บทเทศนาฟื้นฟู : ความรักนิรันดร์ (เฉลยธรรมบัญญัติ 7:9)
พี่น้องที่รักทั้งหลาย วันนี้เรามาร่วมกันศึกษาพระวจนะของพระเจ้าในหนังสือเฉลยธรรมบัญญัติ บทที่ 7 ข้อที่ 9 ซึ่งกล่าวว่า “เหตุฉะนั้น จงรู้เถิดว่า พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านเป็นพระเจ้า เป็นพระเจ้าสัตย์ซื่อ ผู้ทรงรักษาพันธสัญญาและความรักมั่นคง ต่อผู้ที่รักพระองค์ และรักษาบัญญัติของพระองค์ไว้ถึงพันชั่วอายุคน”
ข้อพระคัมภีร์ข้อนี้เป็นดัง คำประกาศอันทรงพลัง ถึง ความรักอันไม่สิ้นสุดของพระเจ้า เป็นเครื่องเตือนใจให้เราระลึกว่า แม้โลกจะผันผวนเพียงใด แต่พระองค์ยังคง สัตย์ซื่อ และ ทรงรักเราอย่างไม่เปลี่ยนแปลง เป็นข้อเตือนใจเราถึงความจริงอันสำคัญยิ่ง นั่นคือ ความรักและความสัตย์ซื่อของพระเจ้า ที่มีต่อเราทุกคน พระองค์ไม่ใช่พระเจ้าที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ตามกาลเวลา แต่พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้ไม่เคยเปลี่ยนแปลง พระสัญญาของพระองค์มั่นคงดุจภูผาแกร่ง แม้โลกนี้จะผันแปรเพียงใด
ในยุคสมัยที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน หลายคนรู้สึกหวั่นไหว สูญเสียความหวัง ชีวิตเหมือนเรือที่ลอยเคว้งคว้างกลางทะเล ขาดที่ยึดเหนี่ยว แต่พระวจนะข้อนี้ ต้องการปลุกใจเราทุกคนให้กลับมามี “ความหวัง” อีกครั้ง ให้เรารู้ว่า แม้เราจะเผชิญกับปัญหา มรสุมร้ายแรงเพียงใด แต่เรายังมีพระเจ้าผู้ทรงสัตย์ซื่อ ผู้ไม่เคยทอดทิ้งเรา พระองค์ทรงรักษาพันธสัญญา ไม่ใช่เพียงกับบรรพบุรุษของเรา แต่รวมถึงเราทุกคนในวันนี้ด้วย พันธสัญญาแห่งความรัก ความห่วงใย การอภัยบาป และการประทานชีวิตนิรันดร์ พระองค์จะไม่ทรงลืมสิ่งที่พระองค์ได้สัญญาไว้ แม้ว่าบางครั้งเราอาจหลงลืมพระองค์ไป
แต่ความรักของพระเจ้า ไม่ได้หมายความว่า เราจะใช้ชีวิตอย่างไรก็ได้ ข้อพระคัมภีร์บอกชัดเจนว่า พระองค์ทรงรักษาความเมตตาต่อ "ผู้ที่รักพระองค์ และรักษาบัญญัติของพระองค์" นั่นหมายความว่า ความรักของเรานั้น เราต้องแสดงออกถึงความรักนั้น ด้วยการเชื่อฟังพระบัญญัติของพระองค์ ดำเนินชีวิตอย่างที่พระองค์พอพระทัย
พี่น้องที่รัก จงอย่าท้อแท้ อย่าหมดหวัง แม้ชีวิตจะเผชิญปัญหา จงจำไว้ว่า เรามีพระเจ้าผู้ทรงสัตย์ซื่ออยู่เคียงข้างเสมอ ขอให้เรากลับมาหาพระองค์ รักษาความสัมพันธ์กับพระองค์ให้มั่นคง ดำเนินชีวิตในทางของพระองค์ แล้วเราจะพบกับชัยชนะ และพระพรมากมาย ที่พระองค์ทรงเตรียมไว้ให้
พระเจ้าผู้ทรงรักษาพันธสัญญา:
พระเจ้าของเรามิใช่พระเจ้าที่ลืมเลือนคำสัญญา พระองค์ทรงระลึกถึงพันธสัญญาที่ได้ทรงกระทำไว้กับประชากรของพระองค์ ไม่ว่าจะเป็นพันธสัญญาที่ให้ไว้กับโนอาห์ อับราฮัม หรือแม้แต่พันธสัญญาใหม่ในพระเยซูคริสต์ พระองค์ทรงรักษาสัญญาทุกประการ อย่างซื่อสัตย์ และ สมบูรณ์แบบ
ความรักต่อผู้ที่รักพระองค์:
ข้อพระคัมภีร์กล่าวชัดเจนว่า พระเจ้าทรงสำแดง ความรัก และ ความรักมั่นคง ความเมตตา ต่อ “ผู้ที่รักพระองค์และรักษาบัญญัติของพระองค์” นี่มิใช่เงื่อนไขแห่งความรัก แต่เป็น ผลของความรัก เมื่อเรารักพระเจ้า เราจะปรารถนาที่จะ เชื่อฟัง และ ดำเนินชีวิตตามน้ำพระทัยของพระองค์
รักษาบัญญัติด้วยหัวใจที่รัก:
การรักษาบัญญัติของพระเจ้า ไม่ใช่ภาระอันหนักอึ้ง แต่เป็น การแสดงออกถึงความรัก และ ความกตัญญู ที่เรามีต่อพระองค์ การเชื่อฟังพระเจ้า ไม่ใช่การทำตามกฎเกณฑ์อย่างไร้ชีวิตชีวา แต่เป็นการดำเนินชีวิตบน รากฐานแห่งความรัก ที่จะนำมาซึ่ง เสรีภาพ และ ชีวิตอันบริบูรณ์
พันชั่วอายุแห่งพระคุณ:
ไม่เพียงแต่พระเจ้าจะทรงรักษาพันธสัญญา แต่พระองค์ยังทรงสำแดง ความรักมั่นคง นั้นไป ถึงพันชั่วอายุ ความรักของพระเจ้าไม่มีวันสิ้นสุด ไม่อาจถูกจำกัดด้วยเวลา หรือสถานการณ์ใดๆ
บทสรุป:
พี่น้องที่รักทั้งหลาย ขอให้พระวจนะตอนนี้เป็น กำลังใจ และ แสงสว่าง นำทางชีวิตของเรา จงจำไว้เสมอว่า พระเจ้าทรงรักเราอย่างไม่มีเงื่อนไข และ สัตย์ซื่อต่อพันธสัญญา ที่มีต่อเรา
จงตอบสนองต่อความรักอันยิ่งใหญ่นั้น ด้วยการ รักพระองค์ และ ดำเนินชีวิตในทางของพระองค์ เพื่อเราจะได้เป็น ผู้รับมรดกในแผ่นดินของพระองค์ ตลอดไป
อาเมน
ขอพระเจ้าทรงอวยพระพร
-เผื่อลูกหลานเรา สืบทอดรับช่วง(รับความรัก และ ความเมตตาถึงพันชั่วอายุ)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น