดา คนไหนไม่ถวายพระเกียรติแด่พระบุตร คนนั้นก็ไม่ถวายพระเกียรติแด่พระบิดาผู้ทรงใช้พระบุตรมา
1ปต. 2:17 จงให้เกียรติทุกคน จงรักพวกพี่น้อง จงยำเกรงพระเจ้า จงถวายเกียรติแด่จักรพรรดิ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น