อพย. 16:25 โมเสสจึงบอกว่า “วันนี้จงกินอาหารนั้น เพราะว่าวันนี้เป็นวันสะบาโตของพระยาห์เวห์ วันนี้พวกท่านจะไม่พบอาหารอย่างนั้นในทุ่งเลย
อพย. 16:29 ดูสิ พระยาห์เวห์ประทานวันสะบาโตให้พวกเจ้า เพราะฉะนั้นในวันที่หกพระองค์ประทานอาหารให้พอรับประทานสองวัน ในวันที่เจ็ดนั้นให้ทุกคนพักอยู่ในที่ของตน อย่าให้ใครออกจากที่พักเลย”
อพย. 20:8 “จงระลึกถึงวันสะบาโต ถือเป็นวันบริสุทธิ์
อพย. 20:11 เพราะในหกวันพระยาห์เวห์ทรงสร้างฟ้าและแผ่นดิน ทะเล และสรรพสิ่งซึ่งมีอยู่ในที่เหล่านั้น แต่ในวันที่เจ็ดทรงพัก เพราะฉะนั้นพระยาห์เวห์ทรงอวยพรวันสะบาโต และทรงตั้งวันนั้นไว้เป็นวันบริสุทธิ์
อพย. 31:13 “เจ้าจงสั่งชนชาติอิสราเอลว่า ‘จงรักษาวันสะบาโตของเราไว้ เพราะนี่จะเป็นหมายสำคัญระหว่างเรากับพวกเจ้าตลอดชั่วชาติพันธุ์ของพวกเจ้า เพื่อจะรู้ว่าเราคือยาห์เวห์ ผู้ชำระเจ้าทั้งหลายให้บริสุทธิ์
อพย. 31:14 พวกเจ้าจงรักษาวันสะบาโต เพราะเป็นวันบริสุทธิ์สำหรับพวกเจ้า ผู้ใดทำให้วันนั้นเป็นมลทินจะต้องถูกลงโทษถึงตายอย่างแน่นอน ถ้าผู้ใดทำงานใดๆ ในวันนั้น ผู้นั้นต้องถูกตัดออกจากการเป็นประชากรของเรา
อพย. 31:15 จงทำงานหกวัน แต่ในวันที่เจ็ดเป็นวันสะบาโตสำหรับหยุดพัก เป็นวันบริสุทธิ์แด่พระยาห์เวห์ ทุกคนที่ทำงานในวันสะบาโตนั้นต้องถูกลงโทษถึงตายอย่างแน่นอน
อพย. 31:16 ดังนั้น ชนชาติอิสราเอลจึงรักษาวันสะบาโตตลอดชั่วชาติพันธุ์ของพวกเขาเป็นพันธสัญญาเนืองนิตย์
อพย. 35:3 ในวันสะบาโตนั้น ห้ามก่อไฟในที่อาศัยทุกแห่งของท่าน”
ลนต. 16:31 เป็นวันสะบาโตให้เจ้าทั้งหลายหยุดพักสงบ พวกเจ้าต้องปฏิเสธความปรารถนาของพวกเจ้า ทั้งนี้ให้เป็นกฎเกณฑ์ถาวร
ลนต. 23:11 และปุโรหิตจะนำพืชผลส่วนนั้น ทำพิธีโบกถวายแด่พระยาห์เวห์ เพื่อพวกเจ้าจะเป็นที่โปรดปราน ในวันรุ่งขึ้นหลังวันสะบาโตปุโรหิตจะทำพิธีโบกถวาย
ลนต. 23:15 “ตั้งแต่วันรุ่งขึ้นจนถึงวันสะบาโต จงนับให้ได้ครบเจ็ดสัปดาห์เต็มๆ คือนับจากวันที่พวกเจ้านำพืชผลรุ่นแรกเข้ามาทำพิธีโบกถวายเป็นต้นไป
ลนต. 23:16 นับไปให้ได้ห้าสิบวัน จนถึงวันถัดจากวันสะบาโตที่เจ็ด แล้วเจ้าจงนำเมล็ดใหม่มาถวายแด่พระยาห์เวห์เป็นธัญบูชา
ลนต. 23:32 จะเป็นวันสะบาโตสำหรับหยุดพักสงบแก่เจ้า และพวกเจ้าต้องปฏิเสธความปรารถนาของเจ้า เริ่มแต่เวลาเย็นในวันที่เก้าของเดือน เจ้าต้องรักษาวันสะบาโตจากเวลาเย็นถึงเวลาเย็น”
ลนต. 23:38 นอกเหนือจากวันสะบาโตแห่งพระยาห์เวห์ นอกเหนือจากของถวายของเจ้า นอกเหนือจากเครื่องบูชาแก้บนของเจ้า และนอกเหนือจากเครื่องบูชาด้วยใจสมัครของเจ้าซึ่งเจ้านำมาถวายแด่พระยาห์เวห์
ลนต. 24:8 ทุกๆ วันสะบาโตให้อาโรนจัดไว้ให้เป็นระเบียบถวายแด่พระยาห์เวห์เสมอไปในนามของอิสราเอล เป็นพันธสัญญานิรันดร์
กดว. 15:32 ขณะที่คนอิสราเอลอยู่ในถิ่นทุรกันดาร พวกเขาพบชายคนหนึ่งไปเก็บฟืนในวันสะบาโต
กดว. 28:9 “และในวันสะบาโตนั้นได้แก่ลูกแกะผู้อายุหนึ่งปีสองตัวที่ไม่มีตำหนิ และแป้งอย่างดี 2 กิโลกรัมเคล้ากับน้ำมันเป็นธัญบูชา และเครื่องดื่มบูชาที่คู่กัน
กดว. 28:10 นี่เป็นเครื่องบูชาเผาทั้งตัวทุกวันสะบาโต นอกเหนือจากเครื่องบูชาเผาทั้งตัวที่ถวายต่อเนื่อง และเครื่องดื่มบูชาที่คู่กัน
ฉธบ. 5:12 ‘จงรักษาวันสะบาโต ถือเป็นวันบริสุทธิ์ ดังที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าทรงบัญชาไว้แก่เจ้า
ฉธบ. 5:15 จงระลึกว่าเจ้าเคยเป็นทาสอยู่ในแผ่นดินอียิปต์ และพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าได้นำเจ้าออกมาจากที่นั่น ด้วยพระหัตถ์อันทรงฤทธิ์และด้วยพระกรที่เหยียดออก ดังนั้นพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าจึงทรงบัญชาให้เจ้ารักษาวันสะบาโต
2พกษ. 4:23 และเขาถามว่า “วันนี้จะไปหาท่านทำไม? มันไม่ใช่วันต้นเดือนหรือวันสะบาโต” นางตอบว่า “ไม่เป็นไร”
2พกษ. 11:5 และท่านกำชับเขาทั้งหลายว่า นี่เป็นสิ่งที่ท่านทั้งหลายพึงทำคือ ผู้เข้าเวรวันสะบาโตกลุ่มหนึ่งให้เป็นผู้เฝ้าพระราชวัง
2พกษ. 11:7 ส่วนท่านทั้งหลายอีกสองพวก คือผู้ที่ออกเวรวันสะบาโต ให้เฝ้าพระนิเวศของพระยาห์เวห์รอบพระราชา
2พกษ. 11:9 บรรดานายร้อยก็ได้ทำทุกสิ่งตามที่เยโฮยาดาปุโรหิตสั่งไว้ ต่างก็นำคนของตนที่จะเข้าเวรวันสะบาโต พร้อมกับคนที่จะออกเวรวันสะบาโตนั้นมาหาเยโฮยาดาปุโรหิต
2พกษ. 16:18 ส่วนศาลาวันสะบาโตซึ่งพวกเขาสร้างไว้ในพระนิเวศ และทางเข้าชั้นนอกสำหรับพระราชานั้น พระองค์ทรงย้ายจากพระนิเวศของพระยาห์เวห์ เพราะเห็นแก่พระราชาแห่งอัสซีเรีย
1พศด. 9:32 และพวกพี่น้องของพวกเขาบางคนซึ่งเป็นคนโคฮาทเป็นผู้ดูแลขนมตั้งถวาย มีหน้าที่จัดเตรียมทุกวันสะบาโต
1พศด. 23:31 และทุกครั้งเมื่อมีการถวายเครื่องบูชาเผาทั้งตัวแด่พระยาห์เวห์ในวันสะบาโต ในวันขึ้นหนึ่งค่ำ ในวันเทศกาลเลี้ยง ตามจำนวนที่กำหนดให้ถวายบูชาเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์เรื่อยไป
2พศด. 2:4 ขณะนี้ ข้าพเจ้ากำลังจะสร้างพระนิเวศ เพื่อพระนามพระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพเจ้า และมอบถวายแด่พระองค์เพื่อเผาเครื่องหอมเฉพาะพระพักตร์พระองค์ เพื่อตั้งขนมปังที่ถวายเป็นประจำ และเพื่อถวายเครื่องบูชาเผาทั้งตัวทั้งเช้าและเย็นในวันสะบาโต วันข้างขึ้น และวันเทศกาลเลี้ยงของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา ซึ่งเป็นกฎสำหรับอิสราเอลตลอดไป
2พศด. 8:13 ตามหน้าที่ประจำวันที่ต้องทำคือการถวายบูชาตามบัญญัติของโมเสส ในวันสะบาโตในวันขึ้นหนึ่งค่ำ และในเทศกาลเลี้ยงประจำปีสามเทศกาล คือเทศกาลกินขนมปังไร้เชื้อ เทศกาลสัปดาห์ และเทศกาลอยู่เพิง
2พศด. 23:4 นี่เป็นสิ่งที่ท่านทั้งหลายพึงทำ คือหนึ่งในสามของพวกท่านผู้เข้าเวรวันสะบาโต ซึ่งเป็นปุโรหิตและคนเลวี ให้เป็นคนเฝ้าประตู
2พศด. 23:8 คนเลวีและคนยูดาห์ทั้งหมดได้ทำทุกสิ่งตามที่เยโฮยาดาปุโรหิตสั่งไว้ พวกเขาต่างนำคนของตนที่จะเข้าเวรวันสะบาโต และคนที่จะออกเวรวันสะบาโตมา เพราะเยโฮยาดาปุโรหิตไม่ได้ปล่อยกองเวร
2พศด. 31:3 ส่วนของบริจาคจากทรัพย์สินส่วนพระองค์ของพระราชานั้นให้เป็นเครื่องบูชาเผาทั้งตัว คือเครื่องบูชาเผาทั้งตัวสำหรับเวลาเช้าและเวลาเย็น และเครื่องบูชาเผาทั้งตัวสำหรับวันสะบาโต วันขึ้นหนึ่งค่ำและเทศกาลเลี้ยงตามกำหนด ดังที่บันทึกไว้ในธรรมบัญญัติของพระยาห์เวห์
นหม. 9:14 และพระองค์ทรงให้เขาทราบถึงวันสะบาโตบริสุทธิ์ของพระองค์ และทรงตราพระบัญญัติกฎเกณฑ์และธรรมบัญญัติทางโมเสสผู้รับใช้ของพระองค์
นหม. 10:31 และถ้าชนชาติทั้งหลายของแผ่นดินนั้นนำเครื่องใช้หรือข้าวอย่างใดๆ มาขายในวันสะบาโตเราจะไม่ซื้อจากเขาในวันสะบาโตหรือในวันบริสุทธิ์ และเราจะไม่เก็บผลของปีที่เจ็ด และไม่เก็บหนี้สินทุกอย่าง
นหม. 13:15 ครั้งนั้นในยูดาห์ ข้าพเจ้าเห็นคนย่ำเหล้าองุ่นในวันสะบาโต และนำฟ่อนข้าวบรรทุกหลังลาเข้ามา ทั้งเหล้าองุ่น ผลองุ่น มะเดื่อ และภาระทุกอย่าง ซึ่งเขานำมายังเยรูซาเล็มในวันสะบาโต ข้าพเจ้าได้ตักเตือนเขาทั้งหลายในวันที่เขาขายอาหาร
นหม. 13:16 และมีคนชาวไทระอาศัยอยู่ในเมืองได้นำปลาและสินค้าทุกอย่างเข้ามาขายในวันสะบาโตแก่ประชาชนยูดาห์ และในเยรูซาเล็ม
นหม. 13:17 แล้วข้าพเจ้าได้ต่อว่าพวกขุนนางแห่งยูดาห์ และพูดกับเขาว่า “ทำไมท่านทั้งหลายทำความชั่วร้ายเช่นนี้ ทำให้วันสะบาโตเป็นมลทิน
นหม. 13:18 บรรพบุรุษของท่านไม่ได้ทำเช่นนี้หรือ และพระเจ้าของเราไม่ได้ทรงนำเหตุร้ายนี้ทั้งสิ้นให้ตกอยู่บนเราและบนเมืองนี้หรือ? ท่านยังจะนำพระพิโรธยิ่งกว่านั้นมาเหนืออิสราเอลด้วยการทำให้วันสะบาโตเป็นมลทิน”
นหม. 13:19 และต่อมาพอเริ่มมืดที่ประตูเมืองเยรูซาเล็มก่อนวันสะบาโต ข้าพเจ้าสั่งให้ปิดประตูเมือง และสั่งว่า ไม่ให้เปิดจนกว่าจะพ้นวันสะบาโตแล้ว และข้าพเจ้าก็ตั้งข้าราชการบางคนของข้าพเจ้าให้ดูแลประตูเมือง เพื่อไม่ให้นำภาระสิ่งใดเข้ามาในวันสะบาโต
นหม. 13:21 ข้าพเจ้าได้ตักเตือนพวกเขา และพูดกับเขาว่า “ทำไม ท่านมานอนอยู่ข้างกำแพงเมือง ถ้าท่านทำอีกข้าพเจ้าจะจับท่าน” ตั้งแต่นั้นมาเขาก็ไม่มาอีกในวันสะบาโต
นหม. 13:22 และข้าพเจ้าสั่งคนเลวีให้ชำระตัวและมาเฝ้าประตูเมือง เพื่อรักษาวันสะบาโตให้บริสุทธิ์ ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอพระองค์ทรงระลึกถึงข้าพระองค์ในเรื่องนี้ และขอทรงพระกรุณาข้าพระองค์ตามความยิ่งใหญ่แห่งความรักมั่นคงของพระองค์
สดด. 92:1 เป็นการดีที่จะขอบพระคุณพระยาห์เวห์ ข้าแต่องค์ผู้สูงสุด ที่จะร้องเพลงสดุดีพระนามของพระองค์
อสย. 1:13 อย่านำของถวายอนิจจังมาอีกเลย เครื่องหอมก็เป็นสิ่งน่าสะอิดสะเอียนต่อเรา วันเทศกาลเลี้ยงข้างขึ้น วันสะบาโตและการเรียกมาชุมนุม เราทนไม่ได้กับการทำชั่วพร้อมกับการประชุมศักดิ์สิทธิ์
อสย. 56:2 ความสุขย่อมมีแก่คนที่ทำเช่นนี้ และแก่มนุษย์ผู้ยึดมันไว้มั่น คือผู้รักษาวันสะบาโต ไม่ทำให้วันนั้นเสื่อมเสีย และรักษามือของเขาจากการทำชั่วร้ายใดๆ
อสย. 56:4 เพราะพระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า “เกี่ยวกับบรรดาขันทีผู้รักษาวันสะบาโตของเรา ผู้เลือกในสิ่งที่เราพอใจ และยึดมั่นในพันธสัญญาของเรา
อสย. 56:6 “และคนต่างชาติผู้เข้าจารีตถือพระยาห์เวห์ เพื่อปรนนิบัติพระองค์และรักพระนามของพระยาห์เวห์ และเป็นผู้รับใช้ของพระองค์ ทุกคนที่รักษาวันสะบาโตไม่ให้เสื่อมเสีย และยึดมั่นในพันธสัญญาของเรา
อสย. 58:13 ถ้าเจ้าหันเท้าจากการเหยียบย่ำวันสะบาโต คือจากการทำตามใจของเจ้าในวันบริสุทธิ์ของเรา และเรียกสะบาโตว่าวันปีติยินดี และเรียกวันบริสุทธิ์ของพระยาห์เวห์ว่าวันมีเกียรติ ถ้าเจ้าให้เกียรติวันนั้น ไม่ไปตามทางของเจ้าเอง ไม่ทำตามความพอใจของเจ้า หรือพูดแต่เรื่องไร้สาระ
อสย. 66:23 “จากวันขึ้นค่ำถึงอีกวันขึ้นค่ำ และจากวันสะบาโตถึงอีกวันสะบาโต มนุษย์ทั้งหมดจะมานมัสการต่อหน้าเรา” พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้แหละ
ยรม. 17:21 พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า จงระวังเพื่อเห็นแก่ชีวิตของพวกเจ้า อย่าได้หาบหามอะไรในวันสะบาโต หรือนำของนั้นเข้าทางบรรดาประตูเยรูซาเล็ม
ยรม. 17:22 และอย่าหาบหามของของเจ้าออกจากบ้านในวันสะบาโต หรือทำงานใดๆ แต่จงรักษาวันสะบาโตให้บริสุทธิ์ดังที่เราได้บัญชาบรรพบุรุษของเจ้าไว้
ยรม. 17:24 “พระยาห์เวห์ตรัสว่า ถ้าพวกเจ้าเชื่อฟังเรา และไม่นำภาระใดๆ เข้ามาทางประตูเมืองนี้ในวันสะบาโต แต่รักษาวันสะบาโตให้บริสุทธิ์ และไม่ทำงานในวันนั้น
ยรม. 17:27 แต่ถ้าเจ้าทั้งหลายไม่ฟังเราที่จะรักษาวันสะบาโตให้บริสุทธิ์ และที่จะไม่แบกภาระเข้าทางประตูทั้งหลายของเยรูซาเล็มในวันสะบาโต แล้วเราจะก่อไฟไว้ในประตูเมืองเหล่านั้น และไฟนั้นจะเผาผลาญราชวังทั้งหลายของเยรูซาเล็ม และจะดับก็ไม่ได้”
พคค. 2:6 พระองค์ทรงพังพลับพลาของพระองค์เหมือนเพิงในสวน ทรงทำลายสถานที่ประชุมของพระองค์ พระยาห์เวห์ทรงทำให้ทั้งเทศกาลเลี้ยงและวันสะบาโต หมดสิ้นไปในศิโยน ด้วยพระพิโรธเกรี้ยวกราด พระองค์ทรงดูถูก กษัตริย์และปุโรหิต
อสค. 22:26 พวกปุโรหิตของเขาได้ละเมิดธรรมบัญญัติของเรา และลบหลู่สิ่งบริสุทธิ์ของเรา พวกเขาไม่ได้แยกแยะระหว่างสิ่งบริสุทธิ์และสิ่งไม่บริสุทธิ์ เขาไม่ได้บอกให้รู้ความแตกต่างระหว่างสิ่งเป็นมลทินและสิ่งสะอาด เขาไม่เห็นวันสะบาโตของเราอยู่ในสายตา ดังนั้นเราจึงถูกลบหลู่ท่ามกลางเขาทั้งหลาย
อสค. 44:24 ถ้ามีคดีความกัน ปุโรหิตจะต้องทำหน้าที่ผู้พิพากษา และเขาจะต้องพิพากษาตามกฎหมายของเรา เขาจะต้องรักษาธรรมบัญญัติและกฎเกณฑ์ของเราเรื่องงานเทศกาลตามกำหนดของเรานั้น ทั้งจะต้องรักษาวันสะบาโตของเราให้บริสุทธิ์
อสค. 45:17 ให้เป็นหน้าที่ของเจ้านายที่จะจัดเครื่องบูชาเผาทั้งตัว ธัญบูชา เครื่องดื่มบูชา ณ งานเทศกาลทั้งหลายในวันขึ้นค่ำและวันสะบาโต ในงานเทศกาลที่กำหนดไว้ของพงศ์พันธุ์อิสราเอลทั้งหมด ให้เขาจัดเครื่องบูชาลบล้างบาป ธัญบูชา เครื่องบูชาเผาทั้งตัว และเครื่องศานติบูชา เพื่อทำการลบมลทินให้แก่พงศ์พันธุ์อิสราเอล
อสค. 46:1 “พระยาห์เวห์องค์เจ้านายตรัสดังนี้ว่า ประตูลานชั้นในที่หันหน้าไปทางตะวันออกนั้นให้ปิดไว้ระหว่างวันทำงานทั้งหกวัน แต่ในวันสะบาโตนั้นให้เปิด และในวันขึ้น 1 ค่ำก็ให้เปิด
อสค. 46:3 ประชาชนในแผ่นดินจะนมัสการเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ตรงทางเข้าประตูนั้น ทั้งในวันสะบาโตและในวันขึ้นค่ำ
อสค. 46:4 เครื่องบูชาเผาทั้งตัวที่เจ้านายจะต้องถวายแด่พระยาห์เวห์ในวันสะบาโตนั้น คือลูกแกะปราศจากตำหนิ 6 ตัว และแกะผู้ปราศจากตำหนิ 1 ตัว
อสค. 46:12 เมื่อเจ้านายถวายเครื่องบูชาตามใจสมัคร อาจจะเป็นเครื่องบูชาเผาทั้งตัว หรือเครื่องศานติบูชา เพื่อถวายแด่พระยาห์เวห์เป็นเครื่องบูชาตามใจสมัครนั้น ให้เปิดประตูที่หันหน้าไปทางตะวันออกแก่เขา แล้วเขาจะถวายเครื่องบูชาเผาทั้งตัว หรือเครื่องศานติบูชาของเขาเหมือนอย่างที่เขาทำในวันสะบาโต เสร็จแล้วเขาจะออกไป เมื่อเขาออกไปแล้วก็ให้ปิดประตูนั้นเสีย
ฮชย. 2:11 เราจะให้ความร่าเริงของนางสิ้นสุดลง ทั้งเทศกาลเลี้ยง เทศกาลขึ้นหนึ่งค่ำ วันสะบาโต และเทศกาลทั้งสิ้นของนาง
อมส. 8:5 เจ้ากล่าวว่า ‘เมื่อไรหนอ วันขึ้นค่ำจะหมดไป? เราจะได้ขายข้าวของเรา เมื่อไรหนอ วันสะบาโตจะพ้นไป? เราจะได้เอาข้าวออกขาย เราจะได้โกงตาชั่งและโกงเงิน และปรับแต่งเครื่องชั่งให้ฉ้อโกง
มธ. 12:1 ในเวลานั้น พระเยซูเสด็จไปในนาในวันสะบาโต และบรรดาสาวกของพระองค์หิว จึงเด็ดรวงข้าวมากินแก้หิว
มธ. 12:2 เมื่อพวกฟาริสีเห็นเข้า จึงทูลพระองค์ว่า “ดูซิ พวกสาวกของท่านทำสิ่งที่ต้องห้ามในวันสะบาโต”
มธ. 12:5 พวกท่านไม่ได้อ่านในธรรมบัญญัติหรือ? ที่ว่าพวกปุโรหิตในพระวิหารย่อมละเมิดกฎวันสะบาโตแต่ไม่มีความผิด
มธ. 12:8 เพราะว่าบุตรมนุษย์เป็นเจ้านายเหนือวันสะบาโต”
มธ. 12:10 ที่นั่นมีคนหนึ่งที่มือข้างหนึ่งลีบ คนทั้งหลายถามพระองค์ว่า “การรักษาโรคในวันสะบาโตนั้นต้องห้ามหรือไม่?” เพื่อเขาทั้งหลายจะหาเหตุฟ้องพระองค์ได้
มธ. 12:11 พระองค์จึงตรัสกับเขาทั้งหลายว่า “ถ้าใครในพวกท่านมีแกะตัวหนึ่ง และแกะตัวนั้นตกบ่อในวันสะบาโต คนนั้นก็จะฉุดลากแกะตัวนั้นขึ้นมาไม่ใช่หรือ?
มธ. 12:12 มนุษย์คนหนึ่งย่อมประเสริฐยิ่งกว่าแกะมากทีเดียว เพราะฉะนั้นจึงอนุญาตให้ทำการดีได้ในวันสะบาโต”
มธ. 24:20 จงอธิษฐานขอให้วันที่ท่านหนีนั้นจะไม่เกิดในฤดูหนาวหรือวันสะบาโต
มธ. 28:1 ภายหลังวันสะบาโต เวลาใกล้รุ่งเช้าวันอาทิตย์ มารีย์ชาวมักดาลากับมารีย์อีกคนหนึ่งนั้นมาดูอุโมงค์
มก. 1:21 พระองค์กับพวกเขาจึงเข้าไปในเมืองคาเปอรนาอุม และพอถึงวันสะบาโตพระองค์เสด็จเข้าไปในธรรมศาลาเทศนาสั่งสอน
มก. 2:23 ในวันสะบาโตหนึ่ง ขณะพระองค์กำลังเสด็จผ่านทุ่งนา และเมื่อพวกสาวกของพระองค์กำลังเดินไปนั้น พวกสาวกก็เริ่มเด็ดรวงข้าว
มก. 2:24 พวกฟาริสีจึงถามพระองค์ว่า “ดูซิ ทำไมพวกเขาถึงทำสิ่งที่ต้องห้ามในวันสะบาโต?”
มก. 2:27 พระองค์จึงตรัสกับพวกเขาว่า “วันสะบาโตนั้นทรงตั้งไว้เพื่อมนุษย์ ไม่ได้ทรงสร้างมนุษย์ไว้เพื่อวันสะบาโต
มก. 2:28 เพราะฉะนั้นบุตรมนุษย์เป็นเจ้าเป็นนายเหนือวันสะบาโตด้วย”
มก. 3:2 คนเหล่านั้นคอยเฝ้าดูว่า พระองค์จะรักษาโรคให้คนนั้นในวันสะบาโตหรือไม่ เพื่อจะหาเหตุฟ้องพระองค์
มก. 3:4 แล้วพระองค์ตรัสกับคนทั้งหลายว่า “ในวันสะบาโตควรจะทำการดีหรือทำการร้าย ควรจะช่วยชีวิตหรือทำลายชีวิต?” คนทั้งหลายก็นิ่งอยู่
มก. 6:2 พอถึงวันสะบาโต พระองค์ทรงเริ่มสั่งสอนในธรรมศาลา และคนจำนวนมากที่ได้ยินพระองค์ก็ประหลาดใจ พูดกันว่า “คนนี้ได้ความคิดแบบนี้มาจากไหน? ปัญญาที่เขาได้รับเป็นปัญญาแบบไหนกันนี่? ถึงได้ทำการอัศจรรย์เหล่านี้
มก. 15:42 เมื่อถึงเวลาพลบค่ำ และเพราะเหตุว่าวันนั้นเป็นวันเตรียมคือวันก่อนวันสะบาโต
มก. 16:1 เมื่อวันสะบาโตผ่านพ้นไปแล้ว มารีย์ชาวมักดาลา มารีย์มารดาของยากอบพร้อมกับนางสะโลเม ไปซื้อเครื่องหอมเพื่อจะนำไปชโลมพระศพของพระองค์
ลก. 4:16 แล้วพระองค์เสด็จมาถึงเมืองนาซาเร็ธ ที่ซึ่งพระองค์ทรงเจริญวัยขึ้น พระองค์เสด็จเข้าไปในธรรมศาลาในวันสะบาโตเช่นเคย และทรงยืนขึ้นเพื่อจะอ่านพระธรรม
ลก. 4:31 แล้วพระองค์เสด็จไปถึงเมืองคาเปอรนาอุมแคว้นกาลิลี และทรงสั่งสอนพวกเขาในวันสะบาโต
ลก. 6:1 ต่อมาในวันสะบาโตหนึ่ง ขณะที่พระองค์เสด็จไปตามทุ่งนา พวกสาวกของพระองค์เด็ดรวงข้าวขยี้ด้วยมือแล้วกิน
ลก. 6:2 พวกฟาริสีบางคนจึงกล่าวว่า “ทำไมพวกท่านทำสิ่งที่ต้องห้ามในวันสะบาโต?”
ลก. 6:5 แล้วพระองค์ตรัสกับพวกเขาว่า “บุตรมนุษย์เป็นเจ้าเป็นนายเหนือวันสะบาโต”
ลก. 6:6 ในวันสะบาโตอีกวันหนึ่ง ขณะพระองค์เสด็จเข้าไปในธรรมศาลาและสั่งสอน ที่นั่นมีชายคนหนึ่งมือขวาลีบ
ลก. 6:7 พวกธรรมาจารย์และพวกฟาริสีก็คอยดูอยู่ว่าพระองค์จะทรงรักษาเขาในวันสะบาโตหรือไม่ เพื่อจะหาเหตุฟ้องพระองค์
ลก. 6:9 แล้วพระเยซูตรัสกับพวกเขาว่า “เราจะถามพวกท่านว่าในวันสะบาโตนั้นควรจะทำการดีหรือการร้าย ควรจะช่วยชีวิตหรือทำลายชีวิต?”
ลก. 13:10 ขณะที่พระเยซูทรงสั่งสอนอยู่ที่ธรรมศาลาแห่งหนึ่งในวันสะบาโต
ลก. 13:14 แต่นายธรรมศาลาไม่พอใจ เพราะพระเยซูทรงรักษาโรคในวันสะบาโต จึงพูดกับฝูงชนว่า “มีถึงหกวันสำหรับทำงาน จงมาและรับการรักษาโรคภายในหกวันนั้น อย่าทำในวันสะบาโต”
ลก. 13:15 แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสตอบเขาว่า “โอ พวกหน้าซื่อใจคด พวกท่านทุกคนก็ปล่อยวัวปล่อยลาออกจากคอกของมันพาไปกินน้ำในวันสะบาโตไม่ใช่หรือ?
ลก. 13:16 ผู้หญิงคนนี้เป็นบุตรสาวของอับราฮัมซึ่งถูกซาตานผูกมัดไว้ถึงสิบแปดปีแล้ว ไม่ควรหรือที่จะให้นางหลุดพ้นจากเครื่องจำจองนี้ในวันสะบาโต?”
ลก. 14:1 เมื่อพระองค์เสด็จเข้าไปในบ้านผู้นำคนหนึ่งของพวกฟาริสีในวันสะบาโตเพื่อทรงร่วมโต๊ะอาหาร พวกเขาก็คอยดูพระองค์
ลก. 14:3 พระเยซูจึงตรัสถามพวกผู้เชี่ยวชาญบัญญัติและพวกฟาริสีว่า “ถ้าจะรักษาคนป่วยในวันสะบาโตผิดบัญญัติหรือไม่?”
ลก. 14:5 พระองค์ตรัสกับพวกเขาว่า “ใครในพวกท่านถ้ามีลูกหรือวัวตกบ่อ จะไม่รีบฉุดขึ้นมาในวันสะบาโตหรือ?”
ลก. 23:54 วันนั้นเป็นวันจัดเตรียม และใกล้จะถึงวันสะบาโตแล้ว
ลก. 23:56 แล้วพวกนางก็กลับไปจัดแจงเครื่องหอมกับน้ำมันหอม ในวันสะบาโตนั้นพวกเขาก็หยุดพักตามบัญญัติ
ยน. 5:9 ทันใดนั้นเขาก็หายเป็นปกติและยกแคร่ของเขาเดินไป แต่วันนั้นเป็นวันสะบาโต
ยน. 5:10 พวกยิวจึงพูดกับชายที่พระองค์ทรงรักษานั้นว่า “วันนี้เป็นวันสะบาโต การที่เจ้าแบกแคร่ไปนั้นผิดบัญญัติ”
ยน. 5:16 เพราะเหตุนี้พวกยิวจึงเริ่มต้นข่มเหงพระเยซู เพราะพระองค์ทรงทำสิ่งเหล่านี้ในวันสะบาโต
ยน. 5:18 เพราะเหตุนี้พวกยิวยิ่งหาโอกาสที่จะฆ่าพระองค์ ไม่ใช่เพราะพระองค์ฝ่าฝืนกฎวันสะบาโตเท่านั้น แต่ยังเรียกพระเจ้าเป็นบิดาด้วย ซึ่งเป็นการทำตัวเสมอพระเจ้า
ยน. 7:22 โมเสสให้พวกท่านเข้าสุหนัต (สุหนัตไม่ได้มาจากโมเสส แต่มาจากบรรพบุรุษ) และท่านก็ยังให้คนเข้าสุหนัตในวันสะบาโต
ยน. 7:23 ถ้าในวันสะบาโตคนยังเข้าสุหนัตเพื่อไม่ให้ละเมิดธรรมบัญญัติของโมเสสแล้ว พวกท่านยังจะโกรธเราเพราะเราทำให้ชายคนหนึ่งหายเป็นปกติในวันสะบาโตหรือ?
ยน. 9:14 วันที่พระเยซูทรงทำโคลนทาตาชายคนนั้นให้หายบอดเป็นวันสะบาโต
ยน. 9:16 พวกฟาริสีบางคนพูดว่า “ชายคนนี้ไม่ได้มาจากพระเจ้า เพราะเขาไม่ได้รักษาวันสะบาโต” แต่คนอื่นพูดว่า “คนบาปจะทำหมายสำคัญอย่างนั้นได้อย่างไร?” พวกเขาก็ขัดแย้งกัน
ยน. 19:31 วันนั้นเป็นวันเตรียม พวกยิวจึงขอปีลาตให้ทุบขาของคนที่ถูกตรึงให้หักและยกศพออกไป เพื่อไม่ให้ศพค้างอยู่ที่กางเขนในวันสะบาโต (เพราะวันสะบาโตนั้นเป็นวันใหญ่)
กจ. 1:12 แล้วอัครทูตจึงลงจากภูเขามะกอกเทศซึ่งอยู่ใกล้กรุงเยรูซาเล็ม (ระยะทางเท่ากับระยะที่อนุญาตให้คนเดินในวันสะบาโต) แล้วกลับไปกรุงเยรูซาเล็ม
กจ. 13:14 แต่พวกเขาเดินทางต่อไปจากเมืองเปอร์กาถึงเมืองอันทิโอกในแคว้นปิสิเดีย แล้วเข้าไปนั่งในธรรมศาลาในวันสะบาโต
กจ. 13:27 เพราะว่าชาวกรุงเยรูซาเล็มกับพวกผู้ปกครองบ้านเมืองไม่รู้จักพระองค์ หรือเข้าใจคำของพวกผู้เผยพระวจนะที่อ่านกันทุกวันสะบาโต เขาทั้งหลายทำให้คำเหล่านั้นสำเร็จโดยการพิพากษาพระองค์
กจ. 13:42 ขณะที่ท่านทั้งสองกำลังเดินออกไป คนทั้งหลายก็อ้อนวอนพวกท่านให้กล่าวคำเหล่านั้นให้พวกเขาฟังอีกในวันสะบาโตหน้า
กจ. 13:44 เมื่อถึงวันสะบาโตหน้า คนเกือบทั้งเมืองมาประชุมกันฟังพระวจนะของพระเจ้า
กจ. 15:21 เพราะว่าตั้งแต่โบราณมา มีคนประกาศเรื่องของโมเสสในทุกเมือง และมีการอ่านเรื่องของท่านในธรรมศาลาทุกวันสะบาโต”
กจ. 16:13 ในวันสะบาโตเราออกจากประตูเมืองไปยังฝั่งแม่น้ำ เข้าใจว่ามีที่สำหรับอธิษฐาน เราจึงนั่งสนทนากับพวกผู้หญิงที่ประชุมกันที่นั่น
กจ. 17:2 เปาโลจึงเข้าไปในธรรมศาลานั้นเช่นเคย และท่านอ้างข้อความในพระคัมภีร์ถกเถียงกับพวกเขาได้สามวันสะบาโต
กจ. 18:4 เปาโลนั้นถกปัญหาในธรรมศาลาทุกวันสะบาโต และชักชวนทั้งพวกยิวและพวกกรีกให้เชื่อ
คส. 2:16 เพราะฉะนั้นอย่าให้ใครพิพากษาท่านทั้งหลายในเรื่องการกิน การดื่ม ในเรื่องเทศกาล หรือวันต้นเดือน หรือวันสะบาโต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น