มธ. 22:23 ในวันนั้น มีพวกสะดูสีมาหาพระองค์ พวกนี้เป็นผู้สอนว่าไม่มีการเป็นขึ้นจากความตาย
มธ. 22:28 เพราะฉะนั้นในวันที่เป็นขึ้นจากความตาย หญิงคนนั้นจะเป็นภรรยาของใครในเจ็ดคนนั้น? เพราะพวกเขาได้นางมาเป็นภรรยาแล้วทุกคน”
มธ. 22:30 เมื่อมนุษย์เป็นขึ้นจากความตายนั้น จะไม่มีการสมรสหรือยกให้เป็นสามีภรรยากันอีก แต่จะเป็นเหมือนบรรดาทูตในฟ้าสวรรค์
มธ. 22:31 เกี่ยวกับเรื่องที่คนตายจะเป็นขึ้นจากความตายนั้น พวกท่านยังไม่ได้อ่านสิ่งที่พระเจ้าตรัสไว้กับท่านหรือ ว่า
มก. 9:9 เมื่อลงมาจากภูเขา พระองค์ตรัสสั่งพวกสาวก ไม่ให้นำสิ่งที่เห็นนั้นไปบอกกับคนอื่นจนกว่าบุตรมนุษย์จะเป็นขึ้นจากตาย
มก. 12:18 มีพวกสะดูสีบางคนมาเฝ้าพระองค์ พวกนี้สอนว่าการเป็นขึ้นจากตายนั้นไม่มี พวกเขาทูลถามพระองค์ว่า
มก. 12:23 เพราะฉะนั้นในวันที่เป็นขึ้นจากตาย หญิงคนนั้นจะเป็นภรรยาของใคร? เพราะนางเป็นภรรยาของชายทั้งเจ็ดแล้ว”
มก. 12:25 ตอนที่มนุษย์เป็นขึ้นจากตายนั้น จะไม่มีการสมรสหรือยกให้เป็นสามีภรรยากัน แต่จะเป็นเหมือนทูตในฟ้าสวรรค์
ลก. 9:7 เฮโรดเจ้าเมืองได้ยินเรื่องเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้น ก็รู้สึกสับสนมาก เพราะบางคนบอกว่ายอห์นเป็นขึ้นจากตายแล้ว
ลก. 14:14 แล้วท่านจะเป็นสุข เพราะว่าเขาทั้งหลายไม่มีอะไรจะตอบแทนท่าน ส่วนท่านจะได้รับการตอบแทนเมื่อคนชอบธรรมเป็นขึ้นจากตาย”
ลก. 20:27 มีพวกสะดูสีบางคนมาหาพระองค์ คนพวกนี้บอกว่าการเป็นขึ้นจากตายนั้นไม่มี
ลก. 20:33 เมื่อเป็นแบบนั้น ในวันที่เป็นขึ้นจากตาย หญิงคนนั้นจะเป็นภรรยาของใคร? เพราะนางตกเป็นภรรยาของชายทั้งเจ็ดคนแล้ว”
ลก. 20:35 แต่คนที่นับว่าสมควรกับการอยู่ในยุคหน้า และการเป็นขึ้นจากความตาย จะไม่มีการสมรสกันหรือยกให้เป็นสามีภรรยากันอีก
ลก. 20:36 อันที่จริงพวกเขาจะตายอีกไม่ได้ เพราะเขาเป็นเหมือนทูตสวรรค์ และเป็นบุตรของพระเจ้า คือบุตรของการเป็นขึ้นจากตาย
ลก. 24:46 พระองค์ตรัสกับเขาว่า “มีถ้อยคำเขียนไว้อย่างนั้นว่า พระคริสต์จะต้องทนทุกข์และเป็นขึ้นจากตายในวันที่สาม
ยน. 12:1 ก่อนปัสกาหกวัน พระเยซูเสด็จมาถึงหมู่บ้านเบธานีซึ่งเป็นที่อยู่ของลาซารัสผู้ที่พระองค์ทรงให้เป็นขึ้นจากตาย
ยน. 20:9 แต่ขณะนั้นเขายังไม่เข้าใจข้อพระคัมภีร์ที่เขียนไว้ว่าพระองค์จะต้องเป็นขึ้นจากตาย
ยน. 21:14 นี่เป็นครั้งที่สามที่พระเยซูทรงสำแดงพระองค์แก่พวกสาวก หลังจากที่พระเจ้าทรงให้พระองค์เป็นขึ้นจากตายแล้ว
กจ. 3:15 ท่านทั้งหลายจึงฆ่าพระองค์ผู้ทรงเป็นแหล่งกำเนิดของชีวิตเสีย แต่พระเจ้าได้โปรดให้พระองค์เป็นขึ้นจากตาย เราคือสักขีพยานของเรื่องนี้
กจ. 4:2 ด้วยความขัดเคืองใจยิ่งที่ท่านทั้งสองสั่งสอนและประกาศกับคนทั้งหลาย ถึงเรื่องการเป็นขึ้นจากความตายโดยอ้างการคืนพระชนม์ของพระเยซู
กจ. 4:10 ก็ให้ท่านทั้งหลายกับบรรดาชนอิสราเอลทราบเถิดว่า โดยพระนามของพระเยซูคริสต์ชาวนาซาเร็ธที่พวกท่านตรึงไว้ที่กางเขน ผู้ซึ่งพระเจ้าทรงให้เป็นขึ้นจากตาย โดยพระองค์นั้นแหละชายคนนี้ที่ยืนอยู่ต่อหน้าพวกท่านจึงได้หายเป็นปกติ
กจ. 10:40 และในวันที่สามพระเจ้าทรงให้พระองค์เป็นขึ้นจากตายและทรงให้ปรากฏ
กจ. 10:41 ไม่ใช่ให้ปรากฏแก่คนทั่วไป แต่ให้ปรากฏแก่เรา คือบรรดาสักขีพยานที่พระเจ้าทรงเลือกไว้แล้ว คือทรงปรากฏแก่เราที่กินและดื่มกับพระองค์หลังจากพระองค์ทรงเป็นขึ้นจากตาย
กจ. 13:30 แต่พระเจ้าทรงให้พระองค์เป็นขึ้นจากตาย
กจ. 13:34 ส่วนข้อที่ว่า พระเจ้าทรงให้พระองค์เป็นขึ้นจากตาย ไม่ให้เน่าเปื่อยอีกนั้น พระองค์ตรัสดังนี้ว่า ‘เราจะให้พรอันบริสุทธิ์และมั่นคงที่เราสัญญาไว้กับดาวิดแก่พวกท่าน’
กจ. 17:3 อธิบายและพิสูจน์ให้เห็นว่า จำเป็นที่พระคริสต์จะต้องทรงทนทุกข์และเป็นขึ้นจากตาย และกล่าวต่อว่า “พระเยซูองค์นี้ที่ข้าพเจ้าประกาศกับท่านทั้งหลายคือพระคริสต์”
กจ. 17:18 ปรัชญาเมธีบางคนในพวกเอปิคูเรียนและในพวกสโตอิกก็มาพบท่าน บางคนกล่าวว่า “คนเก็บเศษความรู้เล็กๆ น้อยๆ นี้กำลังจะพูดเรื่องอะไร” บางคนกล่าวว่า “ดูเหมือนเขาเป็นคนนำพระต่างประเทศเข้ามาเผยแพร่” เพราะเปาโลประกาศเรื่องพระเยซูและการเป็นขึ้นจากตาย
กจ. 17:31 เพราะพระองค์ทรงกำหนดวันหนึ่งไว้แล้ว ในวันนั้นพระองค์จะทรงพิพากษาโลกตามความชอบธรรมโดยบุคคลที่พระองค์ทรงกำหนดไว้ และพระเจ้าทรงให้คนทั้งปวงมีความมั่นใจในเรื่องนี้โดยทรงให้บุคคลผู้นั้นเป็นขึ้นจากตาย”
กจ. 17:32 เมื่อคนทั้งหลายได้ยินเรื่องการเป็นขึ้นจากตาย บางคนก็เยาะเย้ย แต่บางคนกล่าวว่า “เราจะคอยฟังท่านกล่าวเรื่องนี้ต่อไปอีก”
กจ. 23:6 เมื่อเปาโลเห็นว่าคนที่อยู่ในที่ประชุมสภานั้นส่วนหนึ่งเป็นพวกสะดูสีและอีกส่วนหนึ่งเป็นพวกฟาริสี ท่านจึงพูดเสียงดังต่อหน้าที่ประชุมว่า “นี่แน่ะ พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าเป็นพวกฟาริสีและเป็นบุตรของฟาริสี ที่ข้าพเจ้าถูกไต่สวนเพราะมีความหวังในเรื่องการเป็นขึ้นจากความตาย”
กจ. 23:8 (เพราะพวกสะดูสีเชื่อว่าการเป็นขึ้นจากตายนั้นไม่มี และทูตสวรรค์หรือวิญญาณก็ไม่มี แต่พวกฟาริสีเชื่อว่ามีทั้งนั้น)
กจ. 24:15 ข้าพเจ้ามีความหวังในพระเจ้าซึ่งเป็นความหวังที่พวกเขาเองก็ยอมรับ คือหวังว่าทั้งคนชอบธรรมและคนไม่ชอบธรรมจะเป็นขึ้นจากตาย
กจ. 24:21 นอกจากข้อเดียวที่ข้าพเจ้าตะเบ็งเสียงขึ้นเมื่ออยู่ท่ามกลางพวกเขา ซึ่งเกี่ยวกับการเป็นขึ้นจากความตายอันเป็นสาเหตุที่ทำให้ข้าพเจ้าถูกพิพากษาต่อหน้าท่านทั้งหลายในวันนี้”
กจ. 26:23 คือว่าพระคริสต์จะต้องทนทุกข์ทรมาน และพระองค์จะทรงแสดงความสว่างแก่ชนชาติอิสราเอลและแก่พวกต่างชาติ โดยที่ทรงเป็นผู้แรกที่เป็นขึ้นจากตาย”
2คร. 1:9 ที่จริงเรารู้สึกว่าถูกตัดสินให้ถึงที่ตายแล้ว ทั้งนี้เพื่อเราจะไม่ไว้ใจตัวเอง แต่ไว้ใจพระเจ้าผู้ทรงให้คนทั้งหลายเป็นขึ้นจากตาย
กท. 1:1 เปาโล ผู้เป็นอัครทูต (ซึ่งไม่ได้รับการแต่งตั้งจากมนุษย์ หรือโดยมนุษย์ แต่โดยพระเยซูคริสต์และพระเจ้าพระบิดา ผู้โปรดให้พระเยซูเป็นขึ้นจากความตาย ได้ทรงแต่งตั้ง)
อฟ. 1:20 ซึ่งทรงทำในพระคริสต์เมื่อทรงทำให้พระคริสต์เป็นขึ้นจากตาย และทรงให้ประทับที่เบื้องขวาพระหัตถ์ของพระองค์ในสวรรคสถาน
อฟ. 5:14 เพราะว่าทุกๆ สิ่งที่ปรากฏให้เห็นก็เป็นความสว่าง ดังนั้นจึงมีคำกล่าวว่า คนที่หลับอยู่ จงตื่นขึ้น และจงเป็นขึ้นจากตาย แล้วพระคริสต์จะทรงส่องสว่างแก่ท่าน
ฟป. 3:11 ทั้งมุ่งหวังที่จะได้เป็นขึ้นจากความตายด้วย
คส. 1:18 พระองค์ทรงเป็นศีรษะของกายคือคริสตจักร พระองค์ทรงเป็นปฐม ทรงเป็นผู้แรกที่เป็นขึ้นจากตาย เพื่อว่าพระองค์จะทรงเป็นเอกในทุกสิ่ง
1ธส. 1:10 และรอคอยพระบุตรของพระเจ้าจากสวรรค์ ซึ่งพระองค์ทรงให้เป็นขึ้นจากตาย คือพระเยซูผู้ทรงช่วยเราให้พ้นจากพระพิโรธที่จะมีมาภายหน้านั้น
2ทธ. 2:8 จงระลึกถึงพระเยซูคริสต์ ผู้ที่พระเจ้าทรงทำให้เป็นขึ้นจากตาย ทรงสืบเชื้อสายจากดาวิด ตามข่าวประเสริฐที่ข้าพเจ้าประกาศ
2ทธ. 2:18 ทั้งสองคนนั้นหลงไปจากความจริงโดยกล่าวว่าการเป็นขึ้นจากตายนั้นผ่านไปแล้ว เขากำลังทำให้ความเชื่อของบางคนไขว้เขวไป
ฮบ. 6:2 และคำสอนเรื่องพิธีล้างชำระต่างๆ การวางมือ การเป็นขึ้นจากความตาย และการลงโทษชั่วนิรันดร์
ฮบ. 11:35 พวกผู้หญิงก็ได้คนของพวกนางที่เป็นขึ้นจากความตาย บางคนถูกทรมานแต่ก็ไม่ยอมรับการปลดปล่อย เพื่อจะได้เป็นขึ้นมาสู่ชีวิตที่ดีกว่า
1คร. 15:12 ถ้าเราประกาศว่าพระคริสต์ทรงถูกทำให้เป็นขึ้นมาจากความตายแล้ว ทำไมบางคนในพวกท่านจึงพูดว่าการเป็นขึ้นจากความตายไม่มี?
1คร. 15:21 เพราะว่าในเมื่อความตายเกิดขึ้นโดยมนุษย์คนหนึ่ง การเป็นขึ้นจากความตายก็เกิดขึ้นโดยมนุษย์คนหนึ่งเช่นกัน
ยน. 11:25 พระเยซูตรัสกับนางว่า “เราเป็นชีวิตและการเป็นขึ้นจากตาย คนที่วางใจในเราจะมีชีวิตอีกแม้ว่าเขาจะตายไป
รม. 4:24 แต่สำหรับเราด้วย ที่ทรงถือว่าเราเป็นคนชอบธรรม คือเราที่เชื่อในพระองค์ผู้ทรงให้พระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้าของเราเป็นขึ้นจากความตาย
รม. 6:5 เพราะว่าถ้าเราเข้าสนิทกับพระองค์แล้วในการตายอย่างพระองค์ เราก็จะเข้าสนิทกับพระองค์ในการเป็นขึ้นจากตายอย่างพระองค์
คส. 2:12 พวกท่านถูกฝังร่วมกับพระองค์ในการบัพติศมา ที่พระเจ้าทรงให้ท่านเป็นขึ้นมาร่วมกับพระองค์ด้วย โดยความเชื่อในพลานุภาพของพระเจ้าผู้ทรงทำให้พระองค์เป็นขึ้นจากตาย
1ปต. 1:21 โดยทางพระองค์ พวกท่านจึงวางใจในพระเจ้า ผู้ทรงให้พระคริสต์เป็นขึ้นจากตาย และประทานพระสิริแก่พระองค์ เพื่อให้ความเชื่อและความหวังของพวกท่านอยู่ในพระเจ้า
วว. 1:5 และจากพระเยซูคริสต์พยานผู้ซื่อสัตย์ ซึ่งเป็นผู้แรกที่ทรงเป็นขึ้นจากตาย และเป็นผู้ทรงครอบครองเหนือบรรดากษัตริย์ในโลก พระองค์ทรงรักเรา ทรงปลดปล่อยเราจากบาปของเราด้วยพระโลหิตของพระองค์
วว. 20:5 (ส่วนคนอื่นๆ ที่ตายไปแล้วไม่ได้กลับมีชีวิตขึ้นอีกจนกว่าจะครบหนึ่งพันปี) นี่แหละคือการเป็นขึ้นจากตายครั้งแรก
วว. 20:6 ใครที่มีส่วนในการเป็นขึ้นจากตายครั้งแรกก็เป็นสุขและบริสุทธิ์ ความตายครั้งที่สองจะไม่มีอำนาจเหนือเขาทั้งหลาย แต่เขาจะเป็นปุโรหิตของพระเจ้าและของพระคริสต์ และจะครอบครองร่วมกับพระองค์หนึ่งพันปี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น